สาวคนข่าวรุ่นใหม่ค่าย TOP NEWS
“ป๊อปปี้” พรสวรรค์ จารุพันธ์ ชาวเมืองพิษณุโลก สำเร็จชั้นมัธยมต้นโรงเรียนพิษณุโลกพิทยา มัธยมปลายโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาภาคเหนือ วาดฝันอยากเป็นแอร์โฮสเตส พอจบได้ทุนสถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ ไปเรียนคณะวิทยาการจัดการ สาขาการจัดการธุรกิจการบิน เรียนเกี่ยวกับพื้นฐานการบินปูเส้นทางไปเป็นแอร์โฮสเตส ควบคู่กับงานภาคพื้นที่ดิน เรียนรู้ทุกอย่างตั้งแต่เสิร์ฟอาหารบนเครื่อง
ทว่าสุดท้ายชีวิตผันผวนด้วยความที่เคยรับงานพิธีกรมาตั้งแต่อายุ 16 เข้าประกวดโครงการทูบีนัมเบอร์วัน มีรุ่นพี่ได้รางวัลระดับประเทศมาช่วยสอน ฝึกฝนจนเข้าวงการ ระหว่างเรียนสถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ รุ่นพี่ทำงานฟรีแลนซ์มาชวนหางานประจำทำก่อน
“พี่บอกว่า ทำงานพิธีกรมีรายได้ เงินเยอะ แต่ไม่แน่นอน เสี่ยงสูง สมมติถ้าอนาคตแก่แล้ว อายุ 30 กว่าจะลำบาก” เธอเล่า “แล้วป๊อปปี้ล่ะอายุประมาณสัก 20 กว่าไม่เคยทำงานประจำ พอถึงเวลาจะไปทำงานประจำมันยาก ถ้าเขาถามว่า มีประสบการณ์อะไรแล้วเราไม่เคยมีประสบการณ์ทำงานประจำเลย”
เป็นเหตุผลที่เจ้าตัวเก็บเอาไปคิด และด้วยความที่สถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์จบออกมาได้ฝึกงานเลย ได้ไปฝึกงานเซเว่นอีเลฟเว่น และฝึกสายการบินตามที่ได้เรียนมา เธอรู้สึกว่า ไม่เหมาะกับตัวเอง ทั้งที่เคยเป็นความฝัน ที่ว่า ไม่เหมาะ เพราะรู้สึกชอบงานรูทีนมากกว่า ตื่นเช้ามา สามารถกำหนดได้หมดว่า จะทำอะไร “แน่นอนว่า พอไปงานสายการบินจะทำ 4 วัน หยุด 2 วัน หรือว่าตามแต่ตารางการบิน กลายเป็นว่า เวลาของเรามันรวนไปหมดเลย กินไม่เป็นเวลา นอนไม่เป็นเวลา กลายเป็นว่า ร่างกายเรามันรวน เรารู้สึกว่า ไม่โอเค”
ท้ายที่สุด เธอเบนเข็มไปสมัครงานผู้ประกาศข่าวเป็นจังหวะช่อง “โปลิศทีวี” เปิดรับคนตัดสินไปแคสติ้งผ่านเข้าไปประเดิมชีวิตคนข่าวช่องตำรวจเกือบ 2 ปีที่ประจำอยู่สำนักงานตำรวจแห่งชาติกระทั่งหมดสัญญา ได้พี่ที่รู้จักชวนมาทำงานอยู่ช่อง TOP NEWS
เริ่มต้นงานใหม่ ทำหน้าที่ทั้งผู้ประกาศข่าวและลงสนามตามงานลูกค้า ทำสกู๊ปข่าว “ยอมรับตั้งแต่ต้นเลยว่า งานข่าวท้าทายมาก ถือว่ายากสำหรับคนที่ไม่มีพื้นฐาน เพราะว่าเราไม่ได้จบนิเทศศาสตร์ เราไม่มีพื้นฐานด้านข่าว ด้านสื่อสารมวลชนมาก่อน ยากมาก อย่างตอนที่ทำโปลิศทีวีไปแบบไม่รู้อะไรเลย ยิ่งตำรวจก็ไม่รู้อะไรเลย มียศเยอะด้วย ต้องไปปริ้นท์ยศ ตำแหน่งมาแปะข้างกระดานข้างที่ทำงาน เพื่อที่จะดูว่าตัวย่อของกองนี้คืออะไร อันนี้คือใคร อะไรอย่างนี้ แล้วก็ต้องไปลงพื้นที่ทำข่าวด้วย”
เธออธิบายความอีกว่า ตอนอยู่ช่องเก่า ไม่มีนักข่าว มีแต่ช่างภาพ และผู้ประกาศต้องไปด้วยกันเหมือนได้ฝึกเขียนข่าว ไปลงพื้นที่งานข่าวอาชญากรรม ทำให้รู้สึกชอบทำข่าวอาชญากรรม ข่าวชาวบ้าน แล้วพอมาอยู่ใหม่ได้ทำรายการข่าวเด่นทั่วไทย เป็นข่าวชาวบ้านหมดเกี่ยวกับอาชญากรรม ภูมิภาค ไม่มีการเมืองก็สนุกดี สักพักมีการปรับผังใหม่ โยกมาอ่านข่าวต่างประเทศตอนเช้าและข่าวการเมืองตอนเย็น
ป๊อปปี้ย้ำว่า สนุกกับเรื่องท้าทายทุกวัน เป็นความรู้ใหม่หมด เรามองแค่โอกาสอย่างเดียว มีโอกาสให้ได้ทำ ได้ฝึก เราพร้อมเอาหมด
