ถือเป็น “กระจกส่อง” สะท้อนภัยสังคมของคนใกล้ตัว
เรื่องราวของสาวเสิร์ฟร้านอาหารวัย 24 ปีเป็นศพผูกคอตายอย่างมีเงื่อนงำในห้องนอนเพื่อนชายของบ้านเลขที่ 46 ซอยเมืองแก้ว 1 ต.หนองแค อ.หนองแค จ.สระบุรี เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2560
ส่อแววจะเป็นฆาตกรรมจัดฉากอำพรางคดี
ผ่านไปกว่าครึ่งเดือนแม่เธอเดือดเนื้อร้อนใจหวั่นลูกสาวจะตายฟรี เพราะมองกลุ่มผู้ต้องสงสัยเป็นลูกนักการเมืองท้องถิ่น ลูกข้าราชการตำรวจ จึงตัดสินใจร้องขอความเป็นธรรมต่อ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพรามณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมสั่งการให้ พล.ต.ต.ชัยรัตน์ ทิพยจันทร์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสระบุรี พ.ต.อ.สุคนธ์ ศรีอรุณ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสระบุรี พ.ต.อ.ฉัฐวัชร วงศ์วาสน์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรหนองแค เร่งรัดคลี่ีคลายปม
ข้อเท็จจริงก่อนหน้าพวกเขานำศพเหยื่อให้แพทย์นิติวิทยาศาสตร์ โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ ชันสูตรข้อกังขาตั้งแต่แรก เพราะเห็นเป็นหน่วยงานกลางป้องกันข้อครหาเนื่องจากมี “ลูกนายดาบตำรวจ” อยู่ในข่ายกระทำความผิด
เพียงแต่ต้องใช้ระยะเวลาเข้าคิวในการตรวจสอบ
กระทั่งปรากฏผลตรวจพบดีเอ็นเอผู้ต้องสงสัยที่สายชาร์ตโทรศัพท์มือถือที่รัดคอผู้ตายในที่เกิดเหตุ และยังพบเนื้อเยื่อของผู้ต้องสงสัยรายเดียวกันที่เล็บของผู้ตายอีกด้วย
นำไปสู่การขออนุมัติหมายจับต่อศาลจังหวัดสระบุรีในข้อหา ร่วมกันฆ่าผู้อื่น ย้ายหรือทำลายศพเพื่อปิดบังการตาย หรือเหตุแห่งการตาย และร่วมกันข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นอันมีลักษณ์เป็นการโทรมหญิง
ผู้ต้องหาจำนวน 4 คน ประกอบด้วย นายอธิพัชร์ หรือก้อง อภิญญากุล เจ้าของบ้าน นายนันทพร หรือโอ๊ต บุญมาก นายศุภกร หรือกอล์ฟ โสภา ลูกชายนักการเมืองท้องถิ่น และนายสันติ หรือลาภ ทิพมล ลูกชายนายดาบตำรวจ
ทั้งหมดให้การปฏิเสธในข้อหาร่วมกันฆ่า แต่ยอมรับว่า ได้รุมโทรมผู้ตายจริง
หลังจากชวนผู้ตายมานั่งดื่มกินกัน ก่อนจะใช้กำลังข่มขืนกระทำชำเรา อ้างไม่มีเจตนาให้ถึงแก่ความตาย สุดท้ายเมื่อพลาดพลั้งมือจำเป็นต้อง “จัดฉากอำพรางศพ” ให้ดูเหมือนเหยื่อสาวผูกคอฆ่าตัวเอง
ตำรวจสระบุรียืนยันว่า “ไม่ได้เป่าคดี” หรือช่วยเหลือผู้กระทำความผิด แต่ด้วยปัญหาการประสานงานต่างหน่วยงานเกี่ยวกับผลพิสูจน์ทางด้านนิติวิทยาศาสตร์ล่าช้า ทำให้ต้องใช้เวลารวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขอศาลอนุมัติหมายจับ
จริงเท็จอย่างไร พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวงแห่งชาติ รู้ดีที่สุด