โจ๊กชามเดือด

 

เปิดซุ้มแหล่งซ่องสุมขุมกำลัง “ค่ายหวานเจี๊ยบ” เรียกนักข่าวแถลงความใจในที่ถูกพาดพิงตกเป็นผู้ถูกร้องทุกข์กล่าวโทษเอาผิดโยงใยเส้นเงินสีเทาบ่อนพนันออนไลน์ “เครือข่ายมินนี่”

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเลือกใช้สมาคมพนักงานสอบสวนชั้นล่าง อาคารสโมสรตำรวจ ถนนวิภาวดีรังสิต เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร ชี้แจงรายละเอียดตั้งข้อสังเกตคณะทำงานสืบสวนสอบสวนที่เข้าค้นบ้านตัวเองเมื่อปลายเดือนกันยายน 2566 ไม่ชอบมาพากลแต่แรก

ล้วนเป็นกระบวนการจงใจทำให้ตัวเองเสื่อมเสียชื่อเสียงเพื่อเป้าหมายใหญ่ในระยะยาว” พล.ต.อ.สุรเชษฐ์เชื่อแบบนั้นพร้อมยืนยันยังไม่ได้ถูกแจ้งข้อกล่าวหา เป็นเพียงการร้องทุกข์กล่าวโทษต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ต้องมีกระบวนการพิจารณาว่า มีมูลหรือไม่ ด้วยการแสวงหาพยานหลักฐาน และไต่สวน 

หากมีมูลจะมีการแจ้งข้อกล่าวหา ถือว่าตัวเองเป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่าจะมีการชี้มูลความผิด

“ขอให้สื่อแก้ไข มิฉะนั้นจะดำเนินการตามกฎหมาย” เจ้าตัวแสดงอารมณ์ไม่พอใจที่ตกเป็นข่าว

อธิบายความด้วยว่า  สำนวนส่งไปคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติตั้งแต่เดือนธันวาคม 2566 เชื่อว่าที่ไม่ส่งสำนวนกลับมาให้ตำรวจ เพราะรู้ว่าเป็นการทะเลาะกันเองของตำรวจไม่อยากยุ่ง ดังนั้น  การแถลงว่าจะขอเอาสำนวนมาให้ตำรวจอ้างว่าได้ดำเนินการไปมากแล้วนั้น “ผมเป็นใคร ยศอะไร ถือเป็นการกดดัน ดูถูกการทำงานของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติหรือไม่ ระบบการไต่สวนของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติเป็นหน่วยงานตรวจสอบทุจริตโดยตรง มีความรอบคอบรัดกุมมากกว่าระบบกล่าวหาของตำรวจ อีกทั้งตามระเบียบแล้วก็ต้องยึดสำนวนที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติไต่สวนเป็นหลัก ไม่มีระเบียบที่กำหนดว่าให้ยึดสำนวนของตำรวจเป็นหลัก” พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ชี้ระเบียบขั้นตอน

“ขอเตือนให้เจ้าหน้าที่รุ่นใหม่ทำคดีด้วยความระมัดระวัง ตรวจสอบว่ามีอำนาจในการดำเนินการหรือไม่ มิฉะนั้นจะติดคุกกันหมด เพราะผมได้ขุดหลุมพรางไว้แล้ว รวมทั้งเรื่องสำนวนการสอบสวนที่ถูกเปิดเผยนั้นก็เป็นเรื่องที่ผิดพระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารเรื่องการรักษาความลับทางราชการด้วย” นายพลฉายาโจ๊ก หวานเจี๊ยบคำราม

เขายังมันใจว่า ไม่มีเส้นทางการเงินจากบัญชีมาเชื่อมโยงไปยังตัวเองแม้แต่เส้นเดียว แต่หากลูกน้องกระทำผิดก็ต้อง ตรวจสอบและให้เป็นไปตามกระบวนการทางกฎหมาย

โยนให้  พ.ต.ท.คริษฐ์ ปริยะเกตุ ต้นเรื่องของหลักฐานเส้นทางการเงินจากเว็บพนันเชื่อมโยงบัญชีม้ารับผิดชอบ เพราะไม่ใช่ที่ไม่ใช่ผู้บังคับบัญชาโดยตรง แต่ตำหนิไปแล้ว พร้อมให้ความร่วมมือหากจะเรียกมารดามาสอบปากคำเพิ่มเติม

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ตั้งคำถามด้วยว่า มีนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติอีกหลายคนที่รับเงินจากเว็บไซต์พนันออนไลน์กว่า 100 ล้านบาท และใช้เงินจากบัญชีม้า ทำไมไม่ไปดำเนินการ เหตุใดพุ่งเป้ามาที่เขาคนเดียว

“มาปัดแข้งปัดขากันอยู่ทำไม ฝากไปถึงตำรวจในสำนักงานตำรวจแห่งชาติว่ าให้แข่งกันทำงานดีกว่า อย่าอิจฉาริษยา เรื่องรุ่นไม่เกี่ยว ยศตำแหน่งขึ้นอยู่กับบุญวาสนาของแต่ละคน” รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติน้ำเสียงจริงจัง  

ขณะเดียวกัน ได้เรียกร้องให้นายตำรวจระดับ พล.ต.อ.หรือ พล.ต.ท.เป็นผู้ออกมาให้ข้อมูล  “อย่าเป็นอีแอบ” ปอดแหกให้ลูกน้องออกมาตายอย่างเดียว ขอให้เอาเบอร์ใหญ่ ๆ ออกมาขี้แจงบ้าง

นอกจากนี้ยังมอบหมายให้ทนายความได้ไปแจ้งความดำเนินคดีพนักงานสอบสวนกว่า 200 นายรวมทั้ง พล.ต.อ.อีก 2 นายที่ยังรับราชการตำรวจอยู่ด้วย

นายพลคนดังเปิดหน้าสู้เป็น “หมูไม่กลัวน้ำร้อน” รับอุณหภูมิเดือดเข้าสู่ฤดูร้อนอย่างเป็นทางการพอดี

 

 

RELATED ARTICLES