อุทาหรณ์ชายคลุ้มคลั่งเมายานรกสติแตกไล่แทงชาวบ้านกลางเมืองอุดรธานี
พ.ต.ท.รุ่งศักดิ์ มหาปัญญาวงศ์ รองผู้กำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานี ระบายบทความสะท้อนความรู้สึกในมุมของผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ไว้น่าสนใจ
เจ้าตัวว่า เช้าวันอาทิตย์นี้บรรยากาศทั่วเมืองอุดรครึ้มไปด้วยความหดหู่ใจและสลดใจ สาเหตุเกิดจากชายคลุ้มคลั่งจากการเสพ และใช้สารเสพติดเป็นเวลานาน ใช้อาวุธมีดพับแทงเด็กนักเรียน เด็กชาย เด็กหญิงได้รับบาดเจ็บ 5 คนและมีผู้เสียชีวิตถึง 2 คน
ทำให้บรรยากาศวันพ่อเมืองอุดรดูเศร้าลงทันที
หลายคนคิดว่าเหตุการณ์เหล่านี้ไม่ควรเกิดขึ้นเลย
แน่นอนครับประเด็นแรกปัญหายาเสพติด เป็นปัญหาระดับชาติมีหลายครั้งการคลุ้มคลั่งของบุคคลติดยาเสพติดทำร้ายคนในครอบครัว พ่อ แม่ญาติ มีหลายครั้งทำร้ายบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้อง เป็นปัญหาระดับชาติที่ต้องช่วยกันแก้ไขแบบบูรณาการและสหวิชาชีพ
ผมเองก็เคยพูดในที่ประชุมศูนย์ป้องกันและปราบปรามยาเสพติดจังหวัดหลายครั้ง
ในฐานะตำรวจอุดรคนหนึ่ง ผมคิดว่า แนวทางหนึ่งที่สำคัญและควรจะนำมาใช้ในการป้องกันเหตุนี้ได้ ด้วยวิธีการตัด ลดช่องการก่ออาชญากรรม
ผมกำลังพูดถึง”ด่านตรวจ”
หลายคนดีใจที่เห็นสำนักงานตำรวจแห่งชาติประกาศยกเว้นยกเลิกการตั้งด่านเพื่อตรวจจับ ผู้ขับขี่ที่ใช้รถผิดกฎหมายบ้าง คนเมาบ้าง เพื่อลดความขัดแย้งระหว่างประชาชนกับตำรวจ ในมุมของประชาชนก็ดีใจไม่ต้องเสียค่าปรับไม่ต้องคอยระแวดระวังตำรวจ
ถ้ามองอีกแง่นึงปัญหาการละเมิดกฎจราจรเหล่านั้น เกิดจากความมักง่าย ความที่ไม่ใส่ใจ ความไร้วินัยของคน
เมื่อถูกจับกุมดำเนินคดีก็ร้องโอดโอยเรียกร้องหาความเป็นธรรมให้ตัวเอง (ผมว่า เฉพาะคนที่ไม่มีจิตสำนึกในการใช้รถใช้ถนนนะครับ)
ส่วนในมุมที่ผมพูดนั้น การตั้งด่านตรวจ หรือ จุดตรวจจุดสกัด คือ การป้องกันอาชญากรรมอย่างหนึ่ง ในฐานะที่เป็นคณะกรรมการตรวจประเมินงานป้องกันปราบปรามจังหวัดอุดรธานี
ให้ทุกท่านลองคิดตามดูนะครับ เหตุสลดเมื่อวานนี้ ถ้ามีการตั้งด่าน หรือจุดตรวจวินัยจราจร เพื่อคัดกรองบุคคลที่จะเข้ามาเที่ยวงานทุ่งศรีเมือง ทุกแยกทุกมุมเมือง ที่จะเข้ามาในเขตเทศบาล น่าจะช่วยบรรเทา หรืออาจจะไม่เกิดเหตุสลดเช่นเมื่อวานนี้ก็ได้
อย่างน้อยเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตั้งจุดตรวจแต่งเครื่องแบบแสดงตัวเพื่อป้องกันเหตุบริเวณด่านตรวจ
เมื่อพบเห็นบุคคลที่มีลักษณะพฤติกรรม คล้ายคนเสพยาเสพติดขับรถจักรยานยนต์ผ่านมา แน่นอนต้องมีการตรวจค้น สอบถาม และพบหากตรวจค้นพบอาวุธ ก็จะนำมาสู่การจับกุมก่อนเกิดเหตุ
ถึงแม้จะไม่ตรวจพบ แต่หากตัวผู้ต้องหาเองเมื่อเห็นด่านตรวจ ที่ตำรวจแต่งเครื่องแบบตั้งด่านอยู่ ก็ต้องเกิดอาการเกรงกลัวเพราะตัวเองเสพยาเสพติดหรือมีของผิดกฎหมาย อาจจะหลบหลีกไปเส้นทางอื่น ไม่เข้าไปในเมือง หรือเปลี่ยนใจหรือเกรงกลัวที่จะทำความผิด
เช่นเดียวกับด่านเมา(ด่านตรวจวัดแอลกอฮอล์)…ผมเองก็เป็นนักเที่ยว นักดื่ม จะมี เพื่อนๆพี่ๆน้องๆ มักตั้งคำถามประจำหลังสถานบริการเลิก
“เฮียครับคืนนี้มีด่านตรวจเมาไหมครับเฮีย”
ผมตอบไปเลยว่ามีครับ สาเหตุหนึ่งที่ต้องตอบเช่นนั้นเพื่อให้เพื่อนพี่น้องเรานั้นเกิดความรู้สึกรับผิดชอบ ต่อตนเองและผู้อื่น ลองคิดดูสิครับ ถ้าบอกว่าไม่มีด่าน ทุกคนก็แฮปปี้ขอดื่มต่ออีก 1 กลม อีก 1 โปร เพราะรู้สึกว่า ไม่ต้องเกรงกลัวอะไร
ผลลัพธ์ที่ได้ในทางกลับกันถ้ามันเกิดเหตุขึ้นมาใครล่ะที่จะเสียใจนอกจากตัวคุณเอง หรืออาจจะเป็นครอบครัวคนอื่น พ่อแม่ที่พาลูกมาวิ่งตอนเช้ามืดที่หนองประจักษ์ คุณป้าที่มาส่งผักที่ตลาดเมืองทอง คุณยายที่ขายของตลาดเทศบาล คุณลุงที่พึ่งออกยามกำลังจะกลับบ้าน เด็กนักเรียนจากต่างอำเภอที่กำลังเดินทางไปโรงเรียน
ถ้าพวกเขาเหล่านี้เป็นญาติของคุณแล้วประสบอุบัติเหตุ ถูกคนเมาเหล่านั้นขับชนบาดเจ็บ เสียชีวิต คุณจะรู้สึกว่าความรับผิดชอบเหล่านั้นมันควรจะมีอยู่ใน จิตสำนึกของทุกคนใช่ไหม
(จากสถิติการตั้งด่านตรวจวัดแอลกอฮอล์ทำให้ยอดการบาดเจ็บและเสียชีวิตลดน้อยลงอย่างชัดเจน ตรวจสอบตัวเลขและข้อมูลได้จากโรงพยาบาลศูนย์อุดรธานีและมูลนิธินะครับ)
ที่ผมอธิบายมายืดยาวผมพยายามชี้ให้เห็นว่า การป้องกันอาชญากรรมโดยการตั้งจุดตรวจจุดสกัดหรือด่านตรวจ เพื่อเป็นการป้องปรามยับยั้ง ลดช่องว่างการเกิดเหตุ นั้นยังสำคัญสำหรับประเทศแห่งนี้..
ถึงแม้หลายคนจะบอกว่าเป็น ช่องทางทุจริตของตำรวจบ้าง เชื่อเถอะครับทุกวันนี้กล้องโทรศัพท์ กล้องหน้ารถที่มีอยู่ มันทำให้ตำรวจหรือแม้กระทั่งคนที่คิดจะทำผิดกฎหมาย ยับยั้งชั่งใจไม่กล้าที่จะเอาอนาคตตัวเองไปแลกกับเงินแค่ 200 หรือ 500 บาท
ในฐานะตำรวจคนหนึ่งจึงจะอธิบายให้เข้าใจถึงเหตุผล และความจำเป็นที่ควรจะมีการตั้งด่านตรวจทั้งป้องกันอาชญากรรมและตรวจวัดแอลกอฮอล์ มันอาจจะไม่ถูกใจใครหลายคนแต่อย่างน้อยมันก็ทำให้คนส่วนใหญ่อุ่นใจสบายใจและรู้สึกปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของตัวเองครับ
ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บ
ด้วยความเคารพจากใจ”ตำรวจมืออาชีพอุดรธานี”