ลูกคนเดียวของครอบครัวอดีตนายตำรวจมือสอบสวนคนดังนครบาล
วันนี้สวมบทผู้ประกาศข่าวและพิธีกรรายการ “เรื่องเล่าชาวบ้าน” และ “รู้แล้วรวย Start up” ทางช่อง 5
“กวาง”พิมพ์รวี ทังสุบุตร ทายาท พ.ต.ท.เมธา ทังสุบุตร อดีต รอง ผกก.สส.สน.สมเด็จเจ้าพระยา สาวผู้มาดมั่นแห่งวิกสนามเป้า ศิษย์เก่าโรงเรียนเบญจมราชานุสรณ์ ฝันอยากเป็นหมอฟัน แต่กลายเป็นคนกลัวเลือดถึงกลับเปลี่ยนใจหันเหไปเรียนโภชนาการเข้าคณะอุตสาหกรรมเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
เธอบอกว่า อยากเป็นนักโภชนาการเพราะชอบดูแลตัวเอง อยากรู้ว่า ผู้หญิง หรือผู้ชายคนี้ต้องทานอาหารประเภทไหน เหมือนเป็นคนเข้าไปจัดอาหารให้ สุดท้ายพอเรียนจริง ๆ กลับไม่ได้ไปตรงนั้น มุ่งไปที่ออกแบบผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับแนวเคมีคอยดูว่า วัสดุไหนเหมาะกับผลิตภัณฑ์อะไรที่ไม่ทำปฏิริยาซึ่งกันและกัน
เข้ามหาวิทยาลัยไปเรียนปีแรก กวางได้รับคัดเลือกให้เป็นลีดเดอร์ของคณะ แถมโดนชักนำจากเพื่อนให้ไปถ่ายรูปโมเดลลิ่ง เจอคนมากมายหลายวงการ กระทั่งปี 3 เริ่มงานถ่ายโฆษณาเคเอพซี และโค้ก จนไปรู้จัก “สินีย์ หงษ์มานพ” นักแสดงละครยุคเก่าช่วยติวเตอร์การแสดงมีส่วนทำให้เธอไปเป็นดาราละครจักร ๆ วงศ์ ๆ เรื่อง “เกราะกายสิทธิ์” รับบท จันทราภา นางเอกสาวสวยผู้เข้มแข็งและเด็ดเดี่ยว ยอมหักไม่ยอมงอ ออกอากาศทุกเช้าเสาร์-อาทิตย์ทางช่อง 7 สี
หลังเรียนจบปี 4 ได้งานทำเป็นพิธีกรคู่ “จอห์น นูโว”ในรายการเกี่ยวกับเทคโนโลยีไอทีทางทรูวิชชั่นส์ ควบคู่กับการศึกษาต่อปริญญาโท คณะอุตสาหกรรมเกษตรที่มหาวิทยาลัยเดิม วันหนึ่งได้ยินวิทยุประชาสัมพันธ์ช่อง 5 รับสมัครผู้ประกาศข่าวหน้าใหม่ในโครงการ Gen 5 Academy คัดเลือกผู้เข้ามาทำหน้าที่เป็นผู้ประกาศ และผู้ดำเนินรายการข่าวหน้าใหม่ ประจำสถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5 เธอพร้อมเพื่อนอีก 3 คนจึงชวนกันมาลองชิมลางดู
“มีผู้สนใจมาสมัครทั้งหญิงและชายราว 1,500 คน รับแค่ 6 คน กวางได้รับคัดเลือกเป็น 1 ในจำนวนนั้น ส่วนเพื่อนที่มาด้วยกันหลุดหมดเลย ตอนสอบคัดเลือกตื่นกล้องเหมือนกัน ที่คิดมาทำตรงนี้ เพราะอยากทำงานที่มันใช้สมอง กวางคิดมาแต่เด็กแล้ว มันได้ใช้ความคิด ได้อัพเดทชีวิต การที่ได้มาเป็นนักข่าวเหมือนกับต้องแอคทีฟตัวเองตลอดเวลา กวางมองว่า การที่จะมาเป็นผู้ประกาศข่าวมานั่งอ่านข่าวเฉย ๆ มันไม่เพียงพอ ต้องมีความรู้ด้วย ไม่เช่นนั้นจะพูดอะไรออกมาจากความรู้สึกความเข้าใจไม่ได้”
สาวพิธีกรายการทางช่อง 5 ให้เหตุผลอีกว่า แรงกระตุ้นที่อยากให้มาทำอาชีพนี้อีกอย่าง เพราะเป็นอะไรที่แสดงความเป็นตัวตนของตัวเองได้ด้วย แม้ผู้ประกาศข่าวอาจไม่ได้ใส่ความคิดเห็นของตัวเองมากนัก แต่ก็จะมีงานพิธีกรที่ทำให้เราสามารถเป็นตัวเองได้บ้างถึงจะมีกรอบ และเราก็สามารถออกมานอกกรอบได้ มันเป็นตัวตนของเรา ยอมรับว่า ก่อนหน้าไม่เคยมีประสบการณ์เรื่องข่าวเลย มาที่นี่จะสอนให้เราเรียนรู้จากรุ่นพี่และลงภาคสนามทำข่าวด้วย
ระยะเวลา 3 ปีแล้วที่เธอรับบทนักข่าว ผู้ประกาศข่าว รวมไปถึงพิธีกรรายการบุษบายามเช้า เธอรู้สึกสนุกและติดใจกับงานที่ทำ “กวางได้มีโอกาสไปทำข่าวการเมือง ข่าวสายทหาร สายเศรษฐกิจ แต่ไม่ได้มีโอกาสไปทำข่าวสายตำรวจ ทั้งที่ตอนเด็กชอบดูข่าวอาชญากรรม คลุกคลีไปอยู่โรงพักกับพ่อ จะเห็นพ่อทำงาน สมัยนั้นไม่มีคอมพิวเตอร์ ใช้พิมพ์ดีดสอบปากคำผู้ต้องหาไปด้วย รู้สึกอาชีพของพ่อเป็นอาชีพที่เท่ ต้องงัดเอาความเป็นจริงออกมาให้ได้ เพราะพ่ออยู่ฝ่ายสืบสวนสอบสวน ตรงนี้เองมันทำให้กวางรู้สึกว่า ชื่นชอบอะไรเกี่ยวกับเรื่องการค้นหาความเป็นจริง ชอบจับผิด ดูการ์ตูน ก็ดูคินดะอิจิกับคดีฆาตกรรมปริศนา ชอบเรื่องแนวสืบสวนสอบสวน ชอบอ่านเชอร์ล็อกโฮล์มส์ รู้สึกว่าชอบ”
“สมัยเด็กเวลาดูข่าวก็จะดูข่าวอาชญากรรมก่อน หนังสือพิมพ์ก็จะอ่านข่าวอาชญากรรมก่อน และด้วยความที่พ่อกับแม่มีลูกคนเดียวจะชอบดูรายการที่สมัยก่อนจะมีคือ รายการเบาะแส เขาจะให้เราระมัดระวังตัวเองมากจนมันซึมเข้าไปในสายเลือดกลายเป็นคนที่ชอบจับสังเกตพวกโรคจิต หรือเป็นแนวแบบคดีฆาตกรรมจะมีลักษณะเป็นอย่างไรก็เลยชอบดูอะไรพวกนี้เพื่อระมัดระวังตัวจะได้ดูว่า สังคมมันเป็นอย่างไรบ้าง แต่น่าเสียดายพอมาทำงานข่าวก็แทบจะไม่ได้ลงไปแตะงานตรงนี้เลย ไม่ได้อยู่สายอาชญากรรมเลยจะมีบ้างแค่เวียนไปทำ”
อดีตนางเอกละครที่ผันตัวมาอยู่วงการข่าวบอกอีกว่า การได้มาทำงานตรงนี้ พ่อไม่เคยว่าอะไร พ่อจะให้เราเป็นคนเลือกเองตั้งแต่สมัยเรียนแล้ว ไม่บังคับ เหมือนกับให้เราหาตัวเองว่า ชอบอะไร เราก็จะไปปรึกษาบ้าง ถามพ่อและแม่ว่า มองอย่างไร มีความคิดเห็นอย่างไรเพื่อนำกลับมาคิดแก้ไขปรับปรุง หลายครั้งที่เราต้องทำอะไรเสี่ยง ๆ เขาก็รู้ว่าเป็นหน้าที่ แต่ก็ห่วง โชคดีที่เราไม่ค่อยเจอเหตุการณ์ร้าย ๆ เวลาออกไปทำข่าว เช่น ตอนชุมนุมเสื้อแดง มีเหตุระเบิดหลายครั้ง เราก็ไม่ได้อยู่ในวันนั้นด้วย
ส่วนเหตุโศกนาฏกรรมเฮลิคอปเตอร์ตก 3 ลำรวด มีช่างภาพโทรทัศน์ช่อง 5 สังเวยชีวิตไปด้วย เธอยอมรับว่า ปกติการขึ้นเฮลิคอปเตอร์ไปทำข่าวไม่มีใครซีเรียส ตัวเองก็เคยขึ้นบ่อย แต่พอมีเหตุการณ์ครั้งนั้น ทำเอาทุกคนผวา เพื่อนก็เป็นผู้สื่อข่าวในวันนั้นเกือบต้องขึ้นไปด้วย แต่ที่เต็มเลยให้ช่างภาพขึ้นไปคนเดียว หลังจากเหตุการณ์นั้น ทำให้เรารู้สึกถึงความปลอดภัยในการทำงานอยู่บ้าง หากทว่าเราเป็นคนข่าว ก็จำเป็นต้องทำหน้าที่หาข่าว หนีไม่ได้
“ณ ตอนนี้กวางยังมีความสุขต่องานตรงนี้ สนุกกับงานข่าว สนุกกับงานอ่านข่าว สนุกกับการที่ได้เรียนรู้ รู้สึกว่า อาชีพนี้ทำให้เราได้อะไรหลายอย่าง ได้ทำอะไรที่ไม่เหมือนคนอื่น มันไม่ใช่ง่ายๆ ที่คนเราจะไปอยู่ในเหตุการณ์ที่พิเศษกว่าคนอื่น บางคนอาจจะมองว่าเสี่ยง แต่กวางรู้สึกว่ามันท้าทาย มันสนุก รู้สึกว่า เราอยู่ในเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ มองในแง่บวกมากกว่า น้อยคนจะได้อยู่ ได้เห็นมันจริง ๆ ได้รู้ความเป็นจริง แม้บางทีอาจไม่ได้รู้เหมือนพี่บางคนที่มีประสบการณ์มากกว่า อย่างน้อยเราก็ได้เรียนรู้มัน”
ฃเจ้าตัวมองอนาคตทิ้งท้ายไว้ด้วยว่า ไม่แน่นอน แต่อยากทำตรงนี้ให้ดีที่สุด ไม่เหมือนกันงานละครที่เป็นอีกบทบาทหนึ่ง มีบทที่เราต้องไปเป็นตัวของคนอื่น ต่างจากตรงนี้เราเป็นตัวของเราเอง เรามีความสุข
