เมื่อวันที่ 21ก.พ.67 พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผู้บังคับการปราบปราม พ.ต.อ.พัฒนศักดิ์ บุบผาสุวรรณ พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย, พ.ต.อ.ปทักษ์ ขวัญนา รองผู้บังคับการปราบปราม พ.ต.อ.เอกสิทธิ์ ปานสีทา ผู้กำกับการ4กองบังคับการปราบปราม พ.ต.ท.เจษฎา แก้วจาเครือ, พ.ต.ท.เอนก บุญตา รองผู้กำกับการ4กองบังคับการปราบปราม พ.ต.ท.อัคนี ณ บางช้าง สารวัตรกองกำกับการ4กองบังคับการปราบปราม นำกำลังเข้าตรวจค้น 3จุดแบ่งเป็น จังหวัดเชียงราย 2จุด จังหวัดพะเยา 1จุด
โดยจุดแรกบ้านพักในพื้นที่ หมู่ 8 ต.แม่สาย อ.แม่สาย จ.เชียงราย จับกุม นายศุภกิตติ์ฯ อายุ 29 ปีพร้อมของกลาง ซิมการ์ดที่ลงทะเบียนแล้ว จำนวน 61 หมายเลข จุดที่สอง เป็นบ้านพักในพื้นที่ หมู่ 6 ต.รอบวียง อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย จับกุมนายอนุชิตฯ อายุ 27 ปี พร้อมของกลาง ซิมการ์ดที่ลงทะเบียนแล้ว จำนวน 300 หมายเลข จุดที่สาม บ้านพักในพื้นที่ หมู่ที่ 1 ต.เชียงม่วน อ.เชียงม่วน จ.พะเยา จับกุม นางภิชามญช์ฯ อายุ 43 ปี พร้อมของกลาง ซิมการ์ดที่ลงทะเบียนแล้ว จำนวน 1,382 หมายเลข ฐานความผิด “เป็นธุระ จัดหา โฆษณาหรือไขข่าวโดยประการใดๆ เพื่อให้มีการซื้อ หรือขายหมายเลขโทรศัพท์ สำหรับบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ ซึ่งลงทะเบียนผู้ใช้บริการในนามของบุคคลหนึ่งบุคคลใดๆ แต่ไม่สามารถระบุตัวผู้ใช้บริการได้”
พฤติการณ์ สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการจับกุมตัวสมาชิกแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ในพื้นที่ จ.หนองคาย และได้สืบสวนขยายผลเพิ่มเติมจนทราบว่า มีกลุ่มบุคคลต้องสงสัยสั่งซื้อซิมการ์ดดังกล่าวกล่าวได้ จะมีซิมการ์ดถูกจัดส่งมาให้กับกลุ่มเครือข่ายในพื้นที่จังหวัดเชียงราย จำนวน 2 จุด และ จังหวัดพะเยา จำนวน 1 จุด จังหวัดตาก 1จุด เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้วางแผนเข้าตรวจสอบและจับกุมผู้ต้องหาทั้งหมด พร้อมของกลางดังกล่าว….สอบสวน!!!! ผู้ต้องหาทั้งหมด ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยรับว่าซื้อซิมการ์ดดังกล่าว มาในราคา 40 บาท และจะนำไปขายต่อในราคา 45-50บาท และจะนำซิมการ์ดดังกล่าวไปขายต่อที่ประเทศพม่า แต่ยังไม่ทันขายถูกจับก่อน จึงนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีต่อไป
