นับเป็นการสูญเสียปูชนียบุคคลของข้าราชการตํารวจ ต้นแบบผู้สร้างแรงบันดาลใจอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมให้ชาวบ้านและคนรุ่นหลัง
ดาบวิชัย-ร.ต.ต.วิชัย สุริยุทธ อดีตผู้บังคับหมู่ป้องกันปราบปรามสถานีตำรวจปรางค์กู่ จังหวัดศรีสะเกษ เสียชีวิตด้วยโรครุมเร้าในวัย 77 ปีที่โรงพยาบาลศรีสะเกษถิ่นเกิด ท่ามกลางความโศกเศร้าของครอบครัว เพื่อนข้าราชการตำรวจและประชาชนคนไทยครึ่งค่อนประเทศ
พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตํารวจแห่งชาติ มอบหมายให้ พล.ต.ต.พิษณุุ วัตถุ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดศรีสะเกษ เป็นตัวแทนแสดงความอาลัยมอบพวงหรีด และเงินร่วมทำบุญแก่ครอบครัว ที่สวนสุริยุทธ เลขที่ 192 หมู่ 4 ตำบลพิมาย อำเภอปรางค์กู่ จังหวัดศรีสะเกษ พร้อมเป็นตัวแทน พล.ต.ท.ฐากูร นัทธีศรี ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 มี พ.ต.ท.อิทธิพล กริสว่าง รองผู้กำกับการป้องกันปราบปราม สถานีตำรวจภูธรปรางค์กู่เดินทางไปร่วมพิธีพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ
ประวัติของ ร.ต.ต.วิชัย สุริยุทธ หรือ ดาบวิชัย เป็นผู้ปลูกต้นไม้มากกว่าสองล้านต้นในอำเภอปรางค์กู่ จังหวัดศรีสะเกษ สามารถทำให้อำเภอที่เคยจัดว่าแห้งแล้งที่สุด ปัจจุบันเป็นพื้นที่ที่อุดมสมบูรณ์
เจ้าตัวเป็นชาวอำเภออุทุมพรพิสัย จังหวัดศรีสะเกษ ฐานะทางบ้านยากจน กำพร้าแม่ตั้งแต่เรียนอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ต้องไปรับจ้างทำงานสารพัดช่วยพ่อ ไม่ว่าจะเป็นกรรมกรก่อสร้าง จับกัง กระทั่งได้ศึกษาต่อที่โรงเรียนศรีสะเกษวิทยาลัย
ต่อมาสอบเข้าโรงเรียนพลตำรวจ 3 จังหวัดนครราชสีมา บรรจุสถานีตำรวจภูธรอำเภอเมืองศรีสะเกษนาน 2 ปีย้ายมาประจำสถานีตำรวจภูธรอำเภอปรางค์กู่
ขณะดำรงตำแหน่งผู้บังคับหมู่งานป้องกันปราบปราม สถานีตำรวจภูธรอำเภอปรางค์กู่ เกิดความคิดจะพัฒนาความเป็นอยู่ของชาวบ้านในพื้นที่ให้ดีขึ้น เนื่องจากอำเภอปรางค์กู่ยากจนสุดในจังหวัด มีคดีลักขโมยมากมาย ดาบตำรวจผู้มุ่งมั่นในฐานะเติบโตและเห็นปัญหามาตลอดถึงพยายามผลักดัน
แม้เพียงลำพังคนเดียว
ทำให้เขาตัดสินใจปลูกต้นไม้ เพราะเล็งเห็นว่า ผลที่จะตามมาจะเป็นผลที่ยั่งยืน เป็นประโยชน์ไปถึงคนรุ่นลูกรุ่นหลาน
ตั้งแต่ปี 2531 เป็นต้นมา ทุกเช้าและหลังเลิกงานของทุกวัน ดาบวิชัยจะขี่จักรยานยนต์ ตระเวนปลูกต้นไม้ไปตามพื้นที่ต่าง ๆ ในอำเภอปรางค์กู่ ระยะแรกชาวบ้านต่างมองว่า “เขาเป็นคนบ้า” แต่เขายังคงปลูกต้นไม้อยู่เรื่อยไป
10 ปีผ่านไปสิ่งที่ดาบตำรวจในอำเภอปรางค์กู่เห็นผล เมื่อเกิดโครงการปลูกต้นไม้ในที่สาธารณะเพื่อส่วนรวม ได้แก่ รณรงค์ปลูกต้นยางนาเอาไว้สร้างบ้านเรือน รณรงค์ปลูกต้นตาลเป็นพืชสารพัดประโยชน์ รณรงค์ปลูกต้นคูนต้นไม้ประจำภาคอีสานและประจำชาติไทย และรณรงค์ให้เปลี่ยนการทำนาปีเป็นไร่นาสวนผสม เปลี่ยนอำเภอปรางค์กู่กลายเป็นอำเภอที่อุดมสมบูรณ์ ขณะเดียวกันต้นไม้ที่เขาปลูกนั้นสามารถสร้างอาชีพให้ชาวบ้านในอำเภอได้
ประชาคมอำเภอปรางค์กู่ทั้ง 10 ตำบล พร้อมใจกันลงมติให้ใช้ 4 โครงการรณรงค์เป็นคำขวัญของอำเภอ “ปรางค์กู่อยู่ในป่ายางกลางดงตาล บานสะพรั่งดอกคูน บริบูรณ์ไร่นาสวนผสม”
“ผมว่าโลกของวัตถุเป็นสิ่งสมมติทั้งนั้นแหละครับ ความสุขที่แท้จริงก็อยู่กับธรรมชาติ และรู้จักเคารพธรรมชาติ ต้นไม้นี่ผมจะต้องปลูก ปลูกไปเรื่อย ๆ ปลูกจนกว่าจะตาย” เขาทิ้งวาทะไว้เป็นอนุสรณ์ถึงคนรุ่นหลัง
มีการนำมาทำเป็นหนังโฆษณาเผยแพร่ไปทั่วประเทศกับภาพ “ดาบวิชัย” ชายที่ถือถุงปุ๋ย จอบ หรือเสียม ก้มลงขุดดินปลูกต้นไม้ทั้งต้นยาง ต้นมะค่าแต้ ต้นขี้เหล็ก สะเดา ริมถนนสายหลัก ริมสระขุดใหม่ที่หัวไร่ปลายนาของชาวบ้านนับล้านต้น
นอกจากนี้ ยังทำหน้าที่ในฐานะวิทยากรของหน่วยงานต่าง ๆ นำแนวทางพุทธศาสนามาประยุกต์ใช้ ทั้งเรื่องการปลูกต้นไม้ รักษาสภาพแวดล้อมให้ชุมชน และรณรงค์เรื่องโทษของยาเสพติดแก่เยาวชนอีกด้วย
คำสั่งเสียสุดท้ายที่ฝากลูกสาวไว้ให้บอกทุกคน
“อย่าเซ่า ชีวิตมีอิหยังให้เฮ็ดอีกหลาย”