พล.ต.ต.พิทักษ์ อุทัยธรรม ผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมพ.ต.อ.อรุณ วชิรศรีสุกัญยา รองผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมสั่งการให้ พ.ต.อ.อนรรฆ ประสงค์สุข ผู้กำกับการ 2 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พ.ต.ท.เอกศิษฏ์ โตอดิเทพย์ รองผู้กำกับการ (สอบสวน) กองกำกับการ 2 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พ.ต.ท.ธาม ลอยสะเทื้อน รองผุ้กำกับการ 2 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พ.ต.ท.ปวารณ์ ดาลจาวัล รองผู้กำกับการ 6 ปฏิบัติราชการกองกำกับการ 2 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สนธิกำลังนายปรณต บัวเอี่ยม พนักงานพิทักษ์ป่า ระดับ 3 และเจ้าหน้าที่สำนักงานสนับสนุนการป้องกันและปราบปรามที่ 1 (ภาคกลาง) ตรวจค้นบ้านพัก 3 จุดในพื้นที่อำเภอเดิมบางนางบวช จังหวัดสุพรรณบุรี
จุดแรกบ้านเลขที่ 90/1 หมู่ 4 ตำบลบ่อกรุ อำเภอเดิมบางนางบวช จังหวัดสุพรรณบุรี พบนางมาลัย รักเจริญ เป็นเจ้าของบ้าน จุดที่สองตรวจค้นบ้านเลขที่ 116 หมู่ 4 ตำบลบ่อกรุ อำเภอเดิมบางนางบวช จังหวัดสุพรรณบุรี พบนายศิวกร คะเชนรัมย์ เป็นผู้ดูแล และจุดที่สาม บ้านเลขที่ 126 หมู่ 4 ตำบลบ่อกรุ อำเภอเดิมบางนางบวช จังหวัดสุพรรณบุรี พบนางยุพิน ติดทอง เป็นผู้ดูแล
การตรวจค้นครั้งนี้เป็นการขยายผลหลังจากจับกุมนายภานุพงศ์ จูสิงห์ อายุ 25 ปี พร้อมด้วยของกลาง ลิงแสม จำนวน 87 ตัว และซากลิงแสม จำนวน 15 ตัว บรรจุอยู่ในถุงตาข่ายพลาสติก รัดปากถุงด้วยสายรัดพลาสติก พร้อมด้วยรถกระบะ จำนวน 1 คัน เบื้องต้นให้การว่ารับจ้างขนลิงแสมจากอำเภอวชิรบารมี จังหวัดพิจิตร ไปส่งยังอำเภอวัฒนานคร จังหวัดสระแก้ว ต่อมา พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ขออนุมัติสำนักงานตำรวจแห่งชาติโอนคดีดังกล่าวให้กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สอบสวนพบลักษณะกระทำเป็นขบวนการ มีผู้เกี่ยวข้อง2 ราย คือ นายสำราญ หรือโจ้ รักเจริญ และ น.ส.สมประสงค์ หรือแอ๋ว แจ่มศรี ได้ขออำนาจศาลจังหวัดปราจีนบุรีออกหมายจับฐานร่วมกันมีไว้ในครอบครองและค้าสัตว์ป่าคุ้มครองและซากสัตว์ป่าคุ้มครองและกระทำการอันเป็นการทารุณกรรมสัตว์ ทั้งสองได้ขอเข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรศรีมหาโพธิ จังหวัดปราจีนบุรี และให้การปฎิเสธว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีนี้ และไม่ได้อยู่ในที่เกิดเหตุ พร้อมยื่นหลักทรัพย์ประกันตัวในชั้นศาลวงเงินคนละ 1 แสนบาท ก่อนที่ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จะนำหมายศาลตรวจค้นเป็นบ้านพัก และโรงเก็บของทั้ง3 แห่งไปประกอบสำนวนคดี
