“ตอนหลังไม่เลือกฟ้องใคร ไม่ว่าจะเป็นนักข่าว ทนายความ ถือว่า ทำให้เราได้ศึกษาชีวิต”

 

าวใหญ่คนดังที่มีเรื่องราวมากมายยิ่งกว่านิยายชีวิต

หญิงไก่ ศรัญญา อุปปาตะสันติ หรือชื่อดั้งเดิม วันทนีย์ หยกวิระกุล  เปลี่ยนมาเป็นสุชาดา หยกวิระกุล  และมณตา หยกรัตนกาญ เหตุที่เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาเพราะถือเคล็ด เหมือนนางสุชาดาเป็นผู้รับใช้พระพุทธเจ้า เป็นผู้ให้ ไม่มีอะไรดีขึ้น

วัยเด็กเจ้าตัวยอมรับว่า ไม่มีพ่อแม่ ไม่ได้เรียนหนังสือ อาศัยอยู่แถวตีนสะพานพระโขนง มีคนอุปการะกระทั่งเติบโตเรียนรู้วิชาชีวิต บังเอิญมีผู้หญิงข้างบ้านทำตัวเป็นคุณหญิงเก๊ พฤติกรรมน่าสงสัย ทำให้มีส่วนเข้าไปเกี่ยวข้องในการสืบข่าวให้ พล.ต.ต.บุญชู วังกานนท์ ผู้บังคับการปราบปรามสมัยนั้น จุดประกายเปิดประเด็นคดีปลอมเครื่องราชอิสราภรณ์ขึ้นมาเป็นข่าวคึกโครมเมื่อปี 2529

อายุเพียงแค่ 20 เศษเธอลงไปขุดคุยหาข้อมูลด้วยตัวเองถึงวัดเทพศิรินทราวาส ปลอมตัวไปทำบุญถวายเงินจนได้สายสะพายมาแบบง่าย ๆ  นำไปสู่การรวบรวมพยานหลักฐานจับกุมกิมเอ็ง แซ่เตียวตำนาน 18 มงกุฎผู้โด่งดัง “ทำไปทำมาโยงว่าเราสองคนเป็นพี่น้องกัน ทั้งที่เป็นคนไปชี้จับเอง ไม่ได้เป็นเครือญาติกันสักนิดเดียว แค่เคยอยู่ข้างบ้านเท่านั้น กลายเป็นภาพจำของบางคนคิดว่า หญิงไก่กับกิมเอ็งเป็นพี่น้องกัน”

การเข้าไปอยู่เบื้องหลังกระชากหน้ากากขบวนการปลอมเครื่องราชอิสราภรณ์จนตกเป็นข่าวโด่งดัง หญิงไก่เล่าว่า มีความพยายามจะวิ่งเต้นไม่ให้เป็นพยาน เสนอเงิน 6 ล้านบาท พร้อมขู่สำทับว่า ถ้าไม่อย่างนั้นตาย จะเอาโลง หรือเอาเงิน ข่าวรู้ถึงท่านสุนทร คงสมพงษ์ บอกว่า วันทนีย์ไม่ต้องกลัวให้เปิดเผยไปจนบานปลายไปถึงผู้หลักผู้ใหญ่ที่เกี่ยวข้องอีกหลายคน เสียเงินบริจาคเพื่อหวังรับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ปลอม  เราคิดว่าเราตาย เราก็ไม่กลัว เพราะอยากปกป้องพระพุทธศาสนา ปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์

หลังจากนั้นไม่นานเริ่มเข้าวงการพนันเดินสายเล่นได้เสียตามบ่อนต่างประเทศ ดวงเฮงไม่เคยพลาด กระทั่งเตะตาผู้กว้างขวางแดนอีสานอย่าง “เสี่ยเล้ง ขอนแก่น” เจริญ พัฒนะดำรงกิจ เห็นว่าเป็นผู้หญิงเก่ง ถึงขั้นรับเลี้ยงดูและชอบพาไปเล่นในต่างประเทศได้เงินเที่ยวหนึ่งหลายร้อยล้านบาท เธอบอกเคล็ดลับว่า  ก่อนจะเดินทาง มีการไหว้หัวหมู เป็ด ไก่ กลางแจ้ง  อธิษฐานจะเอาเงินมาช่วยเหลือ ตั้งมูลนิธิเด็กยากจน ในฐานะที่เราไม่มีพ่อแม่ ทำให้สำเร็จ พอกลับมาก็ตระเวนแจกเงินไปตามชนบท จนคนคิดว่า เป็นคุณหญิงจากไก่ธรรมดา เรียกกันติดปากเป็นคุณหญิงไก่ ท้ายสุดเหลือเป็นหญิงไก่

นานประมาณ 3 ปี เริ่มรู้สึกเบื่ออยากอำลาชีวิตคู่ควงของมังกรแห่งที่ราบสูง ตัดสินใจประกาศให้นายตำรวจ ใครก็ได้มาแต่งงานด้วยระหว่างไปทำบุญวัดพระพุทธชินราช จังหวัดพิษณุโลก ปรากฏมี ร.ต.ท.ชิดชัย แสงอรุณ นักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่น 39 โผล่มาแสดงตัวคนแรก ตกลงปลงใจจัดงานแต่งงานในโรงแรมเซ็นทรัลลาดพร้าว โดยไม่ได้รักกันเลย  มีการแจกเงินแจกทองแจกรถให้แขกที่มาในงานเป็นข่าวใหญ่ลงตามหน้าหนังสือพิมพ์

หญิงสาวคนดังยืนยันว่า อยู่ในแวดวงสังคมตำรวจรู้จักเพื่อนนักเรียน 4 เหล่าของสามี พยายามทำตัวดีมาตลอด ภูมิใจมากเวลาไปเลี้ยงรุ่น มีคนนับหน้าถือตา ให้เกียรติ ไม่ได้มองว่า เราทำตัวเวอร์ เป็นอะไรที่มีความสุข จนมีเหตุทำให้ตกเป็นผู้ต้องหาเข้าเรือนจำ ด้วยความเป็นคนค่อนข้างนักเลง ทำอะไรต้องสำเร็จ ไม่คิดว่า มีใครที่เราช่วยหักหลัง วางงานจัดฉากใส่ความกักขังหน่วงเหนี่ยวทำร้ายร่างกายสาวใช้ในท้องที่สถานีตำรวจนครบาลประชาชื่น

“เราสงสารเด็กต่างจังหวัด รับมาเลี้ยงดู อยู่แค่ 7 วัน ไม่คิดว่าจะโดนวางงาน เด็กหนีออกไปร้องเรียน ออกข่าวทีวีกล่าวหากักขังหน่วงเหนี่ยว เพราะมีความพยายามรีดเงิน 50 ล้านจากเรา ตอนนั้นยอมเปิดตัวไปกองปราบปรามแสดงความบริสุทธิ์ใจ แต่ก็โดนข้อหาที่สร้างขึ้นมา ตอนนั้นต้องยอมรับสารภาพ  ยอมเจ็ปบวดเพื่อหักล้างคดีค้ามนุษย์ออกไป เนื่องจากเป็นนโยบายของประเทศจะเกิดความเสียหาย”

มีมลทินไปจองจำอยู่ในทัณฑสถานหญิงกลางกว่าศาลฎีกาจะยก แต่ตอนเข้าไปเรือนจำครั้งแรก เธอรับว่า สติแตก   ในชีวิตไม่เคยคิดจะฆ่าตัวตายก็ต้องคิด เข้าไปอยู่สถานพยาบาลของทัณฑสถานหญิงกลางตอนแรก ยังไม่เอาเข้าแดน ไม่รู้เลยต้องใช้ชีวิตอย่างไร ตื่นกันตี 4 ถูกผู้คมจับขึ้นมาเหวี่ยง ตะคอกว่า ตกลงจะตื่นไหม คนอื่นตื่นกันหมดแล้ว  ต้องลุกมาอาบน้ำ  ญาติมาเยี่ยม เราก็บอกว่า เมื่อคืนโดนเหวี่ยง ไม่รู้ว่าการเยี่ยม มีการดักฟัง พอกลับเข้าไป เจอถามอีกว่า อยากตายไหม  ฟ้องใครไม่ได้ กว่าจะปรับสภาพย้ายไปเรือนนอน

ติดคุกอยู่ทั้งหมด 5 เดือนกับ 10 วันถึงมีใบปล่อยตัว หญิงไก่ว่า จริง ๆ ให้อุทธรณ์ แต่เราเป็นคนแข็ง ไม่ยอม ขอจบที่ศาลชั้นต้น  แต่ระหว่างสู้คดีค้ามนุษย์ เราขอศาลเบิกความเป็นทนายตัวเอง เพราะไม่มีใครรู้ดีเท่ากับตัวเรา  มีหลักฐานที่เราเลี้ยงดูส่งเสียงเด็ก ปลูกบ้านให้ด้วย เด็กตอบไม่ได้หันไปตามพนักงานสอบสวนหญิง เราก็จี้ถามทำไมตั้งข้อหาค้ามนุษย์ พนักงานสอบสวนคนนั้นถึงกับนั่งร้องไห้บอกทำไป เพราะกระแสสังคม

เธอรู้สึกเหนื่อยหน่ายกระบวนการยุติธรรมที่เผชิญอยู่ สู้คดีกันเหลือสุดท้ายเป็นรัฐบาลลาวกับเด็กสาวชาวลาวเป็นโจทก์ฟ้อง “ ไม่รู้จะแก้ไขอย่างไรแล้ว เพราะรักประเทศ ถ้าเราชนะก็จะเสียหายระหว่างประเทศ ถ้าเราแพ้ก็จะเสียหายประเทศไทยเอง ไปไหว้สมเด็จพุฒาจารย์ โต พรหมรังสี ตั้งสัญญาว่า ถ้าลูกออกไป ลูกจะขอปฏิบัติธรรม ถือศีล 9 ตลอดชีวิต ขอให้รับหมายแล้วมาไม่ได้จากประเทศลาว ไหว้ทุกวันเลย ปรากฏเกิดอุบัติเหตุทำให้พวกนั้นไม่มาศาล”

ตอนอยู่เรือนจำ หญิงไก่ระบายอีกว่า  ไม่มีญาติเยี่ยม เพราะเราไม่ต้องการให้ใครมาเยี่ยม ไม่ต้องการพบใคร  อยากศึกษาว่า ชีวิตเราเป็นอย่างนี้ เราผาดโผนมาขนาดนี้ ข้ามน้ำข้ามทะเล ชีวิตต้องไปอยู่ในเรือนจำ ศึกษาจบทั้งนักธรรมตรี นักธรรมโท เรียนสมาธิ เรียนกรรมฐาน จมอยู่ในห้องสมุด  ไปเรียนรู้ชีวิต เห็นอะไรต่อมิอะไรหลายอย่าง

พ้นโทษออกมานุ่งขาวหุ่มขาวทำตามคำอธิษฐาน หญิงไก่ว่า พยายามให้อภัยกับคนที่ใส่ร้ายเรา ไม่วายมีเรื่องกล่าวหาในโลกออนไลน์อีกว่า มีผู้หญิงคนหนึ่งมาอ้างอยู่กับหญิงไก่ แล้วหญิงไก่เอาบัตรประชาชนไปเช่ารถเอาไปชาย ตัวเองยังไม่รู้เรื่องเลย ระดับหญิงไก่หรือจะไปเช่ารถ เป็นไปไม่ได้แน่นอน พยายามจะสร้างเรื่อง และยังมีอีกเรื่องหาว่า หญิงไก่ไปหลอกเรื่องเครื่องราชอิสริยาภรณ์ที่พระนครศรีอยุธยา ยังไม่รู้จักกันเลยมักมีคนแอบอ้างเอาชื่อเสียงของหญิงไก่ ทั้งที่เราไม่เคยมีประวัติไปหลอกลวงใคร ไม่เคยมีประวัติฉ้อโกง หลอกลวง ไม่เคยมัวหมองนอกจากคดีที่ถูกกล่าวหากักขังหน่วงเหนี่ยว แต่เมื่อเราตัดสินใจนุ่งขาวแล้วเลยตัดสินใจให้อภัยหมด  “ตอนแรกคิดจะฟ้องกลับให้หมด ตอนหลังไม่เลือกฟ้องใคร ไม่ว่าจะเป็นนักข่าว ทนายความ ถือว่า ทำให้เราได้ศึกษาชีวิต  อโหสิไปหมด แม้เราจะเป็นฝ่ายเสียหาย สรุปแล้วไม่จริงเลยสักเรื่องเดียว”

ถามถึงเรื่องชีวิตความรักเพิ่งตัดสินใจหย่าขาดจากสามีที่เป็นนายตำรวจหลังจากพ้นโทษออกมา เลือกเดินสายธรรมะ เธอย้ำว่า ผู้ชายที่ผ่านเข้ามาในชีวิตแต่งงานจดทะเบียนสมรสเป็นเรื่องเป็นราวมีคนเดียว คนอื่นมีแต่มาจีบ ไม่ถึงขั้นเป็นแฟน เหมือนอดีตนายพลตำรวจคนหนึ่งที่เคยมีข่าว เกิดข้อพิพาทเพราะอีกฝ่ายมีครอบครัวแล้ว มีการคุมไอ้โม่งฉุดพาเราไปกองปราบปรามจนเพื่อนนายร้อยตำรวจร่วมรุ่นต้องลงมาเคลียร์ ทำให้ต้องตัดสินใจแยกทาง เป็นเหตุให้ต้องติดกล้องวงจรปิดไว้ในห้องถ่ายภาพไว้ไปต่อรองเพื่อให้พ้นทางความสัมพันธ์กัน

“ที่ตัดสินใจทำ เพราะคิดว่ามันวุ่นวาย ถามว่า ตอนแรกไปคบหากันได้อย่างไร ด้วยยความที่เราชอบช่วยคน ในฐานะที่เป็นสะใภ้ของนักเรียนนายร้อยตำรวจ ถ้าเรายึดผู้การคนหนึ่งได้ เราสามารถช่วยตำรวจได้ทั้งประเทศ ใครจะแต่งตั้งโยกย้าย ใครจะไปอยู่ที่ไหน ภูมิใจมากเลย เวลาน้องๆ มาหา เอาไหล่มาให้ติดเครื่องหมาย เลื่อนตำแหน่ง  แต่สิ่งที่เราทำ ไม่เคยได้รับเงินจากใครเลย มีแต่เต็มใจช่วย ทำไปทำมาบานปลาย พอคลิปออก เมียอีกฝ่ายมาท้าว่า จะเห็นดีกว่า กระทั่งนายพลคนนั้นถูกคำสั่งย้าย  เรื่องของเรื่อง เราเป็นคนที่ค่อนข้างนักเลง รักพี่รักน้อง ถ้าท้ากันอย่างนี้ คิดว่า ไหนๆ ชีวิตกูจะดังก็ให้มันดังไป เรามีศักดิ์ศรี แล้วเราจะเห็นดีกัน วันเดียวจบเลย” หญิงไก่รำพันความหลัง

สาวใหญ่ชื่อดังยังงงกับข่าวถูกจับโยงเป็นญาติกิมเอ็งและหมอหยองเป็นตุเป็นตะว่าเป็น 3 พี่น้องทำงานโกงด้วยกัน ทั้งที่ไม่ได้เกี่ยวกัน ชี้แจงไปหลายครั้งแล้ว ปัจจุบันบางคนยังเชื่อเป็นแบบนั้น สมัยเจอกิมเอ็งในคุก เธอรี่เข้าไปตบหน้าบอกไปเลยไหนใครว่า เราเป็นอะไรกัน บอกเจ้าหน้าที่ว่า ขอโทษนะ หญิงไก่ตบไปแล้ว ไม่เคยคุยกันเลยไปบอกทำไมว่า เป็นพี่น้องกัน

สำหรับที่มาของชื่อหญิงไก่ เจ้าตัวอธิบายอีกรอบว่า นักข่าวจังหวัดพิษณุโลกเป็นคนตั้ง เพราะเป็นคนไปแจกเงินเลยเรียกหญิงไก่ ตอนหลังคำว่าไก่หายไปเป็นคุณหญิง แต่ไม่เคยไปวางตัวให้เหมือนเป็นคุณหญิงคุณนาย มีแต่ไปแจก มีแต่ให้ รายได้มาจากตอนไปเล่นได้เปอร์เซ็นต์ที่ผู้หลักผู้ใหญ่ให้มาแย่งปันทำบุญ ให้เด็กๆ ตามชนบท สมัยนั้นมีรายได้เยอะจากการเล่น  เราไม่มีมรดกตกทอด หรือรวยมาก่อน แต่มาจากจุดเริ่มต้นที่พ่อบุญธรรมเป็นเจ้าของรถโดยสารยุค สมัคร สุนทรเวช เป็นรัฐมนตรีว่ากระทรวงคมนาคมได้สัมปทานรถโดยสารระหว่างกรุงเทพฯ-มุกดาหาร ทำให้มีรายได้จากการช่วยไปเจรจา

“พออยู่ในวงการมากๆ ก็เกิดศรัทธาในวงการ ทุกคนรักเรา เราต้องทำตัวให้ดีที่สุด เลยกลายเป็นบุคคลดัง เป็นคนที่มีพวกเยอะ อยู่ในสังคมที่ถูกมองว่า เฮ้ย ทำไมเราทำอะไรเว่อร์ๆ  จริงๆ  ไม่ใช่ เป็นความผูกพันพาไป” หญิงไก่ทิ้งเศษเสี้ยวของเรื่องราวยิ่งกว่านวนิยายชีวิต

 

 

 

 

RELATED ARTICLES