สืบนครบาลแอบรวบเดียร์สายยักเน้นแฟนคลับติงเกาหลี ผู้เสียหายบุกชี้ตัวจำนวนมาก

“ขนลุกยกทีมสืบสวน” สืบนครบาลบุกไปจับ เดียร์สาวทอมสายยักมิจฉาชีพสุดแสบ ที่ก่อคดียาวเป็นหางว่าว แต่ปรากฏว่าเมื่อชุดสืบสวนไปถึงกลับไม่พบคนร้าย ผู้การจ๋อ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. สั่งพ.ต.ต.ธัญพีรสิษฐ์ จุลพิภพ สว.กก.สส.3 บก.สส.บช.น. สารวัตรแจ๊ะ ใช้ยุทธวิธีไม้ตายงัดวิชาพลางกายซ่อนเร้นจึงสามารถจับกุมตัวได้ ตรวจสอบโทรศัพท์คนร้ายเพราะว่าใช้หมอดูทักแจ้งหลบหนีการจับกุม หากเป็นผู้เสียหายที่ไม่ชอบก็จะเล่นของมนต์ดำใส่ หรือผู้หญิงที่ชอบ จะเล่นของให้มาหลงมารัก สุดท้ายจนมุม

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.สมประสงค์ เย็นท้วม รรท.ผู้ช่วย ผบ.ตร. , พล.ต.ท.สยาม บุญสม รรท.ผบช.น. ,พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. , พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. , พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง รอง ผบก.สส.บช.น. ,พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. , พ.ต.ท.เอกศิษฐ์ วรกิตติ์ ฐากรณ์ รอง ผกก.สส.1 บก.สส.บช.น. , พ.ต.ต.ธัญพีรสิษฐ์ จุลพิภพ สว.กก.สส.3 บก.สส.บช.น. , พ.ต.ต.วศิน อินทร์แก้ว สว.ฝอ.บก.สส.บช.น. , ร.ต.อ.ศิวัช ยังอุ่น รอง สว.กก.สส.4 บก.สส.บช.น. , ร.ต.อ.วรภัทร แสงเทียนประไพร รอง สว.กก.2 บก.สส.ภ.2 , ร.ต.อ.พลวัต นาคถมยา รอง สว.กก.สส.1 บก.สส.บช.น. , ร.ต.ท.ณัฐวุฒิ อันชูฤทธิ์ รอง สว.(สอบสวน) สน.ดินแดง , ร.ต.ท.อนันตชัย สัจจพงษ์รอง สว.ฝอ.2 บก.อก.สทส. และเจ้าหน้าที่ บก.สส.บช.น. ร่วมกันสืบสวนขยายผลติดตามจับกุมตัวน.ส.นภัสกมล เชียงขุนทด หรือเดียร์ อายุ 26ปี อยู่บ้านเลขที่ 236 ม.1 ต.เหนือเมือง อ.เมือง จ.ร้อยเอ็ด ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดร้อยเอ็ดที่ จ.1030/2567 ลงวันที่ 26 พ.ย. 67 ข้อหา “ฉ้อโกง” ตรวจยึดของกลางโทรศัพท์ไอโฟน 1 เครื่อง, แฟลชไดฟ์ ที่เช่าไปจากร้านพร้อมโทรศัพท์ จำนวน 3 ชิ้น (ผู้เสียหายมาชี้ยืนยันแล้ว คดีที่ สน.พญาไท และ สน.พหลโยธิน) จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมให้ทราบว่า “ยักยอกทรัพย์หรือรับของโจร” จับกุมตัวได้ที่ ห้องพักในคอนโดชื่อดัง ถ.รามคำแหง 2 แขวงดอกไม้ เขตประเวศจ.กรุงเทพฯ

สืบเนื่องจากได้มีผู้เสียหายรายหนึ่งได้ขอความช่วยเหลือมาที่สืบนครบาลว่า ได้ถูกมิจฉาชีพเป็น “สาวทอม” หลอกลวงเช่าโทรศัพท์ก่อนเชิดหลบหนีหายไป จึงจัดกำลังลงพื้นที่สืบสวนพบว่า เพียง 3 เดือนที่ผ่านมา สาวทอมรายนี้ตระเวนก่อเหตุ ลักทรัพย์ ยักยอก ฉ้อโกง คล้ายๆกันหลายสิบคดี โดยจะใช้แผนประทุษกรรม หลอกลวงขอเช่าโทรศัพท์ หรือกล้อง โดยอ้างว่าจะนำไปดูคอนเสิร์ตเกาหลี โดยเมื่อได้ของแล้วก็นำไปขายแล้วหายเข้ากลีบเมฆ , หลอกลวงการเช่าโรงแรม หรือหลอกขายบัตรดูคอนเสิร์ตเกาหลี แล้วชิ่งหนีหาย , ลักทรัพย์ ขโมยโทรศัพท์ด้วยการล้วงกระเป๋าเหยื่อ โดยอาศัยความชุลมุนในพื้นที่การจัดคอนเสิร์ตเกาหลี , ฉ้อโกงทางโลกออนไลน์ เปิดเพจเฟสบุ๊คต่างๆนาๆ ขายของทางออนไลน์ ได้เงินแล้วหนีหายไม่มีการส่งของ และ ตระเวนขอยืมเงินกับเพื่อนในโลกออนไลน์แล้วไม่คืน โดยลงมือก่อเหตุมาอย่างต่อเนื่อง เรียกได้ว่าโกงเป็นอาชีพ จนเหล่าผู้เสียหายได้รวมตัวสร้างกลุ่มจองกฐินสาวทอมรายนี้เป็นจำนวนมาก ซึ่งแต่ละ สน.ก็ได้มีการออกหมายเรียกสาวทอมรายนี้ไปแล้วจำนวนมาก

สาวทอมรายนี้ยังตระเวน “แจ้งความกลับ” เหล่าผู้เสียหายเกือบทุกราย โดยอ้างว่าตนเองถูกข่มขู่ ถูกกลั่นแกล้งต่างๆนาๆ เรียกได้ว่าเลวเต็มพิกัด ไม่มีความสำนึกใดๆ

จากการติดตามพบว่าสาวทอมตระเวนเปลี่ยนที่พักไปเรื่อยๆ ส่วนเงินที่โกงชาวบ้านมานั้นได้นำไปใช้ชีวิตแบบ “ติดแดก” กินหรูซื้อของแพง ใช้ชีวิตหลบๆซ่อนๆ ต้องชื่นชมหนึ่งในกลุ่มผู้เสียหายที่นำข้อมูลกับชุดสืบสวนว่าพบเห็นคนร้าย หลบหนีไปอยู่ห้องเช่ากับเพื่อนสาวคนหนึ่งในพื้นที่ย่านบางนา พล.ต.ต.ธีรเดชฯ จึงได้นำกำลังบุกไปที่ห้องพักในคอนโดชื่อดัง ถ.รามคำแหง 2 แขวงดอกไม้ เขตประเวศจ.กรุงเทพฯ แต่ปรากฏว่าพบเพียงเพื่อนสาว แต่ไม่พบตัวคนร้าย แต่ด้วย สัญชาตญาณบอกทันทีว่าคนร้ายต้องกลับมาแน่นอน จึงได้วางแผนซ้อนเร้นพลางกาย แอบดักคอยภายในห้องพักตามซอกมุมอับ เฝ้ารอสาวทอมกลับมาที่ห้องอย่างใจจดใจจ่อ กว่า 2 ชั่วโมง กระทั่งเสียงแห่งความหวังได้ดังขึ้น สาวทอมได้เคาะประตูห้องพัก เมื่อเปิดเข้ามาก็ถูกชุดสืบสวนที่แอบอยู่จับกุมแบบเซอร์ไพร์สไปตามระเบียบ

สอบสวนผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา อ้างว่า “ตนเองจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 จากโรงเรียนชื่อดังใน จ.ร้อยเอ็ด แล้วไม่ได้เรียนต่อ เรื่องคดีที่เกิดขึ้นทั้งหมด ตนเองเคลียหมดแล้ว ยืนยันว่าไม่ได้โกงใคร แล้วตนเองก็ได้มีการแจ้งความกลับเหล่าผู้เสียหายหลายๆรายด้วย ก่อนถูกจับกุมตนเองก็พึ่งโทรศัพท์คุยกับตำรวจรายหนึ่งมา โดยที่ตนเองถูกศาลออกหมายจับนั้นเพราะตนเองป่วยจึงไม่ได้ไปตามหมายเรียก ก่อนนำตัวพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สน.พญาไท ดำเนินคดี ส่วนตัวผู้ต้องหาได้นำส่งศาลจังหวัดร้อยเอ็ด เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยหลังจากนี้จะมีการขออนุมัติออกหมายจับคนร้ายรายนี้อีกหลายคดี ซึ่งจะมีการนำหมายจับไปประสานอายัดตัวต่อไป

ด้านพล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. กล่าวว่า “ถือว่าเป็นประโยชน์มากที่กลุ่มผู้เสียหายได้รวมพลังกันเข้ามาให้ข้อมูลกับเรา หากแยกกระจัดกระจายกันแจ้งความตามโรงพักอาจจะทำให้ข้อเท็จจริงบางประการไปได้ไม่เต็มที่ แต่เมื่อนำข้อเท็จจริงและแผนประทุษกรรมคดีที่คนร้ายก่อทั้งหมดมารวมกัน ทำให้เราพิสูจน์ได้ถึงเจตนาทุจริตของคนร้ายได้  ผมขอกล่าวแสดงความชื่นชมผู้เสียหายและขอแสดงความห่วงใยผู้เสียหายหลายๆรายที่ถูกมิจฉาชีพรายนี้แจ้งความกลับ เราวิเคราะห์จากพฤติกรรมผู้ต้องหาแล้วนอกจากจะตระเวนก่อเหตุมาอย่างต่อเนื่องแล้ว ผมขอยืนยันว่าตอนนี้ผมได้รายงานเรื่องนี้ให้กับผู้บังคับบัญชารับทราบแล้ว พล.ต.ท.สยาม บุญสม รรท.ผบช.น. สั่งการให้มีการขยายผลโดยละเอียด โดยให้ดำเนินอย่างเด็ดขาด เพราะคนร้ายรายนี้ถือเป็นภัยต่อสังคม และเพื่อประโยชน์ต่อสาธารณะชนขอประชาสัมพันธ์ไปยังพี่น้องประชาชน ผู้ใดเคยถูกผู้ต้องหารายนี้ ยักยอกหรือหลอกลวง ด้วยวิธีการใดๆ สามารถแจ้งเบาะแสมาได้ที่เพจสืบนครบาล IDMB เราจะมีการขยายผลให้ถึงที่สุด แม้ว่าจะไม่ใช่คดีอุกฉกรรจ์ แต่หากเป็นความเดือดร้อนของประชาชน เราทำทันที ตามนโยบายของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ ตร

RELATED ARTICLES