“การที่เราเป็นผู้หญิง เราจะไปสนิทกับตำรวจมากไม่ได้”

 

าวนักข่าวค่ายสนามเป้าเดินเข้าออกสถานีมาตั้งแต่เริ่มจำความได้

ฟ้าวชิราภรณ์ เถาว์ทิพย์ ทายาท ..วิชัย เถาว์ทิพย์ นายทหารสังกัดกรมทหารสื่อสาร  วัยประถมเข้าโรงเรียนพญาไท ชีวิตถึงต้องมาวนเวียนอในสถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5 เกือบทุกวัน ด้วยเพราะทั้งพ่อและแม่ทำงานอยู่

คุณพ่อฟ้าเป็นช่างภาพ ถ่ายงานอยู่ในสตูดิโอ ส่วนคุณแม่อยู่ฝ่ายสนับสนุน ฟ้าถึงได้มาวิ่งเล่นอยู่ที่นี่ เธอว่า

หลังจบประถมไปเรียนต่อชั้นมัธยมโรงเรียนสารวิทยา ก่อนไปต่อคณะศิลปะศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลกรุงเทพ จบออกมาเจอสถานการณ์วายร้ายไวรัสเปลี่ยนโลก ทั้งที่กำลังมีโครงการไปแลกเปลี่ยนในประเทศสหรัฐอเมริกากับบริษัทเอกชนที่ตัวเองได้ไปทำงานอยู่

เปิดทางให้เข้าทำงานเป็นนักข่าวของสถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5 แบบไม่ได้คาดหวังมาก่อน แม้พ่อแม่ทำงานอยู่ด้วย เจ้าตัวบอกว่า กำลังหางานทำใหม่ จังหวะสถานีขาดบุคลากรถึงได้รับโอกาสเข้ามา  ยอมรับเครียดมาก เพราะแทบไม่รู้จักอะไร มีแค่ตอนเด็กอยากเป็นผู้ประกาศข่าว ได้ออกหน้ากล้อง พอมาทำจริงประหม่า ต้องหาสายลง เนื่องจากยังไม่รู้ว่าชอบ หรือถนัดด้านไหน หัวหน้าให้วนไปก่อน ทั้งสังคม การเมือง อาชญากรรม

สุดท้าย วชิรภรณ์เลือกชอบสายข่าวอาชญากรรม เหตุผลเพราะลุยดี สนุก ได้ออกภาคสนาม เข้าไปอยู่ในเหตุการณ์สถานการณ์จริง ตามข่าวบุกจับยาเสพติด จับคนร้าย ทลายแก๊งสารพัด  ฟ้าเป็นคนที่จะไม่ค่อยชอบทำงานในออฟฟิศ ชอบออกไปข้างนอกมากกว่า  ชอบไปเจอคน แล้วข่าวอาชญากรรมมันตื่นเต้นดี ได้ไปไหนต่อไหน เจออะไรใหม่ ๆ ไม่ซ้ำ

กระนั้นก็ตาม เจ้าตัวว่า มาทำงานตอนแรกเครียดตรงเขียนข่าวไม่ได้ เพราะมีความรู้แต่ภาษาอังกฤษ เรียนมาสายนั้นโดยตรง การใช้ภาษาไทยไม่ค่อยดี ใจหนึ่งท้อไม่อยากไปต่อแล้ว แต่ต้นสังกัดให้โอกาสลองทำให้เต็มที่ วนไปอยู่การเมืองสัมภาษณ์รัฐมนตรีกลับมายังเขียนข่าวไม่ค่อยได้ พอได้วนมาข่าวอาชญากรรมสักประมาณไม่กี่สัปดาห์ ตัดสินใจเลย

เริ่มปรับ เริ่มเรียนรู้ว่า เขียนตำรวจจะเขียนประมาณไหน กลับไปเขียนอะไรยังไง กระทั่งลงตัว จริง ๆ ตอนแรก ฟ้าวางภาพนักข่าวว่า ถ้ามีหลายๆ ช่องรวมกันจะต้องแข่งกัน มีข่าวแล้วไม่บอกคนนี้  แต่พอมาอยู่ด้วยกันแล้ว เหมือนช่วยกันมากกว่า แบ่งปันข่าวกัน บอกหมายข่าว แบ่งหน้าที่กันไปทำแล้วช่วยกันพิมพ์  ทว่าที่สำคัญสุด รุ่นพี่จะสอนฟ้าเสมอเรื่องการวางตัว การที่เราเป็นผู้หญิง เราจะไปสนิทกับตำรวจมากไม่ได้ ต้องมีการเว้นระยะกับผู้ใหญ่

 

ประสบการณ์ทำงานเพียงปีเดียว วชิรภรณ์มองว่า นักข่าวไม่ได้เป็นภาพที่แย่อย่างที่เราคิด แต่อนาคตยังไม่คิดลงเอยในอาชีพนักข่าว อยากเป็นตำรวจ สมัครไว้แล้วทว่าเจอโควิดพอดี ทำให้ต้องเลื่อนไป คิดแค่ว่า อาชีพข้าราชการค่อนข้างที่จะมั่นคงในบั้นปลายชีวิต ยิ่งพอได้สัมผัสทำงานกับตำรวจ ยิ่งอยากเป็นตำรวจ ได้เห็นว่าตำรวจทำงานกันอย่างไร ประสานกันอย่างไร จับกุมคนร้ายกันอย่างไร ทำให้ซึมซับในความเป็นตำรวจมากขึ้น

 

 

 

 

RELATED ARTICLES