ว่าจะชำแหละทัพนครบาลกับสอบสวนกลาง
ภายหลังคณะกรรมการข้าราชการตำรวจเคาะผ่าน โผ 183 นายพลสีกากี
แต่วันนี้ขออนุญาตยกยอดติดค้างเพื่อกล่าวอำลา “ฉากอวสาน” อย่างเป็นทางการของ ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ ก่อนดีกว่า หลังจากราชการกิจจานุเบกษาเผยแพร่ประกาศราชกิจจานุเบกษา เล่ม 134 ตอนที่ 89 ก ราชกฤษฎีกา (ฉบับที่ 3 )พ.ศ.2560 แบ่งส่วนราชการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
ตั้งกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว ยุบศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้
มีผลวันที่ 1 กันยายน พุทธศักราช 2560
ทำเอา พล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ ผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ เก้าอี้หายกลายเป็น “ผู้นำคนสุดท้าย”ที่มีโอกาสคุม 3 จังหวัดชายแดนด้ามขวาน
แม้จะเตรียมพร้อมล่วงหน้ามากว่า 1 เดือนแล้ว พอถึงเวลาจริงหลายคนรู้สึกใจหาย
ผลกระทบที่ตามมาน่ามี “แรงกระเพื่อม” ส่งถึงบัญชีรายชื่อนายพลสีกากีบางส่วนที่เพิ่งผ่านที่ประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจไปเมื่อวันก่อน
เหตุเพราะกฤษฎีกาแบ่งส่วนราชการใหม่ มีผลบังคับใช้ กลับยัง ไร้บุคลากรระดับผู้บังคับบัญชา ลงไปบริหารหน่วยกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว
ขณะที่ พล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ อดีตผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ และบรรดารองผู้บัญชาการ ผู้บังคับการบางส่วน
วันนี้จะไปนั่งทำงานอยู่ตรงไหน
ส่วนผู้กำลังจะย้ายไปใหม่ในเดือนตุลาคมอย่าง พล.ต.ต.ดาวลอย เหมือนเดช พล.ต.ต.สุภธัช คำดี จะมีโอกาสขยับปรับโยกเสียบเก้าอี้ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 แทนด้วยหรือไม่
ราวกับช่วงจังหวะเวลากำลังนำพาสัญญาณ “รื้อโผนายพลใหม่”
ให้โอกาสผู้พลาดหวังดิ้นอีกเฮือก เปิดทางให้เลือกลุ้นอีกระลอก