วงการตำรวจกำลังล่มสลาย
เสียหายเพราะพฤติกรรม “ฆ่าน้อง ฟ้องนาย ขายเพื่อน”
พ.ต.อ.คนหนึ่งกำลังเอาตัวรอดเล่นเกม “หักหลัง” ลูกน้องด้วยการ “ปล่อยข่าว” ป้ายมลทินในจังหวะอีกฝ่ายเพลี่ยงพล้ำ
รุมสกรัมกินโต๊ะไม่สนความสัมพันธ์ในอดีตว่าด้วยเรื่อง “หนี้บุญคุณ” ที่ประคบประหงมจุนเจือเจรจาความให้ได้นั่ง “เก้าอี้ใหญ่โต”ในหน่วย
ทำให้เจอเจ้านาย “ใจเปราะ” ถูกเลาะ “แผลสด” อดไม่ได้ต้องอาวุธขว้างเผือกร้อนให้พ้นตัว
กลเกมนี้ถึงน่ากลัวเพราะ “แผนชั่ว” ของใครบางคนไม่หยุดดิ้นรนราดน้ำมันให้เกิดความปั่นป่วนไปทั่วสำนัก
ไม่ยอมหยุดพักเนื่องจาก “ชนักติดหลัง” กำลังกลายเป็นเงาติดตามทุกย่างก้าว
น่าเสียดาย “ผู้ชายใส่กระโปรง” ยอมเปิดโปงความลับให้ดูเหมือน “ดำมืด” สวมวิญญาณ “หอกข้างแคร่” แต่ที่แท้เป็น “คนขี้ขลาด” หวาดกลัวความจริง
มองขั้วอำนาจเปลี่ยนทำเป็น “จิ้งจกเปลี่ยนสี” เร่งดีกรีให้อุณหภูมิร้อนแรง
ถือเป็นบทเรียนราคาแพงสำหรับพวกปล่อยแสงทิ่มแทงผู้มีพระคุณ
หมกมุ่นเข้าไปอยู่ในกระดาน
สุขสำราญกับผลงานเผาบ้านตัวเอง
เนรมิต “รอยตำหนิ” ให้องค์กรสะท้อนความ “เน่าเฟะ” กับนิยายบทเก่า
ฆ่าน้อง ฟ้องนาย ขายเพื่อน
บ่อเกิดแห่งซากปรักหักพัง เพราะตำรวจไม่รักกันเอง