หวานใจนายตำรวจหนุ่มนักสืบชายทะเลแดนใต้
“คุณอ้น” วราภรณ์ พ่วงพร้อม ภรรยา พ.ต.อ.พิษณุ พ่วงพร้อม รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดระนอง นักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่น 45 ทายาทสาวข้าราชการครูที่ผันตัวไปประกอบธุรกิจสวนปาล์มในอำเภอเขาพนม จังหวัดกระบี่
วัยเด็กเข้าโรงเรียนประจำอำเภอเขาพนม ก่อนย้ายขึ้นกรุงเทพมหานครไปศึกษาระดับชั้นมัธยมปลายโรงเรียนรัตนโกสินทร์สมโภชบางเขน แล้วไปต่อคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง กลายเป็นจุดพบรักกับสามีที่ขณะนั้นเป็นรองสารวัตรสืบสวน สถานีตำรวจนครบาลวังทองหลาง
เธอเล่าว่า บังเอิญเพื่อนเป็นแฟนลูกน้องของเขา ชวนกันไปงานเลี้ยงแถวรามคำแหง ถามว่า ชอบตำรวจไหม ไม่ถึงกับเกลียด แต่รู้สึกเฉย ๆ เพราะคลุกคลีมาตั้งแต่เด็กด้วยความที่พ่อรู้จักคนเยอะ ตอนแรกที่พบกันไม่ได้ถึงกับปิ๊ง เหมือนต่างคนต่างมอง แต่หลังจากวันนั้น เขาเริ่มมาหาเราที่บ้านแถวลาดพร้าว 94 ชวนไปทานข้าว
“ไม่คิดหรอกนะว่า เขาจะมาจีบ ยอมรับนะว่า ภาพของตำรวจที่อ้นมองจะแนวเจ้าชู้ ทำให้อ้นไม่ได้คิดอะไรไกลขนาดนั้น ไปกินข้าวกันจะมีเพื่อนกับแฟน ตำรวจอีกหลายคนด้วย ไปมาหาสู่กับอยู่ประมาณสามเดือนมีลูกน้องเขามาด้วยตลอด” เธอย้อนปฐมบทรักหวาน
หลังจากนั้นทั้งคู่เริ่มไปไหนมาไหนแบบสองต่อสอง
“ชอบตรงเขาเป็นคนจิตใจดี เป็นคนจริงจัง พอดูไป ความคิดที่อ้นคิดว่าตำรวจเจ้าชู้ สำหรับเขา คือ ตรงกันข้าม เริ่มรู้สึกว่าชอบ เขาเป็นคนไม่โกหก แม้กระทั่งเรื่องที่เคยมีครอบครัวมาก่อนก็บอกอ้นแต่แรก เวลาไปทำงานเขาจะจริงจังมาก อ้นก็เข้าใจตลอด ให้ความเชื่อมั่นในตัวเขาว่า เขาไม่โกหก ทำงานคือไปทำงาน ไม่เคยมีปัญหา ไม่เคยทะเลาะกัน แม้บางครั้งไปสืบสวนติดตามคดีหายนานเกือบเดือน อ้นเข้าใจหมดทุกอย่าง”
ความเชื่อมั่นและเชื่อใจ เป็นเหตุผลสำคัญให้เธอตกลงปลงใจเดินร่วมทางเป็นคู่สามีภรรยาที่สมบูรณ์แบบหลังจากคบหากันได้ 7 ปี ระฆังวิวาห์ดังขึ้นตอนสามีเป็นสารวัตรป้องกันปราบปราม สถานีตำรวจนครบาลบวรมงคล ตั้งหลักปักฐานสร้างเรือนหออยู่ละแวกมีนบุรี ฝ่ายชายต้องเดินทางไปกลับโรงพักทุกวัน แต่ยังจริงจังกับเนื้องาน กระทั่งโยกเป็นสารวัตรกองกำกับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล 7
ต่อมาเกิดจุดพลิกผันในชีวิตครอบครัว เมื่อพ่อของเธออยากให้กลับไปช่วยดูกิจการสวนปาล์ม อยากให้มาอยู่ใกล้ ๆ คุณอ้นปรึกษาสามีจะยอมทิ้งนครบาลย้ายตามไปอยู่ด้วยกันหรือไม่ ฝ่ายชายไม่ลังเล ทั้งที่ทำงานอยู่ในนครบาลมาทั้งชีวิตตั้งแต่จบโรงเรียนนายร้อยตำรวจ เป็นเหตุผลสำคัญที่นายตำรวจผู้เป็นสามีย้ายมาดำรงตำแหน่งสารวัตรสืบสวนปราบปราม สถานีตำรวจภูธรปลายพระยา จังหวัดกระบี่
เธอบอกว่า ลองถามสามี หากมาอยู่ที่กระบี่จะไปหรือไม่ เขาบอกตามใจ แต่ยอมรับนะว่ามาใหม่ ๆ ดูสามีค่อยข้างเครียด เนื่องจากไม่เคยอยู่ภาคใต้ ไม่คุ้นเคยกับพื้นที่ภาคใต้ นานถึง 2 ปีกว่าจะปรับตัวได้ เครียดแต่มีถึงกับเกิดปัญหาครอบครัว เพราะชีวิตเปลี่ยนไป มาเจอสิ่งที่ไม่คุ้นเคย ไม่ใช่บ้านตัวเอง ทุกอย่างต้องมาเริ่มต้นใหม่หมด
“เพียงเพราะสามีตามใจอ้น เราทั้งคู่ต้องแก้ปัญหาชีวิต ไม่ให้เกิดปัญหาครอบครัว อ้นพยายามซัพพอร์ต พยายามเข้าใจสามีทุกเรื่อง โชคดีครอบครัวอ้นเป็นครอบครัวใหญ่ มีญาติพี่น้องเยอะ ช่วยพูดคุยกันจนสามีสนิทเหมือนเป็นจุดเริ่มต้นให้ปรับตัวได้ เริ่มมีสังคม มีนาย แล้วย้ายเข้ามาอยู่เมืองกระบี่จนไม่อยากกลับไปอยู่นครบาลแล้ว”
ปรับตัวได้ชีวิตครอบครัวราบรื่น มีพยานรัก 2 คน คือ “น้องอันดา” ภูวสิษฏ์ พ่วงพร้อม อาย 17 ปี ปัจจุบันอยู่โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒประสานมิตร และ “น้องอินดี้” จันทปภา พ่วงพร้อม อายุ 16 ปี กำลังเรียนอยู่โรงเรียนพระหฤทัยคอนแวนต์
คุณอ้นว่า ย้ายมาอยู่บ้านเกิดจังหวัดกระบี่นาน 14 ปีแล้ว มีผู้ใหญ่ชวนสามีกลับไปทำงานที่นครบาล เรายินดี เพราะอยากให้เติบโตในหน้าที่การงานของเขา อะไรที่คิดว่า สามีไปได้ดี ในฐานะภรรยาก็อยากให้ไป เราพร้อมสนับสนุน ถามว่า เรารวยไหม ไม่ถึงกับรวย แต่ไม่เดือดร้อน อยู่แบบสบาย ๆ สามีจะได้ทำงานเต็มที่ เรามีหน้าที่ซัพพอร์ตครอบครัว ดูแลลูก เขาจะได้ไม่ต้องห่วง ไม่ต้องกังวล
กระทั่งสามีย้ายเป็นผู้กำกับการปฏิบัติการพิเศษ กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 8 ต้องไปใช้ชีวิตทำงานอยู่ที่จังหวัดภูเก็ต คุณอ้นสารภาพว่า ตอนแรกเครียด ไม่รู้จะดีหรือไม่ แต่สามีตัดสินใจเอง เนื่องจากผู้บังคับบัญชาชวนไป เราไม่รู้ว่า เขาตัดสินใจถูกหรือผิด เพราะอยู่กระบี่มาตลอดตั้งแต่ย้ายมาจากนครบาล กลายเป็นเรากังวล เครียดแทน แต่เขายืนยันว่า ตัดสินใจไม่ผิด ทำให้เราเชื่อมั่นในตัวสามี เราพร้อมดูแลลูก เพื่อให้เขาไม่ต้องห่วงจะได้มีอิสระในการทำงานเต็มที่
“อ้นแค่ถามว่า พ่อแน่ใจแล้วหรือ พ่อมั่นใจแล้วใช่ไหม มันดีจริงไหม อ้นอยากรู้ข้อดี เขาก็อธิบาย อ้นก็รู้สึกสบายใจขึ้น ต้องให้เขาเลือกของเขาเอง อ้นพร้อมจะสนับสนุน พร้อมจะดูแลลูกได้ ไม่เป็นไร ดูแลบ้าน ดูแลสวน ทำได้ทุกอย่างอยู่แล้ว” แม่บ้านรองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดระนองว่า
คร่ำหวอดอยู่เป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวตำรวจผ่านฤดูกาลแต่งตั้งโยกย้ายตามวาระทุกปี ลูกสาวเจ้าของสวนปาล์มเขาพนมว่า เหนื่อยบ้างบางครั้ง สงสารสามี เวลามีเรื่องเครียดๆ ต้องแบกปัญหาอะไรอย่างนี้ ทำให้เราเหนื่อยแทน ดีตรงที่สามีไม่เจ้าชู้ เลยไม่เหนื่อย เขาไม่โกหก มีอะไรจะบอกตรงๆ เราแค่ประคองชีวิตครอบครัวเหมือนว่า ไม่ได้คิดวางแผนอะไร แก้ปัญหาเฉพาะหน้า เราเป็นหลักเรื่องลูก เรื่องบ้าน เรื่องสวน ปล่อยสามีทำงานของเขา ให้เขาทำงานเต็มที่ ไม่ว่าจะที่ไหน อะไรยังไง
“สำหรับหลักในการประคองชีวิตคู่ของครอบครัวตำรวจให้มันไปรอด อ้นคิดว่า ต้องมีความเชื่อมั่นในตัวสามีของเรา เชื่อใจ แล้วไม่หูเบา หนักแน่น ทำให้ชีวิตครอบครัวตำรวจอยู่ได้ ไม่มีปัญหา ให้สามีทำงานเต็มที่ ไม่ต้องไปจุกจิกกับเขา อย่างอ้นก็มีทะเลาะบ้าง แต่ไม่รุนแรง มีแต่แบบนิดหน่อย ๆ เรื่องเล็กน้อย เวลาเขาเครียดๆ อารมณ์ไม่ดี อ้นจะพยายามนิ่งเข้าไว้”
เธอทิ้งท้ายว่า ส่วนมากสามีจะเครียดเรื่องเงิน เรื่องคนรอบข้าง เรื่องของนาย เจอนายดีบ้าง ไม่ดีบ้าง เราต้องคอยกระตุกเตือนให้ต้องปล่อยวาง สังคมคนเรามักจะเจอแบบนี้ เป็นธรรมดา อย่าไปเครียดมาก