“คิดว่าข่าวทุกสายมีคุณค่าของตัวเอง”

ผู้สื่อข่าวสายเศรษฐกิจ สำนักมติชน

ฝนวิณัฐฏาภรณ์ ศิริโสม   พื้นเพเป็นคนจังหวัดยโสธร ครอบครัวมีอาชีพค้าขายอาหารอีสานและร้านของชำ จบการศึกษาชั้นมัธยม 6 เรียนโรงเรียนยานนาเวศวิทยาคม และเข้าสู่มหาวิทยาลัยกรุงเทพ ภาควิชาวารสารศาสตร์ คณะนิเทศศาสตร์

ตั้งแต่เล็กจนโตมีความฝันที่อยากเป็นมากที่สุดมี 2 อย่าง คือ ดีเจและคนข่าว เพราะลักษณะนิสัยที่ชอบฟังเพลง ชอบพูดคุยกับคนทั่วไป ยิ่งถ้าคนที่สนิทมาก ๆ จะพูดไม่หยุด เรียกได้ว่า พูดแบบน้ำไหลไฟดับก็ไม่ยอมหยุด ตอนเด็ก ๆ แม่ชอบบอกว่าพูดจนลิงหลับ โตมายังเป็นเหมือนเดิม แถมดูจะพูดมากกว่าเดิมอีก

จุดเปลี่ยนของการก้าวเข้าสู่วงการข่าวแทนการอยากเป็นดีเจ คือ การเลือกภาควิชาในการเรียนมหาวิทยาลัย เพราะความชอบอ่านนิยาย นิทาน สารคดีมาตั้งแต่เด็ก ๆ ทำให้รู้สึกว่า อยากเป็นคนเขียนอะไรออกมาให้คนอื่นอ่านบ้าง เลือกเรียนในภาควารสารศาสตร์เพื่อหาองค์ความรู้ที่จะต่อยอดเพิ่มในอนาคตได้

มองว่า อาชีพสื่อมวลชนของไทยที่เรามีภาพจำคือ ต้องกล้าลุย มีความเสี่ยงและความท้าทายในการทำงาน ตรงกับความชอบของตัวเองที่ไม่ได้อยากจำกัดตัวเองให้ทำงานในออฟฟิศเป็นหลัก ทั้งยังถูกกระตุ้นความฝันให้ชัดเจนเข้าไปอีก หลังจากมีโอกาสได้ฝึกงานกับสำนักข่าวไทยรัฐ สายข่าวอาชญากรรม และสายการเมือง ในเวลา 3 เดือน เป็นช่วงเวลาที่มีคุณค่าและเป็นบทเรียนที่มีราคาแพงมาก เจ้าตัวว่า

การฝึกงานกับไทยรัฐ ฝนบอกถือเป็นประสบการณ์ที่ดีมากจริง ๆ เพราะทำให้ได้เรียนรู้ว่า นักข่าวในพื้นที่ทำงานกันอย่างไร ความท้าทายคืออะไร ต้องจัดการอย่างไรถึงจะได้ข่าวที่ท้าทายเหล่านั้นมาอยู่ในมือ เมื่อผ่านช่วงฝึกงานมาแล้ว ก็เข้าสู่การทำโปรเจกต์จบของมหาวิทยาลัย มีโอกาสเรียนรู้กับคนข่าวช่อง 7 ตอกย้ำว่า การผลิตข่าวออกมาสักชิ้น แม้จะเหนื่อยมากแต่ปลายทางก็มีความสุขทุกครั้ง

เมื่อเรียนจบได้เข้ามาทำงานเป็นผู้สื่อข่าวค่ายมติชน ถือเป็นโอกาสสำคัญในชีวิต เพราะเป็นสนามข่าวจริงสนามข่าวแรกที่ก้าวเข้าสู่ชีวิตวัยทำงาน แม้การทำงานจริงจะแตกต่างจากที่คิดไว้ เพราะเข้าสู่สายข่าวเศรษฐกิจอย่างเต็มตัว ความจริงแล้วชอบข่าวอาชญากรรม อยากตามตำรวจไปทำข่าวจับยาเสพติดล็อตใหญ่ หรือทลายแหล่งมั่วสุ่มทั้งบ่อนการพนัน หรือแหล่งค้ามนุษย์ ดูท้าทายและเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นมาก

ปัจจุบัน ฝนอยู่สายเศรษฐกิจ คิดว่าข่าวทุกสายมีคุณค่าของตัวเอง การเป็นคนสื่อสารและตีแผ่แง่มุมของข่าวเหล่านั้นออกมาให้คนทั่วไปได้เห็นได้อ่าน ถือว่า เป็นหน้าที่ของคนข่าวอย่างแท้จริง แม้จะอยู่สายข่าวที่ไม่ได้ชอบตั้งแต่แรก รู้สึกขอบคุณตัวเองทุกครั้งที่เลือกเปิดใจและเรียนรู้จนก้าวเข้าสู่ปีที่ 3 ในการทำงานสายข่าวเศรษฐกิจแล้ว เพราะหากไม่ยอมเรียนรู้ ก็คงไม่มีวันได้รู้ และครอบครัวภูมิใจมากที่ลูกสาวคนนี้ก้าวเข้าสู่เส้นทางที่เลือกไว้ได้สำเร็จ

แรงบันดาลใจในการทำงาน เธอเชื่อว่า ความท้าทายที่มีตลอดเวลา การติดตามว่าในแต่ละวันจะมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นบ้าง มีสิ่งใหม่ๆ ที่ต้องเรียนรู้เพิ่มทุกวัน ทำให้ความจำเจและซ้ำซากถูกตัดออกจากการทำงานของคนข่าวไปโดยปริยาย

RELATED ARTICLES