ผบ.ตร.แถลงคดีไอ้หยางฆ่ายัดท้ายเก๋ง 2 ศพที่ไต้หวัน

ที่กองบังคับการปราบปราม พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตรำวจแห่งชาติ พร้อมด้วย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พล.ต.ต.สันติ ชัยนิรามัย รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รองผู้บังคับการปราบปราม นายอีธาน หลิน ทูตตำรวจไต้หวันประจำประเทศไทย และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมแถลงผลการจับกุม นายสันติ หรือหวัง หรือหยาง ศุภอภิรดีไพลิน อายุ 35 ปี ผู้ต้องหาหมายจับศาลอาญาที่ 1155/2565 ลงวันที่ 14 มิถุนายน 2565 ในความผิดฐาน “ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา” ที่ติดต่อเข้ามอบตัวหน้าบ้านอรุโณทัย หมู่ที่ 10 ตำบลเมืองนะ อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ หลังก่อเหตุฆาตกรรม น.ส.พจนีย์ แซ่หลี่ หรือ มี่ อายุ 35 ปี สาวท้องแก่ลูกแฝดในครรภ์ และนายประเสริฐ โนราษ อายุ 32 ปี ยัดท้ายเก๋งที่ไต้หวันที่หลบหนีมายังประเทศไทย

สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 8 มิถุนายนที่ผ่านมา นายสันติผู้ต้องหาก่อเหตุฆ่าสองสามีภรรยาชาวไทย ฝ่ายหญิงกำลังตั้งครรภ์แฝดประมาณ 5 เดือน บริเวณสำนักงานของผู้ต้องหาในเขตถู่เฉิง เมืองชินเปย ไต้หวัน นำร่างของผู้ตายทั้งสองรายใส่ไว้ในรถยนต์เหยื่อไปจอดทิ้งไว้ที่ลานจอดรถบริเวณ เขตถูเฉิง เมืองซินเปย ไต้หวัน แล้วหลบหนีกลับมาประเทศไทย  พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง นำกำลังสืบสวนติดตามจับกุม  สอบปากคำพ่อและพี่ชายของผู้ตาย และประสานกับทางการไต้หวันเพื่อรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติศาลอาญาออกหมายจับ กระทั่งได้รับการติดต่อจากนายสุชาติ ศุภอภิรดีไพลิน บิดานายสันติ เพื่อนำตัวลูกชายเข้ามอบตัว ที่หมู่บ้านอรุโณทัย หมู่ 10 ตำบลเมืองนะ อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่

กระนั้นก็ตาม พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ร่วมกับ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ร่วมสอบปากคำผู้ต้องหาให้การภาคเสธว่า ไม่ได้ลงมือก่อเหตุ แต่ได้พาดพิงไปยังบุคคลอื่นที่ยังไม่สามาารถเปิดเผยได้ เนื่องจากเกรงว่าจะกระทบต่อรูปคดี ทั้งนี้ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในคดีนี้ถือเป็นความผิดต่อชีวิต ตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288 เป็นกรณีที่ผู้กระทำความผิดเป็นคนไทย และต่อมาบิดาของผู้ตายเป็นผู้เสียหายตามกฎหมายได้ร้องขอให้ลงโทษผู้ต้องหา ความผิดดังกล่าวนายสันติผู้ต้องหาจะต้องได้รับโทษในราชอาณาจักรไทยตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 8 (ก) วรรคสอง (4) ดังนั้นคดีดังกล่าวจำต้องชำระคดีที่ศาลไทย ไม่จำเป็นต้องส่งตัวผู้ต้องหาในฐานะผู้ร้ายข้ามแดนไปยังที่เกิดเหตุ

 

 

RELATED ARTICLES