สารวัตรแจ๊ะนำทีมจับหนุ่มหื่นสะกดรอยขยี้กามวิตถาร

 

 

จอมหื่นตามสะกดรอยชีวิตของเหยื่อสาวกว่าหลายเดือน ก่อนสบโอกาสลากไปข่มขืนอย่างวิตถารยิ่งกว่าภาพยนตร์ที่เกิดขึ้นในชีวิตจริง “ผู้การจ๋อ” พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล ส่งชุด “สะกดรอย VS นักสะกดรอย” จนเกิดการไล่ล่าอย่างดุเดือดบนถนนวิภาวดีรังสิต ก่อนรวบตัวได้กลางถนน  ทรชรเดนสังคมอ้าง “ลากน้องไปจริงแต่ไม่ได้ข่มขืน เพราะปิกาจูไม่แข็ง”

ทั้งนี้ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล สั่งการให้ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล มอบหมาย พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผู้กำกับการวิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล  พ.ต.อ.พัชรดนัย การินทร์ ผู้กำกับการ (สอบสวน) กลุ่มงานสอบสวน กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล พ.ต.ท.เอกศิษฐ์   วรกิตติ์ฐากรณ์ รองผู้กำกับการสืบสวน 1 กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล  พ.ต.ท.มาโนชย์ ทองแก้ว รองผู้กำกับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล 5 พ.ต.ต.ธัญพีรสิษฐ์ จุลพิภพ สารวัตรกองกำกับการสืบสวน 3 กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล พ.ต.ต.วศิน อินทร์แก้ว สารวัตรฝ่ายอำนวยการ กองบังคับการสืบวนนสอบสวนตำรวจนครบาล ร.ต.อ.ศิวัช ยังอุ่น รองสารวัตรกองกำกับการสืบสวน 4 กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล  ร.ต.อ.วรภัทร แสงเทียนประไพ รองสารวัตรกองกำกับการสืบสวน 2 กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 2  ร.ต.อ.พลวัต นาคถมยา รองสารวัตรกองกำกับการสืบสวน 1 กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล ร.ต.อ.หญิง ณิชญากาญจน์ เปสลาพันธ์ รองสารวัตรฝ่ายอำนวยการ กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล ร.ต.ท.เลิศวริศ เลิศวรปรีชา รองสารวัตรฝ่ายทะเบียนประวัติอาชญากร 7  ร.ต.ท.ณัฐวุฒิ อันชูฤทธิ์ รองสารวัตร(สอบสวน) สถานีตำรวจนครบาลดินแดง ร.ต.ท.อนันตชัย สัจจพงษ์ รองสารวัตรฝ่ายอำนวยการ 2 กองบังคับการอำนวยการ สำนักงานเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ร่วมกันออกแกะรอย

กระทั่งจับกุมนายณัฐพล หรือนัท บุราณรักษ์  อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 18 ถนนประชาอุทิศซอย 2 ตำบลแก่งคอย อำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี ได้กลางถนนวิภาวดีรังสิตขาออกตรงข้ามสนามบินดอนเมือง) แขวงสนามบิน เขตดอนเมือง กรุงเทพมหานคร จากพฤติการณ์  “night stalker” ห้วงปลายปี  2566 หญิงสาวผู้เคราะห์ร้ายรายนี้วัย 22 ปี เล่าว่า เข้าทำงานที่บริษัทแห่งหนึ่ง คนร้ายทำหน้าที่โชเฟอร์ของบริษัท ฉวยโอกาสมาทำทีตีสนิทใกล้ชิดกับเธอคลั่งไคล้ถึงขั้นเลิกขับรถแล้วขอย้ายมาอยู่แผนกเดียวกัน นำไปสู่ภัยร้ายที่เริ่มคลืบคลานมาหา เมื่อคนร้ายโรคจิตพยายามซักถามข้อมูลส่วนตัวเกินงามจนเธอรู้สึกอึดอัด

คนร้ายยังไม่จบเพียงแค่นี้บางครามันถึงขั้นนำสิ่งของของเธอในออฟฟิศ “มาสูดดม” อย่าในภาพยนตร์ แล้วที่พีคสุดคือหลังเลิกงานเมื่อ “พระอาทิตย์ตกดิน” จะสะกดรอยติดตามตั้งแต่ออกจากบริษัท ป้ายรถเมล์ และแอบขึ้นรถเมล์ไปจนถึงที่พักของเธอ โดยเหยื่อไม่รู้ตัวเป็นเวลาหลายเดือน รู้แม้กระทั่งว่าหญิงสาวชอบกินขนมยี่ห้ออะไรในร้านสะดวกซื้อจนมาถึงในวันที่เกิดเหตุมีการจัดงานการกินเลี้ยงสังสรรค์ของบริษัท หลังงานเลิกเธอต้องกลับมาทำงานต่อที่บริษัท คนร้ายฉวยโอกาสตามลงมือลากเธอเข้าไปในห้องฟิตเนสของบริษัทกระทำชำเราเธออย่างรุนแรง เวลาผ่านไปเท่าใดไม่ทราบเหยื่อฟื้นได้สติขึ้นมาแล้วพบกำลังถูกไอ้โรคจิตรายนี้ข่มขืนอยู่จึงใช้เท้าถีบมันและหนีออกมาจากสถานการณ์นั้นได้  หลังเกิดเหตุเหยื่อได้เดินทางไปแจ้งความสถานีตำรวจนครบาลประชาชื่น และได้แจ้งเรื่องนี้ให้หัวหน้าในบริษัททราบทันที

เจ้าหน้าที่บริษัทตรวจสอบภาพกล้องวงจรปิดพบไอ้โรคจิตหื่นรายนี้ยังกลับเข้าไปทำความสะอาดและทำลายหลักฐานในห้องฟิตเนสจุดที่ลงมือก่อเหตุอีกด้วย หลังจากนั้นไม่มาทำงานอีกและหนีหายเข้ากลีบเมฆ พนักงานสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานออกหมายจับนายณัฐพล หรือนัท บุราณรักษ์ อายุ 45 ปี คนร้ายรายนี้ มี พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล ส่งชุดสืบนครบาลไล่ล่าติดตามตัวพบบุคคลต้องสงสัยที่มีตำหนิรูปพรรณตรงกับคนร้ายกำลังขับรถยนต์อยู่บนถนนวิภาวดีรังสิต พพ.ต.ต.ธัญพีรสิษฐ์ จุลพิภพ สารวัตรกองกำกับการสืบสวน 3 กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล หัวหน้าชุดสืบสะกดรอยสั่งลูกทีม “ตามแบบหนังไทย” ขับตามรถคนร้ายไปดื้อ ๆ จนกระทั่งคนร้ายเริ่มออกอาการเริ่มขยับฉวัดเฉวียวและใช้ความเร็ว พยายามจะสับขาหลอกชุดสืบสวนหักเลี้ยวกลับรถกะทันหันมุดไปตามช่องแคบ แต่ท้ายสุดถูกสกัดจับได้กลางถนนวิภาวดีรังสิต

สอบสวนสารภาพเคยเป็นพนักงานในแผนกไอทีแอนเซอร์วิส อยู่ที่บริษัทที่เกิดเหตุตามที่ผู้เสียหายกล่าวเป็นสตอกเกอร์ตามคุกคามชีวิตประจำวันผู้เสียหาย ตั้งแต่ขึ้นรถเมล์จนกระทั้งรู้พฤติกรรมของผู้เสียหายว่า ชอบลงมาซื้อข้าวจากร้านสะดวกซื้อไปกินบนห้องและคอยเฝ้าตามผู้เสียหายในที่ต่างๆ ยืนยันว่า ไม่ได้เป็นสตอกเกอร์ แค่เป็นห่วงความปลอดภัยของฝ่ายหญิงเท่านั้น  และวันเกิดเหตุบริษัทที่ทำงานได้จัดเลี้ยงปีใหม่ ผู้เสียหายดื่มเหล้าจนมีอาการเมาไม่ได้สติเลยพาไปที่อ่างล้างจานเพื่อไปอาเจียน ก่อนมาเช็ดตัวที่ห้องฟิตเนส เห็นผู้เสียหายถอดเสื้อจนเห็นร่องอก ทำให้เกิดอารมณ์ตรงเข้าลูบไล้และกำลังจะถอดกางเกงแต่อวัยวะเพศของตัวเองเกิดอาการอ่อนตัวจนไม่สามารถร่วมเพศเป็นจังหวะเดียวกันกับที่ผู้เสียหายรู้สึกตัวพอดี ต่อมายื่นใบลาออกจากบริษัทแไปทำงานรับจ้าง ตลอดช่วงที่หลบหนีที่ผ่านมาได้ตั้งจิตขอขมาองค์เทพและผู้เสียหาย วันที่ถูกจับกุมยังมีลางสังหรณ์จากองค์เทพจะถูกลงโทษจากคดีความที่เคยก่อไว้ และถ้าถูกจับวันนี้จะมีญาติผู้ใหญ่มาช่วยเหลือและตนจะเปลี่ยนเป็นคนใหม่ อยากเจอกับสารวัตรหมวกไหมพรหม (สารวัตรแจ๊ะ) เพราะติดตามใน tiktok มานานและคิดว่าสักวันอาจจะถูกสารวัตรแจ๊ะจับเพราะชุดสืบของสารวัตรแจ๊ะเก่ง อีกทั้ยังอยากคุยกับผู้การจ๋อเพราะติดตามมานานและคิดว่าน่าจะเข้าใจตนมากที่สุด

ด้าน พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาลกล่าวว่า เรายังไม่ปักใจเชื่อในคำให้การของคนร้าย เพราะพยานหลักฐานในคดีนี้แน่นหนามาก และจากการตรวจสอบพฤติกรรมของคนร้ายพบว่า มีการเปลี่ยนที่ทำงานบ่อยครั้งมาก เป็นไปได้สูงที่อาจจะเคยก่อเหตุลักษณะนี้มาแล้ว  เราจะมีการขยายผลโดยละเอียด ขอเป็นกำลังใจให้หญิงสาวที่ต้องประสบพบเจอกับการถูก “sexual harassment” ในทุกแวดวงสังคมเช่นนี้ ต้องรู้จักสร้างภูมิคุ้มกันตัวเราเองก่อน ต้องรู้จักและหาแนวทางในการรับมือ การวางตัว และการป้องกันที่จะไม่เปิดโอกาสให้ผู้ที่คิดมิดีมิร้ายมาลงมือก่อเหตุกับเราได้ และหากผู้ใดมีเบาะแสการกระทำความผิดในลักษณะนี้ในแวดวงสังคมที่ท่านต้องประสบพบเจออยู่โปรดแจ้งข้อมูลมาที่เพจ “สืบนครบาล IDMB” เรามีเจ้าหน้าที่พร้อมตลอด 24 ชั่วโมง เพราะแม้ไม่ใช่คดีอุกฉกรรจ์ แต่หากเป็นเรื่องความเดือดร้อนของประชาชน เราทำทันที ตามนโยบายของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รักษาการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วยผู้บัญชากาตำรวจแห่งชาติ และพล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล

RELATED ARTICLES