ปฏิเสธจะแสดงความเห็นเรื่องเอกสารหลุดเรื่องร้องความพฤติกรรมของกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติคนหนึ่งแล้วลากเอา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ไปมีชื่อเป็นพยานรับรองด้วย
ยืนยันไม่ใช่คนปล่อย
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล เปลี่ยนบทบาทมาเปิดศึกร้องทุกข์เอาผิด นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่โดยไม่ชอบจากการแต่งตั้ง พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล เป็นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และการออกคำสั่งส่งตัวกลับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
ก่อนที่ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รักษาการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติจะมีคำสั่ง ให้ออกจากราชการไว้ก่อน
รวมถึงขอให้ตรวจสอบว่า การสอบสวนของคณะพนักงานสืบสวนสอบสวนชุดที่ทำคดีเว็บพนันออนไลน์มีอำนาจหน้าที่โดยชอบหรือไม่
เจ้าตัวขอออกมาต่อสู้เพื่อความเป็นธรรม หลังจากถูกดำเนินการอย่างไม่เป็นธรรมมา 6 เดือนถึงขั้นให้ออกจากราชการไว้ก่อน ต้องออกมาใช้สิทธิในการต่อสู้อย่างถูกต้อง
แถมเชื่อมั่นว่า อย่างไรจะได้กลับมา
ยกประเด็นร้อนว่ากำลังเผชิญชะตากรรมถูก “รุมกินโต๊ะ” ทั้งที่ตั้งใจทำงานเพื่อบ้านเมือง ผู้บังคับบัญชาต้องให้ความเป็นธรรม ไม่ใช่ไปเอากับเขาด้วย
“เรื่องนี้มีการกลั่นแกล้ง มีขบวนการแบ่งงานกันทำ” เขามองเป็นนั้น
เกมกลที่เกิดขึ้น พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ระบายเสียงดังผ่านสื่อ
“หวังผลไม่ให้ผมขึ้นตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ผมเป็นแคนดิเดตอันดับ 1 หากเป็นอันดับ 6 คงไม่ถูกกระทำแบบนี้”
พร้อมระบุว่า จะดำเนินการกับทุกคนที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ส่วนจะมีคนต้องติดคุกหรือไม่ขอให้รอติดตาม
“ออกจากราชการแล้ว มีเวลาในการเตรียมตัวสู้คดีเยอะ หลังจากนี้เตรียมตั้งรับให้ทันแล้วกัน” พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ลั่นกลองสู้ศึกท้ารบทุกด้าน
ย้ำว่า ใครทำอะไรก็ได้อย่างนั้น เรามีพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ นายกรัฐมนตรีจะใช้อำนาจอะไรต้องดำเนินการตามพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ ทำให้ต้องมาหาความยุติธรรมนอกองค์กร เพราะองค์กรตัวเองให้ความยุติธรรมไม่ได้
“ผมเป็นคนใต้มีเลือดนักสู้ ถ้าเป็นคนอื่นคงหมอบแล้ว แต่ถ้าไม่สู้คงเสียสิทธิตลอดชีวิต”
นายพลคนดังเลือดเข้าตาเหมือนหมาจนตรอก