ขอให้แคล้วคลาด

 

“มีอะไรที่จะทำให้เราเกิดความไม่มั่นคงในหน้าที่ราชการบ้าง”

สัญญาณเตือนด้วยความเป็นห่วงของ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ฝากไปถึงผู้กำกับการในสังกัดกองบัญชาการตำรวจนครบาลบนเวทีสัมมนาเพิ่มประสิทธิภาพข้าราชการตำรวจระดับผู้กำกับของหน่วย

เอาตัวให้รอดจากภัยคุกคาม

แม่ทัพปทุมวันยังกังวลเรื่องคดีความบนโรงพัก ตั้งแต่ความมั่นคงทุกเรื่อง แม้กองบัญชาการตำรวจนครบาลจะตั้งคณะทำงาน แต่หัวหน้าสถานีต้องรู้ ต้องตอบได้ อย่ามาบอกเดี๋ยวขอไปถามลูกน้องก่อน ไม่ว่าจะเป็นคดีเกี่ยวกับการชุมนุม คดีมาตรา 112 และมาตรา 116 ส่งกระทบต่อการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจนครบาลในรอบ 2-3 ปีที่ผ่านมา

แม้บางสถานีจะไม่มี แต่จะประมาทไม่ได้ หัวหน้าสถานีต้องติดตามสถานการณ์ ทำความเข้าใจข้อกฎหมาย ตลอดจนวิธีการบังคับใช้

ส่วนคดีค้ามนุษย์ พล.ต.อ.สุวัฒน์ย้ำว่า สั่งไปหลายรอบแล้ว การจะตั้งข้อหาค้ามนุษย์ต้องผ่านความเห็นชอบจากศูนย์ปราบปรามการค้ามนุษย์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติด้วย

ขณะที่นโยบายสำคัญต้องเร่งจัดการ ผู้นำทัพบอกชัดเจน

เรื่องการฉ้อโกงกันทางออนไลน์กำลังเป็น ความทุกข์อันดับ 1 ของคนไทย ไม่นับรวมถึงผลพิษการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด

“มีทั้งฉ้อโกง ทั้งการขายของ แล้วกระทำผิดกฎหมายในโลกออนไลน์ มีเรื่องยาเสพติด อาวุธ วัตถุระเบิด ทุกอย่าง ขายรถผิดกฎหมาย ขายของไม่ได้มาตรฐาน แต่ที่ร้าย คือ เรื่องฉ้อโกง หลอกเอาเงิน หลอกเอาทรัพย์สิน ลูกเด็กเล็กแดงโดนกันหมด”

เจ้าตัวย้ำว่า ผู้กำกับสถานีต้องปฏิบัติอย่างเคร่งครัดตามที่สำนักงานตำรวจแห่งชาตออกคำสั่งไปแล้ว เรื่องของการดูแลสถานการณ์ต่างๆ ของสถานี ผู้กำกับสถานีต้องรู้ว่าในแต่ละวัน มีผู้เสียหายมาแจ้งเกี่ยวกับออนไลน์เรื่องใดบ้าง ก่อนบันทึกข้อมูลเข้าระบบ

“ผู้กำกับต้องดูแลนั่งหัวโต๊ะ บริหารเอง จะปล่อยร้อยเวรไม่ได้ ที่สำคัญ คือจะไล่ผู้เสียหายไปที่อื่นไม่ได้เด็ดขาด จะมาบอกว่า  ให้ไปแจ้งกองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ไปแจ้ง กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี แล้วโรงพักไม่รับแจ้งไม่ได้”

พล.ต.อ.สุวัฒน์ให้เหตุผลว่า เพราะคดีในออนไลน์ เกิดเหตุที่ไหนก็ได้ การรับแจ้งความไม่ได้แปลว่ารับคำร้องทุกข์ แต่มีขั้นตอนจะออกเลขที่ไหน  ผู้กำกับการต้องไปศึกษา

อีกเรื่องที่อดห่วงไม่แพ้กัน นายพลตำรวจเอกแม่ทัพใหญ่กำชับเรื่องการระมัดระวังออกสื่อในยุคเทคโนโลยี 5 จีเปลี่ยนแปลงโลก ทำให้ทุกคนเป็นสื่อได้ แค่มีโทรศัพท์มือถือเครื่องเดียว ทั้งที่มีคุณภาพ และไม่มีคุณภาพ จำเป็นต้องดิวกับสื่อทุกวัน ผู้กำกับต้องตอบสนองเรื่องด้วยความรวดเร็ว ถูกต้องแม่นยำ

“ถ้ามีเรื่องเกิดขึ้นในพื้นที่ของสถานี แล้วเป็นข่าวออกไป หรือก่อนจะเป็นข่าว ต้องรีบรายงานผู้บังคับบัญชา ให้ข้อมูลที่ถูกต้อง” พล.ต.อ.สุวัฒน์ว่า

ยกตัวอย่างมีการเอาข่าวไปลงในโซเชียลว่า มีผู้หญิงถูกตำรวจเรียกตัวไปซักประวัติ เพราะไปพูดในขณะที่นายกรัฐมนตรีไปตรวจราชการ แสดงถึงความไม่ชอบ ไม่เห็นด้วย หรืออะไรก็สุดแท้แต่ เป็นสิทธิโดยชอบธรรม พล.ต.อ.สุวัฒน์ขยายความว่า มีข่าวตำรวจเอาตัวไปทำประวัติ แต่ข้อเท็จจริงไม่มีอะไรอย่างนั้น แต่กว่าจะแถลงข่าว กว่าจะให้ข้อมูลที่ถูกต้องเสียเวลาเป็นวัน

“อย่านึกว่าวันกว่า ไม่มีผลนะ มีผลเยอะ มีผลมากด้วย”

พล.ต.อ.สุวัฒน์เน้นย้ำเด็ดขาดเรื่องการสัมภาษณ์สด ต้องปรึกษาผู้บังคับการ ปรึกษาทีมโฆษกก่อนจะออกวิทยุ หรือทีวี  ไม่ได้ห้าม แต่ถ้าให้สัมภาษณ์ไม่ได้คำนึงถึงผลกระทบทางคดี หรือสัมภาษณ์ไปแล้วเกิดความเข้าใจผิด เกิดการขยายตัวของเรื่อง ปัญหาจะยิ่งรุนแรงมากขึ้น

สิ่งที่ตอบออกไป เมื่อตอบไปแล้ว คำพูดจะเป็นนายเราและจะถูกเอาไปขยาย

“ถ้าไม่ใช่เรื่องของตัว อันนี้ห้ามเลย ห้ามเด็ดขาดเลย ไม่ต้องไปออกความเห็นในเรื่องของชาวบ้าน”

พล.ต.อ.สุวัฒน์ฝากว่า ครองตน ครองคน ครองงาน ดูตัวเอง ให้เป็นตัวอย่าง ทำงานออกไปแล้ว จัดลำดับให้ดี งานไหนที่จะพาเราไปลงเหว จะใช้คนแบบไหน ทำอะไร ยังไง รู้จักลูกน้อง ดูแลใกล้ชิด ตัวชี้วัดงานต่าง ๆ มี บางงานไม่มีตัวชี้วัด แต่ต้องทำให้ดี ไปเขียนใส่กระดาษมาว่า ในรอบ 1 ปีจะทำอะไรบ้าง ทั้งการแก้ปัญหาของโรงพักกับการพัฒนา

“ ไปปล่อยแถวเด็กบ้าง พูดคุยใกล้ชิด ดูมัน คนไหนมีปัญหา เรียกมาคุย ท่านต้องคิดตลอดเวลา” เจ้าตัวยังย้อนอดีตสมัยเป็นผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลลุมพินี ไปทำงานวันแรก 20 ธันวาคม เกิดมาในชีวิตไม่เคยเห็น มีคนเอากระเช้าปีใหม่มาให้สถานีเยอะมาก นับได้ 300-400 กระเช้า แล้วเอาไปจัดงานวันเด็ก แจกหมด

ทว่าสถานีตำรวจนครบาลลุมพินี ปัญหาคือ สถานบริการ

“พยายามจะหาความพอดีในการจัดการ ในเรื่องของการบังคับใช้กฎหมายกับเรื่องของการทำมาหากิน การท่องเที่ยว  พวกนี้บางครั้งต้องตึง บางครั้งก็ผ่อนได้ แต่ผ่านไป 1 ปี พอปีใหม่ กระเช้า เหลือประมาณสัก 30 กระเช้าได้มั้ง หายไปหมดเลย เพราะผมไม่เคยให้ผู้ประกอบการคนไหน เข้าไปนั่งที่ห้อง หรือไปนั่งคุยด้วย มีแต่เรียกประชุมพร้อมหน้าพร้อมตากันครั้งหนึ่งเป็นร้อย” 

บางครั้งจำเป็นต้องใจแข็ง

“ปีใหม่นี้ก็ขอให้พวกเราอยู่ร่มเย็นเป็นสุข ทำงานประสบความสำเร็จ คลาดแคล้วจากสิ่งที่จะมาทำให้เสียหายต่อการปฏิบัติหน้าที่ทุกคน” เจ้าสำนักสีกากีอวยพรทิ้งท้าย

 

 

RELATED ARTICLES