ช่างภาพข่าวสาวรุ่นใหม่สังกัดค่ายเดลินิวส์
“สุ”สุนิสา ธนพันธสกุล มีพี่น้องทั้งหมด 4 คน เธอเป็นคนที่ 2 พ่อแม่ทำสวนปลูกผักตามฤดูกาล อยู่ที่จังหวัดนครปฐม
เธอจบประถมจากโรงเรียนวัดวังตะกู มัธยมโรงเรียนราชินีบูรณะ ในแผนการเรียนคณิต-อังกฤษ ก่อนมาสอบเข้ามหาวิทยาลัยศิลปากร คณะศึกษาศาสตร์ เอกเทคโนโลยีการศึกษา แล้วได้มีโอกาสฝึกงานตอนเรียนที่สำนักพัฒนาเทคนิคศึกษา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ เกี่ยวกับการผลิตสื่อต่างๆ ทั้งตัดต่อวีดีโอ แอดโฆษณา หนังสือออนไลน์ E-book เป็นโปรเจกต์จบ
พอเรียนจบปุ๊บ สาวจากเมืองพระปฐมเจดีย์เข้าไปทำงานกับ บริษัทไทยโปรดักช์ อินโนเวชั่น จำกัด เป็นเวลา 7 เดือน ในตำแหน่ง Creative Media ออกแบบสปอร์ตโฆษณาให้ลูกค้า “สุชอบมีความคิดอิสระโลดแล่นที่จะสร้างสีสันงานบนหน้าจอคอมทั้งกราฟฟิกและวีดีโอ แต่ในขณะเดียวกันตัวสุเองคิดว่าไม่มีอิสระเลยที่วันๆตูดต้องติดเก้าอี้ในออฟฟิศ บ้างครั้งคิดงานไม่ออกมันก็มีความกดดัน”
เป็นเหตุผลสำคัญทำให้เธอพยายามหางานใหม่ที่มีอิสระมากกว่านี้ กระทั่งวันหนึ่งเปิดเว็บไชต์เจอโฆษณาของหนังสือพิมพ์เดลินิวส์ต้องการช่างภาพภาคสนามเลยลองเข้าไปอ่านดูแล้วรู้สึกว่า น่าสนใจ เธอเลยตัดสินใจลองส่งเรซูเมทางอีเมล ไม่กี่วันทางบริษัทได้เรียกให้ทำแบบทดสอบข้อเขียน
“ในใจลึกๆคิดว่า คงไม่ได้แน่ๆ” เธอว่า แต่หลังจากนั้นภายใน 1 สัปดาห์ บริษัทเรียกให้เข้าไปสัมภาษณ์ “มันก็ดีใจอยู่นะ แต่สุจะเอาผลงานอะไรไปเสนอดี เพราะตอนที่ฝึกงาน มีงานที่เป็นชิ้นเป็นอันก็แค่ทำ E-book เป็นหนังสือออนไลน์ แค่นั้นเอง ตอนนั้นนึกขึ้นได้ว่า เคยทำสารคดีเรื่องสั้นส่งประกวดรายการเรื่องจริงผ่านจอในสมัยเรียนมหาลัย ซึ่งจับกลุ่มกับเพื่อน 3 คน ส่งประกวดในโครงการสิงห์สร้างสรรค์คนทีวีปี 6 ในชื่อเรื่อง อีกมุมหนึ่งของคนชรา เป็นเรื่องราวของคุณตาแก่ๆ ที่ใช้ชีวิตในบ้านพักคนชราย่านนครปฐม สุทำหน้าที่เป็นช่างภาพและตัดต่อ เรื่องสั้นเรื่องนี้ทางรายการได้นำออกอากาศทางทีวีพร้อมให้ใบประกาศเกียรติบัตรด้วย จึงนำผลงานชิ้นนี้ไปประกอบตอนสัมภาษณ์”
เมื่อถึงวันนัดสัมภาษณ์ ภายในห้องมีคนมารอสัมภาษณ์ในตำแหน่งเดียวกันประมาณ 7-8 คน เธอเล่าว่า เป็นผู้ชายซะส่วนใหญ่ ทุกคนมีโปรไฟล์เป็นแฟ้มเล่มใหญ่ๆ มองดูตัวเองมีเพียงแฟลชไดร์ฟอันเล็กๆ คิดว่าคงไม่ได้ทำงานเป็นช่างภาพแล้วแน่ๆ ผ่านไป 1 เดือน บริษัทติดต่อกลับมาพร้อมข่าวดี จึงได้เข้ามาอยู่ในวงการข่าว
ช่วง 3 เดือนแรกที่เริ่มงาน เธอบอกว่า จะมีพี่เลี้ยงคอยสอนและให้คำแนะนำ จากนั้นก็เริ่มมีงานฉายเดี่ยวเข้ามา รู้สึกตื่นเต้นสุดๆ ต้องใช้เวลาควบคุมสติอารมณ์พักหนึ่ง แต่ก็ผ่านไปได้ด้วยดี
“รู้สึกมีความสุขทุกครั้งที่ได้ทำงานตรงนี้ ได้เจอผู้คนมากหน้าหลายตา สนุกทุกครั้งที่ได้เจอสถานการณ์ต่างๆ มีอิสระทั้งความคิดการกระทำภายใต้ขององค์กร และจะทำหน้าที่ช่างภาพให้ดีที่สุดค่ะ” พิราบสาวสีบานเย็นว่า