สับขาหลอก สพยอกให้นักวิ่งตายใจ
สุดท้ายการประชุมพิจารณาแต่งตั้งโยกย้ายวาระนายพลประจำปี 2560 ที่เจอ “โรคเลื่อน” มาจากสัปดาห์ก่อนด้วยเหตุความไม่ลงตัว และทำท่าจะขยับข้ามวันนัดหมาย “เดดไลน์” ไปวันที่ 31 สิงหาคม 2560
ทำไปทำมา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะประธาน ก.ตร. ปรากฏร่างที่สำนักปทุมวันตามกำหนดเดิม 30 สิงหาคม 2560
เปิดห้องประชุมศรียานนท์ ถกโผโยกย้ายนายพลระดับ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ถึง ผู้บังคับการ รวดเดียว 183 ตำแหน่งในเวลาเพียงชั่วโมงเศษ
หลายเก้าอี้เป็นไปตามคาด แต่บางเก้าอี้เกินคาดหมาย
โฟกัสตำแหน่งสำคัญ “คุมทัพเมืองหลวง” แทน พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ที่จะเกษียณปลายเดือนกันยายนนี้ หลังจากขับเคี่ยวกันระหว่าง พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 นรต.35 แต่หล่นมาจบร่วมรุ่น 36 พร้อมกับ พล.ต.ท.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจสันติบาล คู่แคนดิเดต
ที่ประชุมลงมติฟันเปรี้ยงให้ “บิ๊กหยม” พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช คืนถิ่นไปนั่งตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจนครบาล และโยก “เดอะปั๊ด” พล.ต.ท.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ไปเป็นผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 แทน
ส่วนเก้าอี้ระดับกองบัญชาการตำรวจภูธรภาคอื่น
“บิ๊กเด่น” พล.ต.ท.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการสำนักงานเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร นรต.38 ลงเป็นผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 แทน พล.ต.ท.ชนสิษฏ์ วัฒนวรางกูร ที่โดนดันขึ้นผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มี พล.ต.ต.สุรชัย ควรเดชะคุปต์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล นรต.36 ขึ้นผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4
“เดอะบัว” พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 อีก นรต.36 แถมซี้ปึก “บิ๊กแป๊ะ” พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้รับความไว้วางใจให้ไปคุมสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง แทน พล.ต.ท.ณัฐธร เพราะสุนทร รุ่นน้อง นรต.37 ที่โดนดันขึ้นผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเช่นกัน
เปิดทางให้ พล.ต.ท.กิตติพงษ์ เงามุข ผู้บัญชาการสำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ นรต.36 โยกเป็นเจ้าของรหัส “เจดีย์ 1” แทน ขณะที่ พล.ต.ท.สรศักดิ์ เย็นเปรม ผู้บัญชาการสำนักงบประมาณ นรต.35 หยิบชิ้นปลามันเป็นผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8
นอกนั้น “สายแข็ง” นิ่งสนิทบนบังเหียนภูธรตัวเดิม
วันพรุ่งนี้จะขออนุญาต ชำแหละเพิ่มเติม ถึงบรรดาหัวกะทิชั้นดี ตำแหน่งหลักในอาณาจักรใหญ่นครบาลและสอบสวนกลาง
