ถึงเวลาต้องกัดฟันกลืนเลือด

เมื่อคำสั่งแต่งตั้ง คณะอนุกรรมการข้าราชการตำรวจเกี่ยวกับกฎหมายและระเบียบ ถูกมือดีปล่อยว่อนโลกออนไลน์

คงไม่ต่างกระแสข่าวกระพือลือสะพัดก่อนหน้า

พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ที่ปรึกษาพิเศษประจำสำนักนายกรัฐมนตรี(นักบริหารระดับสูง) จะหวนคืนถิ่นปทุมวัน เลื่อนชั้นเป็น “ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ”

ทำชื่อของนายพลตำรวจหนุ่มที่หายไปนาน 2 เดือนกว่ากลับมาหวานเจี๊ยบอีกครั้ง

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติราชการแทนนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกรรมการข้าราชการตำรวจ สะบัดปากกาลงนามคำสั่งแต่งตั้ง คณะอนุกรรมการข้าราชการตำรวจเกี่ยวกับกฎหมายและระเบียบ เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2562 ที่มี พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล รวมอยู่ในคณะอนุกรรมการด้วย

ผ่านไปเพียง 10 วันเอกสารถูกเปิดเผยแพร่กระจายกลายเป็นประเด็นร้อน

เที่ยวนี้เจ้าตัวได้เปิดใจแจงเป็นครั้งแรกว่า เป็นคำสั่งแต่งตั้งในคณะทำงานชุดเดิมที่เปลี่ยนแปลงในบางตำแหน่ง เนื่องจากบางคนเกษียณอายุราชการต้องมีการลงนามคำสั่งใหม่อีกครั้ง

ยืนยันว่าไม่ใช่การแต่งตั้งตำแหน่งใหม่แต่อย่างใด

“ส่วนตัวมองว่าไม่ว่าจะอยู่ในตำแหน่งใดก็พร้อมที่จะทำงานเป็นข้าราชการในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและจะทุ่มเทแรงกายแรงใจ ทำงานให้ประชาชนเพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการร่วมพัฒนาประเทศขับเคลื่อน ตามนโยบายของรัฐบาล” พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ว่า

นายพลคนดังบอกด้วยว่า ผู้บังคับบัญชามอบหมายงานให้ทำเช่นเดียวกับข้าราชการคนอื่น ๆ เมื่อได้รับมอบหมายภารกิจก็มุ่งมั่นที่จะทำให้ประสบความสำเร็จ และมุ่งหวังว่างานที่ทำจะเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม ไม่ว่าทางใดทางหนึ่ง พร้อมจะยืนหยัดทำหน้าที่ เป็นข้าราชการเพื่อทดแทนคุณแผ่นดินและทำประโยชน์ให้ประเทศชาติต่อไป

สุดท้าย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ต้องไปนั่งหัวโต๊ะเป็นประธานประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจครั้งที่ 6 /2562 วาระเร่งด่วน พิจารณาหารือกรณีสังคมโซเชียลเผยแพร่คำสั่งแต่งตั้ง พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล เป็นอนุกรรมการข้าราชการตำรวจเกี่ยวกับกฎหมายและระเบียบ

ใช้เวลาถกราว 40 นาทีก่อนมีมติเอกฉันท์

เห็นชอบให้ถอดชื่อ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ออกจากอนุกรรมการข้าราชการตำรวจเกี่ยวกับกฎหมายและระเบียบ เปลี่ยนเอา พ.ต.อ.มานะ เผาะช่วย รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 8 เข้าไปทำหน้าที่แทน

น่าเห็นใจ ลุงป้อม-พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ต้องกัดฟันกลืนเลือดเชือดลูกน้องคนโปรดที่ตัวเองเพิ่งเซ็นลงนามคำสั่ง ประกาศคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ เพียง 10 วัน

มี พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา ประธานอนุกรรมการชุดดังกล่าวโผล่ออกตัวแทนว่า การปรับเปลี่ยนตัวไม่ใช่ลดแรงเสียดทานของสังคม แต่เป็นการเสนอเพื่อความเหมาะสม เพราะ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ย้ายไปประจำสำนักนายกรัฐมนตรีไม่สะดวกจะเดินทางเข้าประชุม

ทำอาการร้อนรุ่มในใจที่รุมเร้าใครหลายคนคลายกังวล

ผลพวงจากพิษโลกออนไลน์ “เตะสกัด” อดีตผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองจนชะงักชั่วคราว

ทว่าเรื่องราวของเขาคงไม่สะดุดหยุดแค่ตรงนี้