ตามรวบแก๊งอุ้มฆ่าฝังดินสาวนครศรี เชื่อทวงหนี้ค่ายาเสพติดสามี

พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผู้บังคับการปราบปราม พร้อมด้วย พ.ต.อ.ปทักข์ ขวัญนา รองผู้บังคับการปราบปราม พ.ต.อ.ภัทราวุธ อ่อนช่วย ผู้กำกับการ5กองบังคับการปราบปราม พ.ต.ท.ฤทธิชัย  ชุมช่วย รองผู้กำกับการ5กองบังคับการปราบปราม ร่วมกันแถลงผลการจับกุม นายธนวิชญ์ หรือเพชร ขวัญเมือง อายุ 44 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดทุ่งสง ข้อหา “ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรอง ซ่อนเร้นอำพรางศพ” นายไพฑูรย์ หรือโอ้ต วินกล่อม อายุ 38 ปี และ น.ส.อำพิลา หรือ แต้ว จอนบำรุง อายุ 34 ปีตามหมายจับศาลจังหวัดทุ่งสง ข้อหา “ร่วมกันรับของโจร” หลังสามารถจับกุมนายธนวิชญ์ ได้ในพื้นที่ ต.กระโสม อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา ขณะที่ นายไพฑูรย์ ถูกจับกุมตัวได้ที่ ริมถนนสายบ้านเก่า – ห้วยน้ำขาว ม.2 ต.บ้านเก่า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ส่วน น.ส.อำพิลา ถูกจับกุมได้ที่ ริมถนนสุขภิบาลหวายเหนียวสาย 2 ม.1 ต.แสนตอ อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี

พล.ต.ต.มนตรี เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 14 ก.พ. 2566 ญาติของ นางสุดารัตน์ อัตถวิจิตร อายุ 42 ปี ได้เข้าร้องขอความช่วยเหลือตำรวจ สภ.ช้างกลาง จ.นครศรีธรรมราช ว่า นางสุดารัตน์ ได้หายตัวไปจากบ้าน พร้อมรถยนต์ ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นฟอร์จูนเนอร์ สีขาว ทะเบียน ขค 1797 นครศรีธรรมราช จึงร่วมกับ กก.5 บก.ป. ลงพื้นที่ตรวจสอบบ้านพัก ก่อนพบร่องรอยประตูห้องนอนถูกทำลาย เชื่อว่าการหายตัวไปน่าจะถูกประทุษร้ายต่อชีวิต

“จึงเร่งกระจายกำลังลงพื้นที่สืบสวนหาเบาะแสเป็นการด่วน ก่อนพบเบาะแสสำคัญว่า รถยนต์ของผู้ตายได้ขับเข้ามาในพื้นที่ จ.กาญจนบุรี มุ่งหน้าไปทางพื้นที่ชายแดนติดประเทศเพื่อนบ้าน จึงเร่งติดตามยึดรถกลับคืน  พร้อมแกะรอยสืบสวนเรื่อยมา กระทั่งทราบว่าตัว นางสุดารัตน์ ได้ถูกฆ่าฝังศพอำพรางทิ้งไว้ที่ภูเขาหลังสำนักสงฆ์บ้านเขาล้อม อ.พรหมคีรี จ.นครศรีธรรมราช ไปก่อนหน้านี้แล้ว จึงรวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลออกหมายจับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องจำนวน 9 คน” พล.ต.ต.มนตรีกล่าว

ด้าน พ.ต.อ.ปทักข์ กล่าวว่า ผู้ต้องหากลุ่มนี้มีการแบ่งหน้าที่กันทำอย่างชัดเจน แบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม กลุ่มแรก คือกลุ่มลักพาตัวไปฆ่า จำนวน 4 คน กลุ่มที่สองเป็นกลุ่มนำรถผู้ตายไปขายประเทศเพื่อนบ้านมีจำนวน 4 คน ส่วนอีกคนที่เหลือทำหน้าที่ฝังอำพรางศพ ซึ่งก่อนหน้านี้ตำรวจกองปราบได้ร่วมกับตำรวจภูธรภาค 8 จับกุใตัวมาได้แล้วจำนวน 3 คนแบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ทำหน้าที่อุ้มฆ่า 2 คน และ ทำหน้าที่อำพรางศพ 1 คน จากยั้นจึงเรางขยายผลต่อเนื่อง จนกระทั่งมาสามารถจับกุมตัว นายธนวิชญ์ ผู้ต้องหาตัวการสำคัญที่ทำหน้าที่เข้าไปอุ้มฆ่า กับ นายไพฑูรย์ และ น.ส.อำพิลา ที่ทำหน้าที่นำรถไปขายประเทศเพื่อนบ้านได้เพิ่มเติมดังกล่าว

พ.ต.อ.ปทักข์ กล่าวต่อว่า สำหรับชนวนเหตุการอุ้มฆ่าครั้งนี้ จากแนวทางสืบสวนเชื่อว่า น่าจะเป็นหารฆ่าทวงหนี้ยาเสพติดหรือธุรกิจผิดกฎหมาย เนื่องจากตัวนางสุดารัตน์ ไม่เคยมีปัญหาขัดแย้งกับใคร ประกอบกับก่อนหน้านี้สามีของผู้ตาย ซึ่งเป็นเอเย่นต์ยาเสพติดรายใหญ่ในพื้นที่ภาคใต้ ได้ถูกตำรวจจับกุมตัวไปพร้อมกับยาเสพติดของกลางล็อตใหญ่ รวมถึงจากการตรวจสอบประวัตินายธนวิชญ์ หนึ่งในผู้ต้องหา พบว่าเคยมีประวัติรับจ้างอุ้มทวงหนี้ และ ก่อเหตุในลักษณะดังกล่าวมาแล้วหลาย จึงเชื่อว่าน่าจะรับงานว่าจ้างจากนายทุนยาเสพติดให้มาก่อเหตุดังกล่าว ถึงแม้จนถึงตอนนี้ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมทั้ง 3 ราย จะยังไม่ยอมเปิดเผยมูลของเหตุการลงมือก็ตาม

สำหรับการสอบปากคำผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย นี้เบื้องต้นให้การรับสารภาพ จึงนำตัวส่ง พนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรช้างกลาง ดำเนินคดีต่อไป

RELATED ARTICLES