เราไม่ทิ้งกัน

 

วิกฤตินาทีชีวิตนายตำรวจหนุ่มนักกู้ระเบิดกระดูกเหล็กหัวใจแกร่ง

“หมวดท็อป” ร.ต.ท.ยุทธนา เทพสถิตย์ สังกัดกองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 14  ช่วยราชการหน่วยเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิด ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ หนึ่งใน “วีรบุรุษไฟใต้” ที่ยังมีลมหายใจ

พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วย คุณนภัสนันท์ วุฒิจรัสธำรงค์ กรรมการบริหารสมาคมแม่บ้านตำรวจ ประธานที่ปรึกษาโครงการ “ครอบครัวตำรวจ เราไม่ทิ้งกัน” พร้อมด้วยคุณจิดาภา ปุระธนานนท์ รักษาการประธานชมรมแม่บ้านตำรวจภูธรภาค 7   พล.ต.ต.ไพศาล พฤกษจำรูญ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7  พล.ต.ต.วัชรินทร์ ประสพดี ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุพรรณบุรี

นำคณะเข้าเยี่ยมให้กำลังใจ ร.ต.ท.ยุทธนา เทพสถิต ที่บ้านพักในจังหวัดสุพรรณบุรี      

พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วย คุณนภัสนันท์ วุฒิจรัสธำรงค์ กรรมการบริหารสมาคมแม่บ้านตำรวจ ทำหน้าที่เป็นผู้แทนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และสมาคมแม่บ้านตำรวจ มอบสิ่งของและเงินช่วยเหลือเพื่อเป็นขวัญกำลังใจ

ตามนโยบายของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และ คุณกนกวรรณ พันธุ์เพ็ชร์ นายกสมาคมแม่บ้านตำรวจตามโครงการ “ครอบครัวตำรวจ เราไม่ทิ้งกัน”

เรื่องราวของนายตำรวจนักกู้ระเบิดถือเป็นอีก “ตำนานวีรบุรุษที่ยังมีลมหายใจ” จากเหตุการณ์ถูกผู้ก่อความไม่สงบดักลอบวางระเบิดระหว่างเดินทางไปปฏิบัติหน้าที่จนได้รับบาดเจ็บสาหัสนอนพักรักษาตัวอยู่โรงพยาบาลนานนับปี

โชคดีได้ครอบครัวและคนรอบข้างเป็นกำลังใจขับเคลื่อนให้ตัวเองฟื้นฟูสภาพร่างกายเร็วเกินคาด

โดยเฉพาะ “น้องเอวา” นางฟ้าตัวน้อยที่เป็นพลังส่ง “ผู้หมวดหนุ่มหน่วยอีโอดี” คืนสติกลับมาอย่างปาฏิหาริย์ เพื่อรอเวลาลงไปทำหน้าที่เสี่ยงภัยในสมรภูมิรบปลายด้ามขวานอีกครั้ง

ย้อนเหตุการณ์ไปเมื่อเช้าวันที่ 14 กันยายน 2560  นายมนูญ พรหมน้อย นายอำเภอกาบัง จังหวัดยะลา พร้อมด้วย พ.ต.อ.ญาณพงศ์ อุบลบาน ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรกาบัง นำกำลังไปตรวจสอบเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดเสาไฟฟ้าแรงสูงริมถนนบ้านตาเต๊าะ หมู่ 5 ตำบลกาบัง ที่หักโค่น มีเศษชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ตัวจุดชนวนระเบิดกระจัดกระจาย หลังจากถูกกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบป่วนเมื่อตอนกลางดึกเพื่อสร้างสถานการณ์

ระหว่างนั้น ส.ต.ธเนศ พุทโธ หัวหน้าชุดเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 47 บ้านสะปาเราะ หมู่ 5 ตำบลยะหา อำเภอยะหา จังหวัดยะลา นำกำลังชุดปฏิบัติการ 5 นายตามไปสมทบเพื่อหาข้อมูล รรถแล่นมาถึงบ้านปาแดรู หมู่ 1 ตำบลหาตอง อำเภอยะหา ห่างจากจุดคนร้ายระเบิดเสาไฟฟ้าราว 10 กิโลเมตร กลุ่มก่อความไม่สงบได้กดบึมที่ซุกกอหญ้าใกล้เสาหลักทางโค้งริมถนนสาย 4060 (ยะลา-กาบัง) เสียงดังสนั่นหวั่นไหวเป็นเหตุให้ ส.ต.ธเนศ พุทโธ หัวหน้าชุดบาดเจ็บสาหัสและเสียชีวิตในเวลาต่อมา

พล.ต.ต.กฤษฎา แก้วจันดี ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยะลาในขณะนั้นนำกำลังตำรวจชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดชุด ศรศึก-ศรชัย ของกองกำกับการตำรวจปฏิบัติการพิเศษตำรวจภูธรจังหวัดยะลา ร่วมเดินทางไปตรวจสอบพร้อมชุดวินิจของศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ ปรากฏถูกคนร้ายดักวางระเบิดสังหารซ้ำในบริเวณที่เกิดเหตุ

ผู้หมวดหนุ่มเจ็บหนักเจียนตาย ร่างกายกระเทือนจากแรงระเบิด

“ผมจำอะไรไม่ได้เลย” ผู้หมวดหนุ่มนักกู้ระเบิดส่ายศีรษะน้ำเสียงกระท่อนกระแท่นจากพิษโศกนาฏกรรมครั้งนั้น

เจ้าตัวยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่า สูญเสีย “ดาบยักษ์” ด.ต.อนิรุทธ จันทะวงษ์ เพื่อนร่วมสมรภูมิไปอย่างวีรบุรุษ

หมวดท็อปอาการหนัก ศีรษะได้รับการกระทบกระเทือนจากแรงระเบิดนอนไม่รู้สึกตัวอยู่อยู่ที่โรงพยาบาลศูนย์ยะลา สะเก็ดระเบิดฝังเข้าไปในสมอง แพทย์เอาออกมาได้บางส่วน ต้องย้ายไปโรงพยาบาลสงขลานครินทร์

อาการของเขาค่อนข้างวิกฤติชีวิตอยู่บนเส้นความเป็นความตาย แม้แพทย์จะพยายามผ่าเอาสะเก็ดระเบิดออกจากศีรษะ แต่สมองยังบวม เนื่องจากมีอาการหนักเลือดไหลซึมออกมาทั้งสมอง รูหู และเส้นประสาทตาถูกทำลาย

หลายคนร่วมลุ้นปาฏิหาริย์ให้มีข่าวดีพร้อมกันกับครอบครัว “เทพสถิตย์” ด้วยเพราะเขาเป็นนายตำรวจมีอนาคต และกำลังจะได้เป็นพ่อคน เมื่อภรรยาท้องได้ 8 เดือนใกล้คลอดเต็มที

“เอวา แปลว่านางฟ้าครับ” หมวดท็อปไม่เคยลืม

เขาเป็นคนตั้งชื่อลูกสาวตั้งแต่อยู่ในท้อง ไม่เคยคิดว่าจะหมดโอกาสเห็นหน้านางฟ้าตัวน้อยตอนลืมตาดูโลกในอีกไม่กี่วันข้างหน้า ทว่า “กิ๊ฟ”เนตรนรินทร์ ถิ่นกาญจน์  วิสัญญีแพทย์พยาบาลของโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ ผู้เป็นภรรยายังมีความหวัง เธออุ้มท้องไปเฝ้าอาการสามีอยู่ข้างเตียง พยายามประคองมือสามีมาสัมผัสท้องเพื่อสื่อสารสายสัมพันธ์ถึงลูกสาวตัวน้อยในครรภ์

มันเป็นความรู้สึกหดหู่และทรมานที่สุดของเธอ

ทั้งคู่แต่งงานกันได้เพียงปีเศษ แต่ต้องมีเหตุเกือบต้องพลัดพรากจากกัน  

เธอให้กำเนิด “น้องเอวา” ลูกสาวผู้น่ารักของเขา เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2560 ในสถานการณ์ที่ผู้หมวดหนุ่มอีโอดียังแทบไม่รู้สึกตัว เนื่องจากสูญเสียกะโหลกหนึ่งซีก ร่างกายซีกซ้ายเป็นอัมพฤกษ์อ่อนแรง ต้องใช้เวลานานเกือบเดือนถึงเริ่มมีพัฒนาการพยายามพยักหน้า บีบมือ และเหลือกตาไป–มาเพื่อตอบสนองสัญญาณชีพ

ในที่สุด หมวดท็อปฟื้นขึ้นมาขยับมือไปสัมผัสพ่อกับแม่ที่เฝ้าประคบประหงมดูแลไม่ห่างเตียง เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เทพ เทพสถิตย์ บิดาของเขาทำงานอยู่ที่กรมชลประทาน จังหวัดเชียงใหม่ แทบจะไม่เป็นอันกินนอนพอรู้ข่าวมีระเบิดในจังหวัดยะลาเมื่อตอนเช้า   

นับจากวันนั้นจนถึงปัจจุบันเกือบ 8 ปี ที่ วีรบุรุษนักกู้ระเบิดแทบไม่เห็นแสงสีข้างนอก ไม่ได้เที่ยวเหมือนคนปกติ แต่ได้ญาติพี่น้องใกล้ชิดคอยดูแล

เขาไม่เคยท้อ พยายามสู้ ขยันทำกายภาพทุกเช้าเย็นอย่างอดทน  

แม้รู้ว่าไม่อาจกลับมาเหมือนเดิม

 

ติดตามอ่านเรื่องราวทั้งหมดของหมวดท็อปได้ที่ https://www.cops-magazine.com/topic/33483/

 

 

RELATED ARTICLES