เมื่อวันที่17ธ.ค.66 พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พล.ต.ต.ไพบูลย์ น้อยหุ่น รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ร่วมกันสั่งการ พล.ต.ต.อธิป พงษ์ศิวาภัย ผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ต.อ.ประดิษฐ์ เปการี รองผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ต.อ.ชิษณุพงษ์ ไหวดี ผู้กำกับการ3กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ต.ท.ประดิษฐ์ สุวรรณดี สารวัตรกองกำกับการ3กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี นำกำลังจับกุม นายไกรวี อ่วมน้อย อายุ 30 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 3416/2566 ลงวันที่ 6 ตุลาคม 2566 ฐานความผิด “ใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นที่ผู้ออกได้ออกให้แก่ผู้มีสิทธิใช้เพื่อใช้ประโยชน์ในการชำระค่าสินค้า ค่าบริการหรือหนี้อื่นแทนการชำระด้วยเงินสด หรือใช้เบิกถอนเงินสดโดยมิชอบในประการที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน, โดยทุจริตหรือหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่บุคคลใดบุคคลหนึ่ง, เข้าถึงโดยมิชอบซึ่งระบบคอมพิวเตอร์และข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่มีมาตรการป้องกันการเข้าถึงโดยเฉพาะและมาตรการนั้นมิได้มีไว้สำหรับตน และฉ้อโกงโดยการแสดงตนเป็นบุคคลอื่น” พร้อมตรวจยึดของกลาง โทรศัพท์มือถือ จำนวน 2 เครื่อง โดยจับกุมได้ที่ บริเวณลานจอดรถท่าอากาศยานนานาชาติหาดใหญ่ ตำบลคลองหลา อำเภอคลองหอยโข่ง จังหวัดสงขลา
สืบเนื่องจากผู้เสียหายถูกนายไกรวี ผู้ต้องหา หลอกเอารหัส OTP บัตรเครดิตไปซื้อสินค้า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสืบสวน พบว่า มีผู้เสียหายอีกหลายรายได้ถูกผู้ต้องหาลักลอบเข้าไปใช้บัญชีผู้ใช้งานแอพลิเคชั่นขายของออนไลน์ของผู้เสียหาย โดยผู้ต้องหาจะสวมรอยใช้ชื่อและสัญลักษณ์รูปภาพเลียนแบบบริษัทขายของออนไลน์เพื่อหลอกลวงผู้เสียหายให้หลงเชื่อว่าผู้ต้องหาเป็นเจ้าหน้าที่ของบริษัทขายของออนไลน์ จากนั้นจะเข้าไปสนทนาพูดคุยกับผู้เสียหายผ่านการส่งข้อความทางไลน์หรืออีเมล์ ออกอุบายเพื่อให้ผู้เสียหายแจ้งหมายเลข OTP ของบัตรเครดิต ทำให้ผู้ต้องหาสามารถลักลอบนำข้อมูลบัตรเครดิตของผู้เสียหายไปใช้ซื้อสินค้าได้สำเร็จ
จากการสืบสวนพบว่า ข้อมูลบัตรเครดิตที่ผู้ต้องหาลักลอบนำไปใช้ เป็นการใช้ผ่านแอปพลิเคชันบัตรเครดิตของธนาคารทำรายการใช้วงเงินในบัตรด้วยวิธีสแกน QR Payment ผ่านร้านค้าของนายไกรวี ผู้ต้องหาในคดีนี้และยังเป็นผู้กดเงินที่ได้มาจากการหลอกลวงหน้าตู้เอทีเอ็มด้วยตนเอง นอกจากนี้ยังพบว่ามีผู้เสียหายรายอื่นที่ผู้ต้องหาได้เอาข้อมูลบัตรเครดิตไป โดยเป็นการซื้อสินค้าทางออนไลน์ประเภททองคำและสมาร์ทโฟน ซึ่งผู้รับสินค้าดังกล่าวก็คือนายไกรวี เช่นกัน กระทั่งต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมสืบสวนทราบว่า ผู้ต้องหาได้เดินทางไปในพื้นที่ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา โดยเครื่องบิน จึงนำกำลังติดตามและจับกุมได้ดังกล่าว
สอบสวน นายไกรวี เบื้องต้น ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ปักใจเชื่อ เพราะตรวจสอบประวัติพบว่า ยังมีหมายจับศาลจังหวัดเพชรบุรี และหมายจับศาลจังหวัดสุพรรณบุรีในลักษณะเดียวกันติดตัวอีก2หมาย จึงควบคุมตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวนกองกำกับการ3กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ดำเนินคดีต่อไป