วันแรกที่กฤษฎีกามีผลบังคับใช้ในสมรภูมิร้อนปลายด้ามขวาน
สู่บท อวสานศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ พาเอาตำรวจพื้นที่ 3 จังหวัดสับสนระคนปฏิบัติหน้าที่ไม่ถูก เนื่องจากไม่มีคำสั่งอะไรมารองรับการบังคับบัญชาสั่งการของกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 แม่ทัพเก่าเมื่อ 8 ปีก่อน
พล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ เจ้าของเก้าอี้แม่ทัพดับไฟใต้กลายเป็น “เจ้าไม่มีศาล” ไม่มีงานทำ เฉกเช่น รองแม่ทัพคนอื่น เพราะไม่มีอำนาจเซ็นเอกสารใด ๆ
ส่งผลกระทบถึง การเบิกจ่ายน้ำมัน อาวุธยุทโธปกรณ์ ที่จะนำไปใช้ปฏิบัติหน้าที่ดูแลความสงบเรียบร้อย
พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ทำหน้าที่ชี้แจงแนวทางการดำเนินการของสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่เตรียมไว้ล่วงหน้าแล้ว ทั้งในเรื่องปรับเกลี่ยกำลังพลและให้มีการรักษาราชการแทนไปก่อนเพื่อให้ปฏิบัติหน้าที่ต่อเนื่องได้อย่างไม่มีปัญหา
แต่คงต้องรอแนวทางที่ชัดเจนอีกครั้ง
เหมือนทำท่าจะ “ลอยแพ”เหล่านักรบสมรภูมิชายแดนใต้ให้แก้ปัญหาความสับสนวุ่นวายที่เกิดขึ้นกันเอง
โชคยังดีที่ไม่เกิดเหตุการณ์รุนแรงในพื้นที่ระหว่าง แม่ทัพเปลี่ยนตัว อำนาจความรับผิดชอบเปลี่ยนมือ
ขุมกำลังระส่ำระสายขาดผู้นำ
ฉากจบของศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้จึงเป็นแค่ “ฝุ่นละออง” ไม่ใช่ “พายุร้าย” พัดทำลายขวัญกำลังใจ นักรบสีกากี ที่เสียสละปกป้องรักษาแผ่นดินเกิด
ต้องขอบคุณ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ไม่ปล่อยเวลาให้นานเกินไป รีบสะบัดปากกาเซ็นคำสั่งให้ กลุ่มแม่ทัพที่เก้าอี้หลุดหายไปในเวลาไม่ถึง 24 ชั่วโมง รักษาราชการแทนตำแหน่งใหม่ เมื่อค่ำวันที่ 1 กันยายน 2560
ตั้งแต่ พล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ รักษาราชการแทน ผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว พล.ต.ต.พัฒนาวุธ อังคะนาวิน รักษาราชการแทน รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว พล.ต.ต.พุทธิชาติ เอกฉันท์ รักษาการแทน รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว พล.ต.ต.คัชชา ธาตุศาสตร์ รักษาราชการแทน รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 พล.ต.ต.ทนงศักดิ์ วังสุภา รักษาราชการแทน รองผู้บัญชาการตำรวจภาค 9 พล.ต.ต.ปราบพาล มีมงคล รักษาราชการแทน ผู้บังคับการอำนวยการ กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว และพล.ต.ต.ทีป ราญสระน้อย รักษาราชการแทน ผู้บังคับการสืบสวนจังหวัดชายแดนภาคใต้
สุดท้ายทั้งหมดจะได้นั่งเป็น “ตัวจริง” หรือเปล่า
คนที่คลุกคลีในวงการข่าวตำรวจย่อมรู้คำตอบมากกว่าใคร !!!
