“ขนาดอยู่คอนโดยังน่ากลัวเลยโดนงัดรอบที่2แล้วจ้ะ 2รอบนั้นก็โดนเคาะ รอบนี้เหล็กคาเลยจ้า”
โพสต์สุดท้ายของ “น้องเต้ย” น.ส.อินทุอร กอหาร สาววัย 23 ปี ที่ไม่คาดคิดจะเป็นลางสังหรณ์นำไปสู่เหตุฆาตกรรมสะเทือนขวัญทั่วเมือง
เธอถูกคนร้ายใช้มีดแทงบาดเจ็บสาหัสภายในห้องพักเลขที่ 164/143 ชั้น 7 อาคาร B2 เมืองทองคอนโด ตำบลบางโฉลง อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ วิ่งหนีกระเสือกกระสนไปสิ้นใจบริเวณหน้าลิฟต์
พยายามตะโกนร้องขอความช่วยเหลือ ทว่าไร้แววพลเมืองดีที่พักอาศัยอยู่ละแวกนั้น
“คนร้ายน่าจะอยู่ในคอนโด” ตำรวจรับแจ้งเหตุรีบมาตรวจสอบ
“ทั้งตึกเนี่ยนะ มีกว่า 200 ห้อง” บางคนรีบถอดใจ
พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 เรียก พล.ต.ต.ชุมพล พุ่มพวง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ พล.ต.ต.วสันต์ เตชะอัครเกษม ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 1 ประชุมวางแนวทางคลี่คลายคดีอย่างเคร่งเครียด
พ.ต.อ.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ พร้อมด้วย พ.ต.อ.ภูริส จินตรานันท์ ผู้กำกับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ พ.ต.อ.วิโรจน์ ตัดโส ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรบางพลี และ พ.ต.อ.วิทิต จันทร์เอี่ยม ผู้กำกับการสืบสวน 3 กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 1 นำกำลังไปสมทบเพื่อปิดล้อมอาคาร
“เคาะทุกห้อง เพื่อหาข้อมูล”
ขณะเดียวกันตามรอยเลือดและวิเคราะห์ผู้ต้องสงสัย สอบปากคำพยานที่เห็นเหตุการณ์ทุกปากควบคู่กับตรวจสอบกล้องวงจรปิด
ข้อมูลเบื้องต้นพบคนร้ายหลบหนีออกจากชั้นที่ 7 ลงมาชั้นที่ 6 ทางบันไดหนีไฟฝั่งห้องผู้ตายแล้วหายตัวไป
ทีมนักสืบเมืองปากน้ำตัดประเด็นคนร้ายหลบหนีออกจากตึก เพราะห้ามใครเข้าห้อง ประกอบกับกล้องวงจรปิดไม่พบความเคลื่อนไหวของคนร้ายออกจากอาคาร
“มันต้องอยู่ในตึกนี่แหละ เพียงแต่เราจะหามันเจอหรือเปล่า”
ดรีมทีมนักสืบ นำโดย พ.ต.อ.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย พ.ต.อ.ภูริส จินตรานันท์ แกะรอยอย่างเงียบที่สุดเพื่อให้คนร้ายชะล่าใจ
“คนร้ายทิ้งเสื้อผ้าเปื้อนเลือด ทำลายหลักฐาน ออกมาใช้ชีวิตปกติ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น” พวกเขาเชื่อแบบนั้น
แต่พยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์โกหกกันไม่ได้
เมื่อเคาะประตูถามทุกห้องเพื่อทำประวัติเก็บรูปถ่ายไว้ทั้งหมดทุกคนในคืนวันเกิดเหตุ ไปสะดุดห้องของ นายณัฐชัย หรือบัง อาดสามารถ อายุ 31 ปี ที่พักห้องเลขที่ 9 ชั้น 3 ใกล้บันไดหนีไฟ ทางสะดวกในการหลบเลี่ยงพยาน
สอดคล้องกับหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ที่ใช้อุปกรณ์พิเศษไล่รอยคราบเลือดบนชั้นเกิดเหตุลงมาตามบันไดหนีไฟ
มันแสดงพิรุธทันทีที่ถูกซัก พูดจาวกวนไปมา อ้างเพิ่งอาบน้ำเสร็จ แต่กลับมีบาดแผลคล้ายโดนกัดบริเวณนิ้วกลางมือซ้าย เมื่อตำรวจนำภาพมาซูมระหว่างถือบัตรประชาชน
แต่เพื่อความแน่ใจ ตำรวจประสานกองพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจพิสูจน์คราบเลือดภายในห้องน้ำของชายผู้ต้องสงสัย ด้วยการใช้สาร “ลูมินอล” ทำปฏิกิริยากับ “ฮีโมโกลบิน” ทำให้แสงเปล่งออกมา
“บิงโก” ตำรวจเล่นสำนวนโบราณส่งสัญญาณปิดแฟ้ม
“มันใจเย็นมาก นิ่งเหมือนเกิดมาเพื่อก่ออาชญากรรม”
born criminal !!!