ตามรวบหัวหน้าเชฟหื่น ออกอุบายให้ลูกน้องวัย16ปีไปส่งงานที่ห้อง ก่อนบังคับข่มขื่น

พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล สั่งการให้  พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล พ.ต.อ.ธีรศักดิ์ จันทราพิพัฒน์ รองผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล พ.ต.อ.อดุลย์ ดอกพวง ผู้กำกับการสืบสวนสอบสวน4กองบังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล พ.ต.ท.รัฐนันท์ สมวงศ์, พ.ต.ท.ปกรณ์ ทองช่วง  รองผู้กำกับการสืบสวนสอบสวน4กองบังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล พ.ต.ต.นิทัสน์ มีทอง สารวัตรกองกำกับการสืบสวนสอบสวน4กองบังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล นำกำลังจับกุมตัว นายวทันยู วงศ์ชารี อายุ 25 ปี ที่ ชาวจังหวัดบึงกาฬ ผู้ต้องหาตามหมายจับหมายจับศาลอาญาตลิ่งชัน ที่ จ.716/2566 ลงวันที่ 8 ธันวาคม 2566 ข้อหา พาบุคคลอายุเกินสิบห้าปีแต่ไม่เกินสิบแปดปีไปเพื่อการอนาจารฯ ,พรากผู้เยาว์อายุกว่าสิบห้าปีแต่ไม่เกินสิบแปดปีไปเสียจากบิดามารดา ผู้ปกครองโดยผู้เยาว์นั้นไม่เต็มใจไปด้วยฯ และข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นฯ” จับกุมได้ที่ หน้าตลาด ซอย5 ตำบลมาบยางพร  อำเภอปลวกแดง จังหวัดระยอง

ประมาณปลายเดือนกันยายน 2566 ที่ผ่านมา เด็กหญิงผู้เสียหายวัย 16 ปีได้ทำงานเป็นพนักงานพาร์ทไทม์ ร้านอาหารญี่ปุ่น ในห้างสรรพสินค้าย่านปิ่นเกล้า และได้รู้จักกับ นายวทันยู หรือบอม ผู้ต้องหา ซึ่งเป็นหัวหน้าเชฟในร้านดังกล่าว ก่อนที่ผู้ต้องหาได้อาศัยความเป็นหัวหน้า บอกให้ผู้เสียหายไปทำงาน และส่งงานที่อพาร์ทเม้นของผู้ต้องหา หลังจากนั้นได้ใช้กำลังบังคับข่มขืนจนสำเร็จความใคร่ และได้ขับรถจักรยานยนต์มาส่งที่บริเวณหน้าห้างสรรพสินค้าที่ทำงาน ผู้เสียหายจึงโทรศัพท์หาเพื่อนสาวมารับกลับบ้าน ต่อผู้ปกครองของผู้เสียหายวัย 16 ปี ได้สังเกตเห็นความผิดปกติ จึงได้พูดคุยสอบถามจนทราบความจริง จึงพากันเข้าแจ้งความร้องทุกข์ กับพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจนครบาลบางยี่ขัน จนนำมาสู่การจับกุมดังกล่าว สอบสวน ผู้ต้องหาให้การภาคเสธ ว่าได้กระทำชำเราผู้เสียหายจริง แต่เกิดจากความยินยอมของผู้เสียหายเอง ก่อนควบคุมตัวส่ง สถานีตำรวจนครบาลบางยี่ขัน เพื่อดำเนินคดี

พล.ต.ต.ธีรเดช ฝากเน้นย้ำกับพ่อแม่ผู้ปกครอง ต้องสอนเด็กอย่างตรงไปตรงมาให้ระมัดระวังตัว  ให้เด็กรู้ว่าถ้าจะมีคนมาจับตัว ต้องพยายามออกห่าง พยายามไม่อยู่กับผู้ใหญ่ต่างเพศตามลำพัง อย่างไรก็ดี ไม่ใช่เฉพาะคนแปลกหน้าเท่านั้นที่เด็กต้องระวังตัว แต่ต้องให้เด็กระมัดระวังคนใกล้ตัวด้วย ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนบ้าน ญาติ หรือแม้แต่พ่อแท้ๆ บางทีก็เชื่อใจไม่ได้ ทั้งควรสอนให้เด็กรู้ว่าพฤติกรรมลักษณะไหนที่เข้าข่ายการล่วงละเมิดทางเพศ ซึ่งก็ได้แก่ การสัมผัสที่มากเกินปกติ ถูกเนื้อต้องตัว หอมแก้ม กอดจูบลูบคลำ หรือขอดูเด็กเปลือยกาย หากเจอเรื่องทำนองนี้ต้องให้เด็กพูดปฏิเสธให้เป็น และสอนวิธีอยู่ให้ห่างมากที่สุด

RELATED ARTICLES