สืบนครบาลจับชายเร่รอนตะเวนลักทรัพย์ข่มขืนหลอกหลวงคนแก่

 

ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาลให้เร่งรัดปราบปรามอาชญากรรมที่สร้างความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนในพื้นที่กรุงเทพมหานคร มีเพจสืบนครบาลได้รับแจ้งว่ามีชายเร่ร่อนตระเวนก่อคดีลักทรัพย์ หลอกลวง ตลอดจนข่มขื่นในพื้นที่ตลิ่งชัน พระราชวัง บางยี่ขัน

พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล อำนวยการให้ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ สระทองออย รองผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล พ.ต.อ.วิชิต ถิรขจรวงศ์ ผู้กำกับการสืบสวน 1 กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล พ.ต.ท.พีรบูรณ์ แก้วดู รองผู้กำกับการสืบสวน 1 กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล พ.ต.ท.เอกศิษฐ์ วรกิตติ์ฐากรณ์ รองผู้กำกับการสืบสวน 1 กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล สั่งการให้ พ.ต.ต.พิสิทธิ์ เตชะ สารวัตรกองกำกับการสืบสวน 1 กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล พร้อมพวกออกติดตาม

กระทั่งจับกุมนายมนัส โหเทพา อายุ 39 ปี ที่อยู่ 135 หมู่ 5 ตำบลหนองหญ้าไซ อำเภอหนองหญ้าไซ จังหวัดสุพรรณบุรี ตามหมายจับศาลอาญาตลิ่งชัน ที่ 462/2566 ลงวันที่ 4 กันยายน 2566 ข้อหา “ข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่น โดยผู้อื่นนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้หรือโดยทำให้ผู้อื่นนั้นเข้าใจผิดว่าตนเป็นบุคคลอื่น” ตามพฤติการณ์ หลอกลวงผู้เสียหายใช้เฟซบุ๊กอ้างเป็นตำรวจ สามารถช่วยให้คำปรึกษาเรื่องคดีความได้ เมื่อผู้เสียหายหลงเชื่อ ได้นัดไปพบที่ห้องพักแห่งหนึ่งย่านตลิ่งชัน แล้วข่มขืน ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบจนทราบว่า ผู้ที่ลงมือก่อเหตุนั้น คือ นายมนัส โหเทพา แต่หลบหนีการจับกุมมาตลอด ตรวจสอบยังมีหมายจับคดีในลักทรัพย์ใในเสลากลางคืนวังบูรพา และท้องที่บางยี่ขัน หลอกลวงเอาโทรศัพท์จากผู้เสียหายอายุประมาณ 77 ปี ไปใช้งานแอปพลิเคชันเบิกถอนเงินสด  55,000 บาท

ต่อมาตำรวจสืบสวนนครบาลแกะรอยทราบว่า ผู้ต้องหาหลบหนีการจับกุมด้วยการแฝงตัวเป็นคนเร่ร่อน อาศัยนอนและหาข้าวกินตามสถานที่ที่มีการแจกอาหารให้กับคนเร่ร่อนพื้นที่เขตพระนคร แล้วยังก่อเหตุลักทรัพย์และหลอกลวงประชาชนอยู่อีกหลายครั้ง ก่อนควบคุมตัวขณะนั่งพักอยู่บริเวณริมถนนข้างวัดชนะสงคราม ซอยรามบุตรี ถนนจักรพงษ์ แขวงชนะสงคราม เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร

สอบสวนให้การว่า  ตกงาน ปัจจุบันไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง อาศัยนอนอยู่ตามร้านฟาสต์ฟู๊ดที่เป็น 24 ชั่วโมง หมุนเวียนอยู่บริเวณสนามหลวง สะพานพระราม 8 จรัญสนิทวงศ์ กินข้าวตามสถานที่ที่มีการแจกข้าวสำหรับคนเร่ร่อน เป็นระยะเวลามานานหลายเดือนแล้ว  ยอมรับว่าได้มีการกระทำความผิดตามหมายจับจริง เพราะต้องการเงินจริง เคยเข้าไปตีสนิทกับนักท่องเที่ยวเพื่ออาศัยกินดื่มฟรี เมื่อสบโอกาสพี่นักท่องเที่ยวเมาจะใช้จังหวะเผลอลักทรัพย์ติดตัวมา จำนวนหลายครั้ง ขณะเดียวกันยังเคยมีพฤติการณ์เข้าไปตีสนิทกับผู้คนต่าง ๆ อ้างเป็นครูพละ เพิ่งมาบรรจุใหม่ เรียกความน่าเชื่อถือ ทำทียืมเงินแล้วหลบหนีไป ส่วนคดีข่มขืนนั้น ขอให้การภาคเสธ

 

RELATED ARTICLES