ตม.จับเฒ่าโสมขาว หนีคดีซุกคอนโดหรูกลางเมืองหาดใหญ่ พร้อมคดีสำคัญอีกหลายคดี

วันที่ 18 เม.ย.67 พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รองผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง พ.ต.อ.ไพรัช พุกเจริญ รองผู้บังคับการตรวจคนเข้าเมือง6 พ.ต.อ.ภาณุภาคยณ์ จิตต์ประยูรตี รองผู้บังคับการสืบสนสอบสวนสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง พ.ต.อ.เพลิน กลิ่นพยอม รองผู้บังคับการตรวจคนเข้าเมือง3 พ.ต.อ.สรธรรศจ์เอี่ยมละออ ผู้กำกับการตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดกระบี่ ร่วมกันแถลงผลการจับกุมผู้ต้องหารายสำคัญ 4 คดี

พล.ต.ต.พันธนะ เปิดเผยว่า คดีแรก สตม.จับกุมผู้บงการ เครือข่ายขนคนต่างด้าว(เครือข่ายเฮียไก่ อรัญฯ) ส่งปลายทางประเทศที่สาม พบความเชื่อมโยงคดีสำคัญหลายคดี กก.สส.บก.ตม.3 ร่วมกับ ตม.จว.สระแก้ว กก.สส.ภ.จว.สระแก้ว จับกุม นายไก่ (นามสมมุติ) อายุ 42 ปี สัญชาติไทย ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดสระแก้ว ที่28/2567 ลงวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2567 ความผิดฐานต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน ร่วมกันช่วยเหลือ ซ่อนเร้น หรือช่วยเหลือด้วยประการใดๆ แก่บุคคลต่างด้าว (ชาวบังกลาเทศ) ที่ตนรู้ว่าหลบหนีเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาตเพื่อให้พ้นการจับกุม และยังเป็นเป้าหมายสำคัญในคดีเครือข่ายลักลอบขนคนต่างด้าวของ บก.ตม.3 และ บก.ตม.6 โดยจับกุมได้ในพื้นที่ ตำบลวังน้ำเย็น อำเภอวังน้ำเย็น จังหวัดสระแก้ว

ซึ่งเป็นการขยายผลเครือข่ายเฮียไก่อรัญ  จับกุมจำนวน 5 คดี จับกุมผู้ต้องหาทั้งหมด 14 ราย เป็นการขยายผลออกหมายจับ 5 หมายจับ ผู้ต้องหา3 ราย จับกุมคนต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง 56 ราย ตรวจยึดยานพาหนะ 11 คัน (รถเก๋ง 5 กระบะ 3 ตู้ทึบ 3) และพบว่ามี นายไก่ เป็นผู้สั่งการ และจ้างวานให้นายทวีศักดิ์ขนคนต่างด้าวกลุ่มดังกล่าวกก.สส.บก.ตม.3 จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานและจัดทำรายงานการสืบสวนเข้าร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.คลองหาด จว.สระแก้ว จนนำไปสู่การออกหมายจับนายไก่ และจับกุมได้ในเวลาต่อมา

จากการสืบสวนร่วมกันระหว่าง บก.ตม.3 บก.ตม.6 และ บก.สส.สตม. พบว่า นายไก่เป็นผู้สั่งการรายสำคัญในเครือข่ายลักลอบขนชาวกัมพูชาและบังกลาเทศ โดยทำหน้าที่ประสานงานบริเวณแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ในการลักลอบนำพาชาวบังกลาเทศผ่านช่องทางธรรมชาติ ในพื้นที่ จว.สระแก้ว ผ่านภาคตะวันออก ภาคกลาง ไปยังภาคใต้ โดยมีจุดหมายที่ประเทศมาเลเซีย โดยนายไก่ยังมีหมายจับของศาลจังหวัดสงขลา ที่จ.111/2567 ลงวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2567 ในข้อหา“ร่วมกันช่วยเหลือ ซ่อนเร้น หรือช่วยเหลือด้วยประการใด ๆ แก่บุคคลต่างด้าวที่ตนรู้ว่าหลบหนีเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาตเพื่อให้พ้นการจับกุม” และยังปรากฏหลักฐานความเชื่อมโยงนายไก่กับการก่อเหตุขนชาวบังกลาเทศในภาคตะวันออก ภาคกลาง และภาคใต้ หลายพื้นที่โดยให้การรับสารภาพว่าได้ติดต่อประสานงานกับนายใหญ่ นายหน้าชาวกัมพูชา ให้ลักลอบนำพาชาวบังกลาเทศเข้ามาจากประเทศกัมพูชามายังประเทศไทย เพื่อเดินทางไปยังประเทศมาเลเซียโดยกระทำในลักษณะดังกล่าวมาแล้วหลายครั้ง ทั้งนี้ ชุดสืบสวนของ สตม. จะได้ร่วมกันสืบสวนหาพยานหลักฐานเพิ่มเติมเพื่อมาดำเนินคดีกับผู้ร่วมขบวนการรายอื่นต่อไป

พล.ต.ต.พันธนะ กล่าวต่อว่า คดีที่สอง สตม.จับกุมผู้ประสานงานขบวนการขนชาวบังกลาเทศ/เมียนมา ลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย เครือข่ายชาลิสา ตม.จว.ชุมพร ร่วมกับ กก.ปอพ.บก.สส.สตม. สภ.บ้านมาบอำมฤต จ.ชุมพร จับกุม นายยุธพงษ์ฯ (นามสมมติ) อายุ 47 ปี สัญชาติไทย ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดชุมพร ที่ จ.86/2567 ลงวันที่ 4 มีนาคม 2567 ความผิดฐาน ช่วยเหลือ ซ่อนเร้น หรือช่วยเหลือด้วยประการใด ๆ แก่บุคคลต่างด้าวที่ตนรู้ว่าหลบหนีเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาตเพื่อให้พ้นการจับกุมนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.บ้านมาบอำมฤตจว.ชุมพร ดำเนินคดีตามกฎหมาย สถานที่จับกุม บริเวณหน้าบ้านพักแห่งหนึ่งใน ต.บางใหญ่ อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี

สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 26 มกราคม 2567 ตม.จว.ชุมพร ร่วมกับเจ้าหน้าที่ประจำด่านตรวจยานพาหนะ บ้านพละ อ.ปะทิว จ.ชุมพร จับกุมนายกรวิทย์ (นามสมมติ) ขณะขับรถยนต์ส่วนบุคคล (รถเก๋ง) บรรทุกคนต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง สัญชาติบังกลาเทศ 4 ราย จากการตรวจสอบเบื้องต้นทราบว่าชาวบังกลาเทศทั้งหมดได้ลักลอบเข้ามาทางชายแดนไทย-กัมพูชา พบพยานหลักฐานเป็นการติดต่อสั่งการว่าจ้างขนคนผ่านทางไลน์กับ น.ส.ชาลิสา หรือเจ๊นก (นามสมมติ) และพบหลักฐานการโอนเงินเป็นค่าน้ำมัน และค่าจ้างขนคนต่างด้าวฯ โดยก่อนเกิดเหตุกลุ่มของผู้ต้องหารับคนต่างด้าวจากพื้นที่ อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา เพื่อไปส่งที่ อ.บางกล่ำ จ.สงขลา โดยตกลงค่าจ้างคนละ 2,500 บาท ซึ่ง น.ส.ชาลิสา     หรือเจ๊นก จะโอนค่าจ้างบางส่วนซึ่งเป็นค่าน้ำมันมาให้ก่อนออกเดินทาง และจะได้ค่าจ้างทั้งหมดเมื่อถึงปลายทาง

จากการขยายผลพบว่าในวันเกิดเหตุกลุ่มผู้ต้องหาขนชาวบังกลาเทศมาทั้งสิ้น 12 คน โดยใช้ขบวนรถเก๋ง 3 คัน มีการเคลื่อนที่จาก จ.ฉะเชิงเทรา มายังถนนพระราม 2 และเข้าถนนเพชรเกษม โดยมีนายปรีชา (นามสมมติ) ขับรถนำทาง และนายยุธพงษ์ ขับรถขนคนต่างด้าว อีกคัน ซึ่งทั้งหมดมีการติดต่อกันผ่านแอปพลิเคชัน Zello ในระหว่างขนคนต่างด้าวฯ เพื่อหลบเลี่ยงด่านตรวจของเจ้าหน้าที่ในเส้นทาง ชุดสืบสวนตม.จว.ชุมพร จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานส่งพนักงานสอบสวนเพื่อขออนุมัติศาลออกหมายจับ และต่อมาศาลจังหวัดชุมพรได้อนุมัติหมายจับผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย ประกอบด้วย น.ส.ชาลิสา หรือเจ๊นก ผู้ว่าจ้าง นายปรีชาฯ ทำหน้าที่ขับรถนำ นายยุธพงษ์ หรือต๋อย ทำหน้าที่ขับรถขน    คนต่างด้าว และ กก.ปอพ.บก.สส.สตม. ได้จับกุมผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย ได้ในเวลาต่อมา

พล.ต.ต.พันธนะ กล่าวต่ออีกว่า คดีที่สาม สตม.บูรณาการจับเฒ่าโสมขาว หนีคดีซุกคอนโดหรูกลางเมืองหาดใหญ่ ตม.จว.สงขลา ร่วมกับ กก.สส.บก.ตม.6 และ สภ.หาดใหญ่ จับกุมนายควัก (นามสมมติ) อายุ 57 ปี สัญชาติเกาหลีใต้ โดยกล่าวหาว่า เป็นคนต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด โดยจับกุมได้ที่ ปากซอยเพชรเกษม 18 ต.หาดใหญ่ อ.หาดใหญ่  จว.สงขลา

สืบเนื่องจาก ชุดสืบสวน ตม.จว.สงขลา สืบทราบว่ามีคนต่างด้าวสัญชาติเกาหลีใต้ มีพฤติกรรมเก็บตัวอยู่ที่คอนโดมิเนียมหรูแห่งหนึ่งย่าน อ.หาดใหญ่ จว.สงขลา จึงบูรณาการกำลังกับชุดสืบสวนกก.สส.บก.ตม.6 และ สภ.หาดใหญ่ สะกดรอยติดตามจนกระทั่งพบชายคนต่างด้าวต้องสงสัยออกมาจากที่พักมาปรากฎตัวบริเวณปากซอยเพชรเกษม 18 จึงแสดงตัวขอตรวจสอบหนังสือเดินทาง ผลการตรวจสอบพบว่าชายคนดังกล่าวชื่อ นายควัก (นามสมมติ) อายุ 57 ปี สัญชาติเกาหลีใต้ อยู่ในราชอาณาจักรเกินกำหนดอนุญาตกว่า 1,587 วัน (ประมาณ 4 ปีเศษ) จึงจับกุมดำเนินคดีในข้อหาดังกล่าว จากการขยายผลพบว่า ในปี พ.ศ.2549 และปี พ.ศ.2552 นายควักได้กระทำความผิดเกี่ยวกับการล่วงละเมิดทางเพศ รวม 2 คดี ซึ่งจะได้ประสานงานกับสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐเกาหลี ประจำประเทศไทย เพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป

“คดีสุดท้ายสตม.รวบหนุ่มบราซิล Overstay แอบซุกเกาะพีพี พบประวัติกระทำผิดเกี่ยวกับการฉ้อโกง หลอกลวงในบราซิล ตม.จว.กระบี่ จับกุม MR.LUAN หรือนายลวน (นามสมมุติ) อายุ 25 ปี สัญชาติบราซิล โดยกล่าวหาว่า “เป็นคนต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด” (Overstay 54 วัน) โดบจับกุมได้ที่หน้าร้านแห่งหนึ่งในเกาะพีพี ต.อ่าวนาง อ.เมืองกระบี่ จว.กระบี่

สืบเนื่องจาก ตม.จว.กระบี่ ได้รับเบาะแสว่ามีคนต่างด้าวสัญชาติบราซิล มีพฤติการณ์ต้องสงสัยว่าอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด เข้ามาพักอาศัยอยู่ในพื้นที่เกาะพีพี เจ้าหน้าที่ ตม.จว.กระบี่ จึงได้ลงพื้นที่สืบสวน หาข่าวและเฝ้าติดตามเพื่อจับกุมตัว จนกระทั่งได้สืบทราบรูปพรรณสัณฐานและที่พักอาศัยของคนต่างด้าวดังกล่าว จึงได้  เข้าไปตรวจสอบ เมื่อไปถึงพบคนต่างด้าวเพศชายลักษณะรูปพรรณสัณฐานคล้ายกับผู้ต้องสงสัยนั่งอยู่บริเวณหน้าร้านแห่งหนึ่งในเกาะพีพี จึงได้เข้าไปแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ และขอตรวจสอบเอกสารหนังสือเดินทาง ทราบชื่อคือ MR.LUAN หรือนายลวน (นามสมมุติ) อายุ 25 ปี สัญชาติบราซิล จากการตรวจสอบข้อมูลในระบบสารสนเทศ สตม. พบว่าการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรได้สิ้นสุดแล้ว เจ้าหน้าที่ ตม.จว.กระบี่ จึงได้จับกุมดำเนินคดีในข้อหาดังกล่าว และจากการขยายผลพบว่า MR.LUAN หรือนายลวน มีประวัติกระทำความผิดเกี่ยวกับการฉ้อโกง หลอกลวง ในสหพันธ์สาธารณรัฐบราซิล ซึ่งจะได้ประสานงานกับสถานเอกอัครราชทูตสหพันธ์สาธารณรัฐบราซิล  ประจำประเทศไทย เพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป” พล.ต.ต.พันธนะ กล่าว

RELATED ARTICLES