เมื่อเวลา 14:00 น.วันที่1ธ.ค.66 ที่กองบังคับการปราบปราม พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผู้บังคับการปราบปราม พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ , พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย รอง ผู้บังคับการปราบปราม พ.ต.อ.เอกสิทธิ์ ปานสีทา ผู้กำกับการ4กองบังคับการปราบปราม พ.ต.ท.เอนก บุญตา รองผู้กำกับการ4กองบังคับการปราบปราม ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุม นายภาณุรักษ์ หรือปาล์ม เอี่ยมแฟง อายุ 29 ปีผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ที่จ.178/2566 ลงวันที่ 27 พฤศจิกายน 2566 ได้ที่ ปากซอยจตุโชติ 20 ถนนจตุโชติแขวงออเงิน เขตสายไหม กรุงเทพฯ และ นายธเนศ หรือโอ๋ กมลพุฒิธร อายุ 43 ปีผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ที่จ.183/2566 ลงวันที่ 30 พ.ย.2566 ได้ที่ลานจอดรถอะพาร์ตเมนต์ ถนนลาดพร้าววังหิน แขวงและเขตลาดพร้าว กรุงเทพฯ ในข้อหา “ร่วมกันเรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นเป็นการตอบแทนในการที่จะจูงใจหรือได้จูงใจเจ้าพนักงาน โดยทุจริตหรือผิดกฎหมายหรือโดยอิทธิพลของตนให้กระทำการหรือไม่กระทำการในหน้าที่อันเป็นคุณหรือเป็นโทษแก่บุคคลใด, ร่วมกันกรรโชก และร่วมกันฉ้อโกง”
พ.ต.อ.เอกสิทธิ์ กล่าวว่า พฤติการณ์เมื่อประมาณเดือนตุลาคม2566 ที่ผ่านมา ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดยกองบังคับการปราบปราม ได้ร่วมกันบูรณาการดำเนินการจับกุมกลุ่มคนร้ายที่ได้ร่วมกันปลอมป้ายภาษีรถยนต์ และปลอมแผ่นป้ายทะเบียนรถยนต์ พร้อมตรวจยึดรถยนต์หรูได้จำนวนหลายคัน ในหลายพื้นที่ทั่วประเทศพร้อมตรวจยึดรถยนต์หรูผิดกฎหมายได้หลายคันหนึ่งในนั้นมีรถยนต์ของผู้เสียหายรวมอยู่ด้วย ต่อมานายภาณุรักษ์ และนายธเนศ ผู้ต้องหาสองรายนี้อยู่ในกลุ่มเครือข่ายค้ารถยนต์มือสองและรถหลุดจำนำ ทราบว่าผู้เสียหายถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปรามตรวจยึดรถยนต์ จึงติดต่อผู้เสียหายอ้างว่า สามารถเคลียร์คดีและนำรถยนต์มาคืนผู้เสียหายได้ โดยจะต้องเสียค่าดำเนินการเป็นเงินจำนวน 1,000,000 บาท ผู้เสียหายจึงหลงเชื่อโอนเงินเข้าบัญชีของ นายภาณุรักษ์ ครั้งแรกเป็นเงินจำนวน 100,000 บาท เพื่อเป็นค่าดำเนินการ
พล.ต.ต.มนตรี กล่าวต่อว่า ต่อมาผู้เสียกลับถูกพนักงานสอบสวน กองกำกับการ4กองบังคับการปราบปราม เรียกสอบปากคำเพิ่มเติมเกี่ยวกับคดี ทำให้ผู้เสียหายรู้ตัวว่าถูกหลอกจึงปรึกษากับพนักงานสอบสวนถึงเรื่องดังกล่าว เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงลงพื้นที่สืบสวนหาเบาะแส และรวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางออกหมาบจับ นายภาณุรักษ์ และนายธเนศกระทั่งติดตามจับกุม นายภาณุรักษ์ ได้ที่ปากซอยจตุโชติ 20 ถนนจตุโชติแขวงออเงิน เขตสายไหม กรุงเทพฯ และนายธเนศ ได้ที่ลานจอดรถอะพาร์ตเมนต์ ถนนลาดพร้าววังหิน แขวงและเขตลาดพร้าว กรุงเทพฯ พล.ต.ต.มนตรี กล่าวต่ออีกว่า จากการสอบสวน นายภาณุรักษ์ หรือปาร์ม ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ส่วน นายธเนศ หรือโอ๋ ยังคงปากเข็งให้การปฎิเสธ อย่างไรก็ดีเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมไม่ปักใจเชื่อ ตรวจสอบเพิ่มเติมพบว่า นายธเนศ หรือโอ๋ มีหมายจับศาลแขวงนนทบุรี อีก1หมายจับในขข้อหา “ยักยอกทรัพย์” จึงควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งสองรายส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีต่อไป“ขอฝากประชาสัมพันธ์เตือนภัยประชาชนว่า ทางตำรวจกองปราบปรามหรือ ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ไม่มีการเรียกรับเงินเพื่อวิ่งเต้นหรือช่วยเหลือในทางคดีแต่อย่างใด ซึ่งหากประชาชนพบเห็นการกระทำในลักษณะดังกล่าว ขอให้เชื่อว่าเป็นการหลอกลวง อย่าหลงเชื่อโดยเด็ดขาด” พล.ต.ต.มนตรี กล่าว