ผู้ประกาศข่าวมากประสบการณ์ของช่อง JKN 18
“พลอย” สุชาทิพ จิรายุนนท์ สาวสวยอารมณ์ดีที่มีความมุ่งมั่น เธอเป็นชาวกรุง เรียนจบโรงเรียนราชินี ก่อนไปเข้าคณะบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ด้วยความคิดตอนเด็กอยากเป็นแคชเชียร์ ชอบนั่งกดเครื่องคิดเลข ก่อนไปต่อปริญญาโทด้านการตลาด มหาวิทยาลัยมหิดล
“ครูแนะแนวสมัยมัธยมเห็นว่า พลอยเหมากับวิชาบัญชี ประเมินว่า ไปทำบัญชีไม่ตกงานแน่ พอเข้าไปเรียนจริง ๆ รู้สึกว่ายากกว่าที่คิด” พลอยรำลึกความหลังกว่าจะมาจุดประกายอยากทำประชาสัมพันธ์ด้วยความเป็นคนชอบคุย ไม่ชอบก้มหน้าก้มตาทำงานอย่างเดียว
กระทั่งเกิดจุดเปลี่ยนตอนเป็นปี 4 แต่งชุดนิสิตไปส่งบทแปลหนังของแม่ให้ช่องเอชบีโอที่สถานียูบีซีสมัยที่ยังไม่เปลี่ยนเป็นทรูวิชั่นส์ เจอหัวหน้าผู้ประกาศ ช่องยูบีซี 7 ในลิฟต์คิดว่า มาฝึกงาน คุยไปคุยมาทาบทามให้มาลองเป็นผู้ประกาศข่าว
เธอยอมรับว่า ยุคนั้นอาชีพผู้ประกาศข่าวยังไม่บูมเหมือนปัจจุบัน แถมส่วนตัวเป็นคนไม่กล้าแสดงออก ชอบทำงานอยู่เบื้องหลัง แต่แม่สนับสนุนให้ลองดู ภาพลักษณ์ก็ดี ไม่ได้ชวนไปถ่ายโป๊เปลือย ทำให้ไปลองเทสต์ตามคำชวน และด้วยความที่เป็นคนพูดภาษาไทยชัดอยู่แล้ว อ่านออกเสียงภาษาไทยได้เพราะถูกปูพื้นมาตั้งแต่เรียนมัธยม
ชีวิตของเธอได้เป็นผู้ประกาศข่าวตั้งแต่ยังไม่ได้จบปริญญาตรีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ฝึกอ่านออกเสียงเริ่มจากข่าวสั้น และคอยเสียบแทนผู้ประกาศคนอื่นที่ติดภารกิจ กระทั่งนั่งเป็นตัวจริงยาวจนเปลี่ยนเป็นช่องทีเอ็นเอ็น ระหว่างนั้นได้ลงเรียนปริญญาโทต่อตามความฝันของพ่ออยากให้ลูกรับปริญญาโทอีกใบในสายการตลอด
ผ่านไปนาน 16 ปี เกิดยุคเปลี่ยนผ่าน พลอยย้ายค่ายไปอยู่ JKN – CNBC ช่องออนไลน์ มี แอ้ม-สโรชา พรอุดมศักดิ์ ทาบทามให้มาเป็นผู้ประกาศที่หลากหลายมากกว่าเป็นข่าวเศรษฐกิจ ปล่อยโทนข่าวการเมือง สังคม ตามความต้องการของตลาดชาวบ้าน ก่อนขยับขยายมาเป็น JKN ช่อง 18 ในปัจจุบัน
“พลอยไม่เคยมีประสบการณ์การทำข่าว แต่ว่าอาศัยคอมมอนเซนส์ในการเป็นคนดู เริ่มจากเวลาเราอ่านข่าว อย่างยุคแรกๆ ไม่เท่าไหร่ เมื่อก่อนจะเน้นอ่านตามตัวอักษร ไม่ค่อยเน้นเล่าข่าว จุดที่พีกสุดคือ เหตุการณ์สึนามิ ต้องอาศัยด้นสดออกอากาศหน้าจอ ทำให้ต้องหาข้อมูลค่อนข้างเยอะ ลำพังสคริปต์ข่าวอย่างเดียวมันไม่พอ ต้องตามข่าวทุกช่องทาง พอมายุคหลังๆ ที่ต้องเล่าข่าว พลอยจะเริ่มแทนใจคนดูว่า ถ้าพลอยเป็นคนดูที่ฟังข่าวที่เราเขียนมาทั้งหมด เข้าใจไหม หรือว่ายังเอ๊ะอะไรอยู่บ้าง ถ้ายังเอ๊ะ ก็ต้องเริ่มหาข้อมูลเพิ่ม เพื่อที่จะตอบโจทย์คนดูให้หายเอ๊ะให้ได้มากที่สุด แทนใจเขาว่า ถ้าเป็นเราแล้ว เราคงจะสงสัยตรงนี้ ส่วนที่เหลือเป็นคนดูตัดสินเอง”
ตลอดหลายปีที่อยู่ในวงการพลอยบอกว่า ยังสนุกอาชีพผู้ประกาศข่าว ตื่นขึ้นมาแล้วยังมีความท้าทายในแต่ละวัน โดยเฉพาะยิ่งเวลาที่มีประเด็นข่าว เราจะเริ่มคิดในหัวแล้วว่า จะเล่ามุมไหน เรามีอารมณ์ร่วมแบบหนึ่ง แต่เราจะเสนออย่างไรให้คนดูไม่รู้สึกว่า โดนเราชี้นำ อาจยากมากตรงนั้น เพราะบางทีเพลินจนเผลอใส่อารมณ์เข้าไป ต้องพยายามกำหนดขอบเขต ตื่นขึ้นมาต้องทำอะไร นำเสนอเรื่องจริงให้ผู้ชม ให้ผู้ชมตัดสินเอาเองว่า ใคร ทำอะไร ที่ไหน เมื่อไร อย่างไร ผิดถูกกว่ากันไป
“พลอยไม่ได้เรียนเรื่องจรรยาบรรณสื่อ ไม่ได้เรียนสื่อมวลชนมา แต่พลอยใช้คอมมอนเซนส์ของความเป็นมนุษย์ว่า เรื่องบางเรื่อง เราอย่าไปอะไรมาก ต้องมองให้กว้าง ให้ลึกมากขึ้น” ผู้ประกาศสาวค่าย JKN ทิ้งท้าย