วันที่18มี.ค.67 พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วย พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี , พล.ต.ทนิรันดร เหลื่อมศรี ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ , พลจิระสันต์ แก้วแสงเอก ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ร่วมแถลงผลการจับกุมเครือข่ายลำเลียงยาเสพติดจากจังหวัดพะเยา พร้อมของกลางยาบ้า 10,000,000 เม็ด มูลค่ากว่า 300 ล้านบาท, อาวุธปืนซิกซาวเออร์ขนาด 9 มม. 1กระบอก บรรจุกระสุน 14 นัด และรถยนต์จำนวน 2คัน
เนื่องจากชุดปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดตำรวจภูธรภาค1 สนธิกำลังร่วมกับ เจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองทหาร ศูนย์ปฏิบัติการหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ ได้ขยายผล ข้อมูลการติดต่อทางโทรศัพท์และเส้นทางการเงินจากคดียาเสพติดสำคัญในพื้นที่อำเภอ บางปะหัน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และอำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี ซึ่งมีความเชื่อมโยงกัน จะมีทีมลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่ภาคเหนือลงมาให้กับผู้ค้ายาเสพติดในพื้นที่ชั้นในของประเทศไทย จึงวางกำลังติดตามความเคลื่อนไหวจน จนกระทั่งพบรถยนต์ฮอนด้าแจ๊ส ขับนำหน้ารถกึงพ่วงหางกล้วยหอม (Bulk) หรือรถบรรทุกปูนผง ลักษณะมีพิรุธ ผ่านถนนเลี่ยงเมืองลพบุรีขาเข้า ตำบลป่าตาลอำเภอเมืองลพบุรี จังหวัดลพบุรี จึงเรียกให้หยุดเพื่อตรวจสอบพบ ยาบ้าจำนวน 50 กระสอบ จำนวน 5,000 มัด หรือประมาณ 10,000,000 เม็ด ซุกซ้อนอยู่ในช่องใส่ปูนซีเมนต์ และอาวุธปืนซิกซาวเออร์ขนาด 9 มม. 1กระบอก บรรจุกระสุน 14 นัด จึงตรวจยึดไว้เป็นหลักฐานพร้อมควบคุมตัว นายวสันต์อายุ 33 ปี และนายยศพลอายุ 30 ปี ไว้ได้ดังกล่าว
เบื้องต้น นายวสันต์สารภาพว่า ขับรถบรรทุกยาเสพติดจากจังหวัดพะเยาเพื่อส่งให้กับผู้รับในพื้นที่จังหวัดสระบุรี โดยใช้รถขนปูนส่วนตัวลำเลียงยาเสพติด ได้รับค่าจ้างเป็นเงินจำนวน 300,000 บาท ส่วนนายยศพล ผู้ขับรถนำทางจะได้รับค่าจ้างเป็นเงินจำนวน 10,000 บาท เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อกล่าวหาทั้งสองราย ฐานความผิด ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภทหนึ่งโดยเป็นการกระทำเพื่อการค้าและก่อให้เกิดการแพร่แพร่กระจายในกลุ่มประชาชน
นอกจากนี้ยัง แจ้งข้อกล่าวหากับ นายวสันต์ ในความผิดพ.ร.บ.อาวุธปืนอีกด้วย พร้อมเตรียมขยายผลถึงเครือข่ายที่เหลือ รวมถึงตรวจสอบทรัพย์สินตามกฎหมายฟอกเงิน เพื่อยึดทรัพย์ที่ได้จากการกระทำความผิด ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า โดยสำหรับยาเสพติดที่จับกุมได้ครั้งนี้ หากถูกนำจำหน่ายในท้องตลาดจะมีมูลค่าสูงถึงประมาณ 300 ล้านบาท
