ลมลวง

สุดท้ายไม่ใช่ลมพัดหวน

คำสั่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้ พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา คืนกลับมานั่งตำแหน่งรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติตามเดิม

กลายเป็น “ลมลวง” ของหลุมพรางเข้าเต็มประตูสำนักปทุมวัน

 “บัดนี้ได้รับรายงานจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติว่า การดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงในกรณีดังกล่าวข้างต้นเสร็จสิ้นแล้ว อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 11 (1) (3) (4) และ (6) แห่งพระราชบัญญัติระเบียนบริหารราชการแผ่นดิน พุทธศักราช 2534 จึงให้ยกเลิกคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่ 22/2563 ลงวันที่ 23 มกราคม 2563 และให้ พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กลับไปปฏิบัติราชการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ”

เหมือนรอยมลทินของ พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา จะถูกลบล้างได้จริงตามคำสั่งของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

ทำไปทำมากลายเป็น “เกมล้มกระดาน” ตัดเส้นทางนายพลตำรวจเอกคนดังอย่างเลือดเย็น

หลังจาก พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มอบหมายให้สำนักงานกฎหมายและคดีเข้าแจ้งความพนักงานสอบสวนกองปราบปรามให้ดำเนินคดี พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา

ฐานกระทำความผิดตามพระราชบัญญัติการประกอบกิจการโทรคมนาคม พุทธศักราช 2544

ยกประเด็นร้อนจากคลิปสนทนาทางโทรศัพท์เข้าข่ายผิดข้อหาการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล และประกาศคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ฉบับที่ 21 เรื่องห้ามการดักฟังทางโทรศัพท์ หรือข้อมูลสื่อสารอื่นใด

เป็นข้อมูลการพูดคุยระหว่าง พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา กับ พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา ผ่านสื่อมวลชนกระฉ่อนเมืองเมื่อเดือนมกราคม 2563

ทำให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้รับความเสียหาย

มีการ “ตั้งแท่น” รวบรวมพยานหลักฐานได้พักใหญ่จากคณะกรรมการของจเรตำรวจแห่งชาติพบ พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา เข้าข่ายความผิดดังกล่าว ถึงมอบหมายให้สำนักงานกฎหมายและคดีเข้าแจ้งความกองปราบปราม

แต่เนื่องจากคู่กรณีของ “แม่ทัพสีกากี”ไปปฏิบัติราชการสำนักนายกรัฐมนตรี อาจมีผลต่อการเรียกตัวมาสอบปากคำแจ้งข้อกล่าวหา

จำเป็นต้องอาศัยอำนาจ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา สะบัดปากกาเซ็นคำสั่งโยกกลับมาประจำสังกัดเดิมเพื่อเปิดทางเอาผิด

พิษคลิปหลุด

 สอดคล้องเหตุผลของคำสั่งเชือดครั้งแรก

 “ พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา มีพฤติการณ์และการกระทำส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของประชาชน เกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ในการอำนวยการยุติธรรม กระทบต่อภาพลักษณ์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และการปฏิบัติราชการของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเป็นเหตุให้ราชการเสียหาย

ไม่สามารถลบล้างออกจากใจของ “แม่ทัพปทุมวัน

จำใจต้องฟันไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง

ตัดเส้นทางสู่ยอดบัลลังก์ “พิทักษ์ 1” !!!

 

RELATED ARTICLES