วันที่ 18 เมษายน 2567 พล.ต.ท.ศักย์ศิรา เผือกอ่ำ ผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว พล.ต.ต.พงษ์สยาม มีขันทอง รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว พล.ต.ต.ฐากูร นิ่มสมบุญ ผู้บังคับการตำรวจท่องเที่ยว2 พ.ต.อ.จุลฤทธิ์ จุลกะ รองผู้บังคับการตำรวจท่องเที่ยว2 สั่งการ พ.ต.อ.วิเชียร วชิรแสงไพโรจน์ ผู้กำกับการ1กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว2 พ.ต.ท.วโรดม ใบเรือ , พ.ต.ท.สุทธิรักษ์ ราชประโคน รองผู้กำกับการ1กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว2 พ.ต.ท.ณัฐภัทร สุขชื่น สารวัตรกองกำกับการ1กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว2 นำกำลังเข้าจับกุม นายอภิสิทธิ์ ข้อยุ่น หรือเอ็กซ์ อายุ 36 ปี ชาวจังหวัดขอนแก่น ตามหมายจับศาลจังหวัดนนทบุรี ที่ จ.624/2566 ลง 19 กันยายน 2566 ข้อหา “ฉ้อโกงประชาชน” ตาม
สืบเนื่องจากเมื่อปลายเดือน ก.ค.2566 ผู้เสียหายได้รับโทรศัพท์ แจ้งว่าจะมีการคืนเงินประกันไฟฟ้าให้ พร้อมส่งลิงค์ให้ทางไลน์ ผู้เสียหายจึงได้กดเข้าไปดูระหว่างดาวน์โหลดคนร้ายได้แจ้งว่าไม่ให้ทำอะไร ให้รอและพูดคุยเรื่องต่างๆ และขอบัญชีของผู้เสียหาย ระหว่างนั้นโทรศัพท์ของผู้เสียหายดับ ต่อมาโทรศัพท์ใช้ได้ตามปกติ ต่อมาได้รับใบแจ้งยอดค่าสินค้ารวมทั้งค่าธรรมเนียมรายปี จึงได้โทรศัพท์ไปยกเลิกค่าธรรมเนียมจึงทราบว่ามีการเบิกเงินสดผ่านทาง แอพพลิเคชั่น ยูทูป ซึ่งเป็นเครดิตของผู้เสียหายถูกโอนไปยังบัญชีธนาคารออมสิน จากนั้นผู้เสียหายได้โทรศัพท์สอบถาม ธนาคารกรุงไทยทราบว่า เงินได้ถูกโอนไปยัง ชื่อบัญชี นายอภิสิทธิ์ ข้อยุ่น ผู้ต้องหารายนี้ จำนวน 4 ครั้ง รวมเป็นเงิน 168,041.60 บาท จากแนวทางสืบสวนเงินยังถูกโอนไปยังบัญชี ชื่อบัญชี นายศุภมงคล เนื่องขันตี เป็นจำนวน 3,300 บาท รวมความเสียหาย 171,341.60 บาท ภายหลังผู้สัยหายแจ้งความร้องทุกข์จนมีการออกหมายจับไว้ กระทั่งชุดจับกุมสืบสวนทราบว่า นายอภิสิทธิ์ ได้หลบหนีมาซ่อนตัวอยู่ที่ห้องเช่า ซอยบ้านหนองขาม3/5 หมู่15 ตำบลบ้านเป็ด อำเภอเมืองขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น จึงลงพื้นที่จับกุมตัวได้ก่อนนำส่งพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรปากเกร็ด ดำเนินคดีต่อไป
นอกจากนี้ ตรวจสอบประวัติพบ มีหมายจับศาลอาญาพระโขนง ที่ 556/2566 ลง 11 กันยายน 2566 ข้อหา “เป็นผู้เปิดหรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้บัญชีเงินฝาก บัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์ของตนโดยมิได้มีเจตนาใช้เพื่อตนหรือกิจการที่ตนเกี่ยวข้อง โดยประการที่รู้หรือควรรู้ว่าจะนำไปใช้กระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือความผิดทางอาญาอื่นใด, ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดนแสดงตนเป็นบุคคลอื่น และโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่จะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน” และหมายจับศาลจังหวัดบัวใหญ่ ที่ 104/2566 ลง 11 ตุลาคม 2566 ข้อหา “ร่วมกันลักทรัพย์ผู้อื่น, นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่จะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน อันมิใช่การกระทำความผิดฐานหมิ่นประมาทตามประมวลกฎหมายอาญา”
