สืบภาค 2 ขยายผลรวบผู้ต้องหาคาผ้าเหลือง

 

พล.ต.ต.ธีรชัย ชำนาญหมอ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 2 มอบหมายให้ต้นสังกัดระดมกวาดล้างยาเสพติด จับกุมและขยายผลอย่างต่อเนื่อง ทั้งผู้เสพและผู้ค้า ก่อนออกหมายจับ นายธนโชติ  (สงวนนามสกุล) ตามหมายจับศาลจังหวัดพัทยา ที่ จ.209/2567 ลงวันที่ 22 เมษายน 2567 ในข้อหา “สนับสนุนหรือช่วยเหลือผู้กระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติดฯ , รับเงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใด เกี่ยวยาเสพติด หรือให้ความสะดวกแก่การกระทำความผิดฯ , ยอมให้ผู้อื่นใช้ชื่อหรือเอกสารในการเปิดธุรกรรมทางการเงินฯ , ยอมให้ผู้อื่นใช้บัญชีธนาคารของตนฯ , สนับสนุนหรือช่วยเหลือผู้กระทำความผิดก่อนฐานฟอกเงินฯ , กระทำด้วยประการใดๆ เพื่อปกปิดหรืออำพรางลักษณะที่แท้จริงการได้มา แหล่งที่ตั้ง การจำหน่าย การโอนฯ , ได้มาครอบครองหรือใช้ทรัพย์สินนั้นโดยรู้ว่าเป็นทรัพย์สินที่เกี่ยวเนื่องกับการกระทำความผิดฯ ”

หลังจากนั้นได้ติดตามตัวขณะบวชเป็นพระอยู่ที่วัดแห่งหนึ่ง อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา สารภาพตลอดข้อกล่าวหาว่านำบัญชีที่ได้เปิดใช้เมื่อปี 2566 ไปขายให้บุคคลอื่น พร้อมเบอร์โทรศัพท์ที่ผูกบัญชี ในราคา 3,000 บาท การตรวจค้นครั้งนี้ยังพบยาบ้า จำนวน 28 เม็ด ซุกอยู่ภายในกุฏิด้วย

พล.ต.ต.ธีระชัย ชำนาญหมอ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 2 ขอให้การประชาสัมพันธ์ประชาชนให้ทราบว่า ในส่วนของคำรับสารภาพของ ผู้ต้องหาได้เปิดบัญชีธนาคารและซิมโทรศัพท์ให้ผู้อื่นใช้ หรือขายต่อไปให้ผู้อื่นนั้น เจ้าของบัญชีหรือซิมโทรศัพท์ผู้เปิด จะมีความผิดฐาน “ผู้ใดเปิดบัญชี บัตรอิเล็กทรอนิกส์ หรือกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ โดยไม่ได้มีเจตนาใช้เพื่อตน และห้ามไม่ให้ผู้ใดยินยอมให้บุคคลอื่นใช้หรือยืมใช้ซิมโทรศัพท์ของตนในทั้งที่รู้หรือควรจะรู้ ซึ่งอาจจะนำไปใช้ในการทุจริตหรือทำผิดกฎหมาย” มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 300,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับตามพระราชกำหนดมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี

อีกทั้งในความผิดครั้งนี้เป็นความผิดเกี่ยวเนื่องกับยาเสพติด ตามกฎหมาย พระราชบัญญัติยาเสพติด พุทธศักราช 2564 ได้ระบุบทลงโทษ ผู้รับจ้างเปิดบัญชีธนาคารและซิมโทรศัพท์ซึ่งเกี่ยวกับยาเสพติดว่า “ผู้ใดยอมให้ผู้อื่นใช้ชื่อ เอกสาร หลักฐานของตน ในการเปิด จด หรือลงทะเบียนทำธุรกรรมทางการเงิน ซื้อสินค้าหรือบริการอื่นใด ยอมให้ใช้บัญชีธนาคาร บัตรอิเล็กทรอนิกส์ซิมการ์ดโทรศัพท์ หรือยอมให้ผู้อื่นใช้สิ่งเช่นว่านั้น ซึ่งตนได้เปิด จด หรือลงทะเบียนไว้แล้ว โดยรู้หรือควรรู้ว่าจะเป็นประโยชน์ต่อการกระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติด” มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และหากเป็นกรณีที่เจ้าของบัญชีหรือซิมโทรศัพท์มีส่วนรู้เห็นหรือเป็นผู้ชักชวนประชาชนให้รับจ้างเปิดบัญชี จะมีบทลงโทษเท่ากับผู้ค้ายา ตาม กฎหมายสมคบคิดเกี่ยวกับยาเสพติดฯ อัตราโทษสูงเท่ากับผู้ค้ายา อีกด้วย

RELATED ARTICLES