ตำรวจแนะวิธีป้องกันไม่ให้ตกเป็นเหยื่อโดนแบล็กเมล์ออนไลน์

 

พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ในฐานะรองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ รับนโยบายจาก พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แจ้งเตือนและประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรู้เท่าทันถึงอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พร้อมกำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำการสืบสวนจับกุมผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดพบในปัจจุบัน มีประชาชนจำนวนมากที่ได้รับความเสียหายจากการถูกข่มขู่ในโลกออนไลน์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากการถูกข่มขู่ในลักษณะของการแบล็กเมล์รีดเอาทรัพย์ มักจะมีต้นเหตุมาจากการที่คนร้ายสามารถเข้าถึง หรือครอบครองข้อมูลที่เป็นภาพถ่าย คลิปวิดีโอของเหยื่อ หากข้อมูลถูกเผยแพร่ออกไปจะทำให้เหยื่อได้รับความอับอาย คนร้ายจจะฉวยเอาโอกาสนำมาใช้เป็นเครื่องมือในการข่มขู่เหยื่อให้ส่งมอบทรัพย์สิน ภาพถ่าย หรือคลิปวิดีโอไปให้ บางกรณีอาจขู่ให้เหยื่อยอมมามีเพศสัมพันธ์ด้วย แลกกับการที่จะไม่ปล่อยภาพและคลิปวิดีโอ สำนักงานตำรวจแห่งชาติขอแนะนำ หลัก “3 ไม่” ที่จะช่วยป้องกันไม่ให้พี่น้องประชาชนตกเป็นเหยื่อของการแบล็กเมล์ออนไลน์ ดังนี้

“ไม่ถ่าย” คือ ไม่ถ่ายภาพหรือคลิปวิดีโอในลักษณะลามกของตัวเอง ไม่ว่าจะในกรณีใด ๆ ก็ตาม เพื่อเป็นการตัดโอกาสที่จะถูกนำไปใช้เป็นเครื่องมือในการข่มขู่

“ไม่ส่ง” คือ ไม่ส่งภาพถ่ายหรือคลิปวิดีโอในลักษณะลามกของตัวเองให้กับบุคคลอื่น แม้ว่าจะเชื่อใจบุคคลดังกล่าวมากเพียงใดก็ตาม เพราะภาพหรือคลิปวิดีโอดังกล่าวอาจถูกเผยแพร่ต่อให้กับบุคคลอื่น ไม่ว่าจะโดยตั้งใจหรือไม่ก็ตาม

“ไม่คอล” คือ การไม่คุยวิดีโอคอลกับบุคคลอื่น ในลักษณะที่ปรากฏภาพลามกของตัวเองโดยเด็ดขาด เพราะอาจถูกแอบบันทึกภาพหรือวิดีโอขณะสนทนาได้

ทั้งนี้ หากพี่น้องประชาชนสามารถทำตามหลัก 3 ไม่ ดังกล่าวได้จะเป็นการตัดโอกาสที่จะมีภาพ หรือคลิปวิดีโอลามกของตัวเอง ตกไปอยู่ในมือคนร้าย หรือผู้ไม่หวังดีที่นำมาใช้เป็นเครื่องมือในการข่มขู่แบล็กเมล์ เพื่อหวังเอาทรัพย์สินหรือประโยชน์ทางเพศในรูปแบบต่าง ๆ จากตัวท่านและบุคคลในครอบครัว หากประชาชนได้รับความเสียหายจากอาชญากรรมออนไลน์ สามารถแจ้งความร้องทุกข์ได้ที่สถานทีตำรวจในท้องที่เกิดเหตุ หรือแจ้งความออนไลน์ได้ด้วยตัวเองที่เว็บไซต์ https://www.thaipoliceonline.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

RELATED ARTICLES