“ทำไมถึงชอบงานข่าว ก็เพราะเราชอบมัน ทำแล้วมีความสุข”   

ผู้ประกาศสาวสวยคนเก่งของค่าย TNN 24 สถานีข่าว 24 ชั่วโมง

“เมย์”ชนิตร์นันทน์ ปุณณะนิธิ ทายาท พล.ต.นพ.อรสิทธิ์ ปุณณะนิธิ อดีตผู้อำนวยการโรงพยาบาลค่ายประจักษ์ศิลปาคม จังหวัดอุดรธานี และ พ.อ.พิเศษ พญ.เสาวณี ปุณณะนิธิ หลังเรียนจบมัธยมต้นโรงเรียนเซนต์แมรี่ ถิ่นเกิดอีสานเหนือ ตัดสินใจเข้ากรุงเรียนต่อโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา สอบเทียบผ่านตั้งแต่ชั้นมัธยมปีที่ 5 สอบเอ็นทรานซ์ติดคณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

“ทำไมเลือกเรียนนิเทศศาสตร์ ไม่เลือกเรียนอักษรศาสตร์น่ะหรือ เพราะเมย์อยากทำกิจกรรม เราไม่ใช่ผู้หญิงเรียบร้อย พอได้เรียนก็รู้ตัวเองว่าชอบอะไร” เธอให้เหตุผลการก้าวสู่เส้นทางสื่อมวลชน เมื่อเป็นนิสิตรั้วพระเกี้ยวลงเรียนวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ ภาควิชาสื่อสารมวลชน ก่อนไปฝึกงานที่สถานีวิทยุแห่งประเทศไทย จังหวัดกระบี่ นาน 1 เดือน เรียนรู้การทำรายการวิทยุ การใช้วิทยุ การใช้ห้องคอนโทรล การจัดรายการ และการใช้ชีวิต

เมย์ยอมรับว่า ในวิชาที่เรียนทั้งหมด ตัวเองรู้สึกชอบการเป็นผู้ประกาศข่าวมากที่สุด คิดว่า เวลาตัวเองได้อ่านข่าวแล้วมีความสุขมาก และจริงๆ ก็เป็นความใฝ่ฝัน แต่ก็มีโอกาสมาโดยที่ไม่ได้ตั้งใจ เพราะหลังจากจบปริญญาตรีก็เรียนต่อปริญญาโทสาขาเดียวกัน มหาวิทยาลัยเดียวกัน เพราะเป็นจังหวะปี 2540  ภาวะเศรษฐกิจต้มยำกุ้ง ฟองสบู่แตก พ่อเลยบอกให้เรียนต่อที่เดิม

ผู้ประกาศข่าวสาวเล่าว่า พอเรียนสักประมาณปีเศษ มีโอกาสเข้ามาทำงานโดยไม่ได้ตั้งใจ เมื่อเพื่อนสนิท คือ ตาล-ประวีณมัย บ่ายคล้อย ตอนนั้นฝึกงานข้างบนชั้น 15 ของสถานีโทรทัศน์ยูบีซี เป็นฝ่ายสื่อสารองค์กชวนมาสมัครทำงานที่ช่องยูบีซี 17 ที่กำลังขยายชั่วโมงข่าว ไปสมัครวันสุดท้ายพอดี

อภิศักดิ์ ธนเศรษฐกร ผู้บริหารยูบีซีขณะนั้นเลือกเมย์เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของทีมผู้ประกาศข่าว ทำให้เธอเติบโตในวงการมาถึงทุกวันนี้ แม้ตอนแรกเป็นเพียงฟรีแลนด์ สามารถไปหาประสบการณ์ช่องอื่นได้ด้วย เธอจึงมีเวลาไปทำงานอยู่ช่องเอ็นบีที ที่มี ฉัตรชัย ตะวันธรงค์ และ พีระวัฒน์ นั่งบริหาร ไปอ่านข่าวภาคค่ำของช่อง 11 เอ็นบีที ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เมย์ขยับมาทำรายการทอล์กควบกันไปด้วย เป็น “รายการชุมชนข่าว” คู่ ธีระ ธัญญะอนันต์ผล  พอหมดสัมปทานกับเอ็นบีที ทีมบริหารย้ายไปผลิตให้ช่องสปริงนิวส์ เมย์ยังคงเป็นตัวหลักในการเกาะติดข่าว แถมได้รับโอกาสจาก ดร.สรจักร เกษมสุวรรณ ประธานบอร์ด อสมท สมัยนั้น มาอ่านข่าวที่ช่อง 9 โมเดิร์นไนน์  พร้อมจัดรายการ “คลุกวงข่าว”

กระทั่งถึงยุคทีวีดิจิตอลเฟื่องฟู มีการเซ็นสัญญาคนข่าวเข้าสังกัดใครสังกัดมัน เมย์บอกว่าเป็นโอกาสดีๆ ที่มีผู้ใหญ่หยิบยื่น เมตตาจากหลายช่อง แต่ที่สุดก็มาลงตัวที่ TNN 24 ซึ่งเป็นที่เดิมจากยูบีซีที่เราทำงานมาตั้งแต่แรก “รู้สึกว่า เรามาทำงานข่าว แล้วเราก็อยากทำข่าวให้เต็มที่กับช่องที่เขาเน้นเรื่องข่าว สาเหตุที่เลือกตรงนี้ คงเป็นความลงตัวหลายๆ อย่าง มันเป็นเรื่องท้าทาย สามารถทำข่าวได้เต็มที่ แบบเจาะลึก ไม่ใช่ช่องอื่นๆ ที่เป็นวาไรตี้ มีรายการ แล้วมีข่าวแค่บางช่วง แต่นี่คือสถานีข่าวทั้ง 24 ชั่วโมงเวลามีสถานการณ์อะไรขึ้นมา เรื่องข่าวเราสามารถเกาะติดได้ตลอด”

สาวสถานีโทรทัศน์ TNN 24 ยกตัวอย่างเหตุการณ์ระเบิดศาลพระพรหม แยกราชประสงค์ วันนั้นสถานีล้มผังรายการทั้งหมด เพื่อรายงานเกาะติดสถานการณ์สดยาว จำได้ว่า ตัวเองนั่งรายงานหน้าจอโทรทัศน์ประมาณ 10 ชั่วโมงยาวต่อเนื่องถึงวันรุ่งขึ้น เราก็ไม่รู้สึกเหนื่อย แต่รู้สึกสนุกที่ผู้ใหญ่ให้โอกาส แล้วได้ทำมัน

“ทำไมถึงชอบงานข่าว ก็เพราะเราชอบมัน ทำแล้วมีความสุข มีอะไรที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา เป็นเรื่องที่เราจะได้เจอสิ่งใหม่ๆ ตลอด เป็นอาชีพที่ได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ตลอด รอบตัวเรา ไม่ว่าจะเป็นการเรียนรู้คน เช่น เมื่อสัมภาษณ์นักการเมืองคนนี้ หรือว่าแขกที่เราสัมภาษณ์คนนี้ จริงๆ เป็นคนยังไง เวลาคุย จะต้องคุยยังไงให้ได้ความจริงออกมา”เมย์ตอบโจทย์ตัวเอง

เจ้าตัวว่า สมัยทำปอกเปลือกข่าวที่สปริงนิวส์ เป็นรายการทอล์กใหญ่ ประมาณชั่วโมงครึ่ง มีแขก 3 คน เช่น ฝ่ายหนึ่งฝ่ายเหลือง ฝ่ายหนึ่งฝ่ายแดง ฝ่ายหนึ่งอยู่ตรงกลาง แทบจะตีกันกลางรายการ แต่นั่นเป็นความสนุกของเรา เป็นรายการที่เหนื่อยมาก เพราะวันหนึ่งต้องทำการบ้านเยอะมาก ต้องอ่านข้อมูลเป็นตั้งๆ อย่างนี้ เพื่อจะรู้ว่าคนๆ นี้เป็นยังไง ใครพูดจริง ใครโกหก เรื่องราวเป็นยังไง เหมือนกับว่าเราได้ไขโจทย์ในสิ่งที่เราคิดว่าเราทำได้ เมื่อทำได้ก็จะภูมิใจกับมัน

ผ่านหน้าจอแก้วนาน 16 ปีเต็ม เธอมองอนาคตว่า อยากจะเป็นเทรนเนอร์ที่จะได้เอาความรู้เกี่ยวกับสิ่งที่เราได้มาตลอดถ่ายทอดให้คนอื่น เรามองว่า การสื่อสาร ไม่ใช่แค่สื่อมวลชน มันรวมถึงทุกอย่าง การพูดคุยกันระหว่างบุคคล หรือแม้แต่ไม่พูดคุย แต่เป็นภาษากาย การแต่งตัว สไตล์ การเลือกใช้สี บ่งบอกถึงความเป็นตัวตนของคุณได้ เป็นการสื่อสารอีกแบบหนึ่ง เหมือนเป็นการสื่อสารจากจิตใต้สำนึกที่บางทีไม่ต้องพูด แต่คนอื่นก็รู้สึกกับคุณในแบบนั้นได้จากสไตล์การแต่งตัวของคุณ จากท่าทาง น้ำเสียงที่คุณพูด จากหลายๆ อย่างในตัวคุณ พวกนี้คือแพรสชั่น ของเรา ในการที่เราอยากจะเรียนรู้ และเราสนุกในการเรียนรู้ แล้วถ่ายทอดให้คนอื่นจากสิ่งที่เรามี เป็นความภาคภูมิใจของเราด้วย

ปัจจุบัน เธอเริ่มปั่นความฝันด้วยการทำเพจ “พูดดี พูดเท่ กับเมย์ ชนิตร์นันทน์” ผ่าน FB Page : maychanitnun และ IG : may_chanitnun รวมถึง Yutube : MayChaNice TV  นำเอาความรู้ไปถ่ายทอดให้เกิดประโยชน์แก่คนที่สนใจ

RELATED ARTICLES