เซียนนักตบมือถือรางวัลออสการ์ ตระเวนก่อเหตุ “หลอกซื้อโทรศัพท์มือถือ” ทั่วเมืองกรุง มีเหยื่อนับร้อยความเสียหายนับล้าน แผนประทุษกรรมสุดและแยบยลทำเอา พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล โปรไฟล์เลอร์นักวิเคราะห์แผนประทุษกรรมชื่อดังถึงกับเส้นกระตุก ส่งชุดสืบนครบาลและนักเรียนสืบสวนคดีอาญารุ่น 112 จับกุมตัวได้ แต่ยังไม่สิ้นสุดการแสดง คนร้ายปล่อยโฮเรียกน้ำตาจระเข้ สร้างสตอรี่ชีวิตรันทดหดหู่ เรียกคะแนนสงสารชุดจับกุม ทว่าไม่ได้ผลเมื่อเหล่ากฐินจากผู้เสียหายตามมาดูตัวและให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่จนสุดท้ายเจ้าตัวยอมรับ ทำไป เพราะติดพนันและเปย์ ไซด์ไลน์ ผู้การจ๋อติดประกาศเปิดเผยใบหน้า ท่านใดเคยตกเป็นเหยื่อรีบแจ้งเบาะแสมาที่เพจสืบนครบาล IDMB
ทั้งนี้ พล.ต.อ.ดํารงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ สั่งการให้ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผู้กำกับการวิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล พ.ต.อ.พัชรดนัย การินทร์ ผู้กำกับการ (สอบสวน) กลุ่มงานสอบสวน กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล พ.ต.อ.ธนากร อ่อนทองคำ ผู้กำกับการสืบสวน 4 กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล พ.ต.ต.ธัญพีรสิษฐ์ จุลพิภพ สารวัตร (สอบสวน) กลุ่มงานสอบสวน กองบังคับการตำรวจนครบาล 4 ร.ต.อ.ศิวัช ยังอุ่น รองสารวัตรกองกำกับการสืบสวน 4 กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล ร.ต.อ.กฤษณะ ชนิดไทย รองสารวัตร(สอบสวน) สถานีตำรวจภูธรบางกระท่ม จังหวัดพิษณุโลก พร้อมนักเรียนอบรมหลักสูตรสืบสวนคดีอาญารุ่น 112 ตั้งแฟ้มติดตามตัวคนร้าย
กระทั่งรวบตัวนายวิมลสรากร เกตุวันธรรม หรือชื่อเดิมนายวัฒนชัย จิตรีเหิม ชื่อเล่น แอร์ ชื่อแฝง ราเชน อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 581/2 ถนนจรัญสนิทวงศ์ แขวงบางขุนศรี เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร ข้อหา ลักทรัพย์ผู้อื่นโดยใช้กลอุบาย ได้บริเวณร้านอาหารตามสั่งหน้า สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพฯ (สายใต้เก่า) แขวงอรุณอมรินทร์ เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร ตรวจประวัติมีหมายจับคดีฉ้อโกงทรัพย์อีก 4 หมายหลายท้องที่ และมีประวัติต้องโทษอีก 11 คดี จากพฤติการณ์สุดแพรวพราว เป็นนักต้มตุ๋นรางวัลออสการ์ อาชญากรสุดแสบที่ตระเวน “หลอกซื้อโทรศัพท์มือถือ” มีผู้เสียหายตกเป็นเหยื่อทั่วกรุงไม่ต่ำกว่า 100 ราย ความเสียหายรวมกว่าล้านบาท แผนประทุษกรรมสุดแยบยล เริ่มต้นจากเจ้าตัวจะแฝงตัวอยู่ในเฟซบุ๊กตามกลุ่มซื้อขายโทรศัพท์หาเหยื่อที่ “โพสต์ขายโทรศัพท์” เข้าไปสนทนาติดต่อขอซื้อโดยวิธีการ “ชนมือ” หรือการนัดพบเพื่อซื้อขาย เลือกเหยื่อที่อยู่ในพื้นที่กรุงเทพมหานครไม่ไกลจากที่พัก
เมื่อคนร้ายนัดหมายเจอกันกับเหยื่อถึงขั้นตอนการจ่ายเงินซื้อโทรศัพท์จากเหยื่อ คนร้ายจะทำทีกดโทรศัพท์โอนเงิน แต่จะโอนในรูปแบบ “โอนล่วงหน้า” กรรมวิธีนี้แนบเนียน เพราะหน้าที่ทำรายการจะมีลักษณะคล้ายคลึงกับการโอนเงินจริงๆ และแม้จะไม่มีเงินในบัญชีก็สามารถกดโอนล่วงหน้าเช่นนี้ได้ โ ไคล์แม็กส์จะอยู่ที่เมื่อคนร้ายกดโอนเงินล่วงหน้าสำเร็จแล้ว แอปพลิเคชันธนาคารจะขึ้นว่าการโอนเงินล่วงหน้าสำเร็จ คนร้ายจะนำภาพสลิปโอนเงินเป็น “สลิปปลอม” โชว์ให้เหยื่อดูจนตายใจปิดการขายแยกย้ายกันไป กว่าเหยื่อจะรู้ตัวอีกทีก็ต่อเมื่อได้ตรวจสอบเงินในบัญชีของตัวเองเท่านั้น ปัจจุบันเหล่าผู้เสียหายผุดขึ้นมาอย่างไม่หยุดไม่หย่อนกว่า 100 รายแล้ว พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล ส่งชุดสืบนครบาล และนักเรียนอบรมหลักสูตรสืบสวนคดีอาญารุ่น 112 ปรระเดิมลงสนามไล่ล่าแฝงตัวเป็นพ่อค้าโทรศัพท์มือถือล่อคนร้ายมาติดกับสำเร็จ
สอบสวนสารภาพตลอดข้อกล่าวหาระบุว่า เริ่มเดินสายโจรตั้งแต่ที่พ่อเสียชีวิตและถูกบรรดาญาติพี่น้องเอาเงินประกันไปหมด ได้ไอเดียจากการลองโอนเงินแบบโอนล่วงหน้า ทำให้เกิดไอเดียในการหลอกลวงคนอื่น เงินที่ได้มาจะนำไปเล่นการพนัน และนำไปเปย์ให้กับสาวไซด์ไลน์ ยอมรับก่อเหตุลักษณะนี้มาหลายปีแล้ว ในครั้งแรก ๆการแสดงไม่เนียนถูกจับได้ก็ถูกไล่กระทืบ บางครั้งถึงกับต้องกราบเท้าเจ้าของโทรศัพท์เพื่อให้รอดจากสถานการณ์ สั่งสมมาเป็นประสบการณ์จนปัจจุบัน มั่นใจว่าทำได้อย่างแนบเนียน พยายามใช้ชีวิตอย่างแนบเนียนมาตลอดไม่คิดว่าจะมาถูกตำรวจจับได้จากการล่อซื้อแบบนี้
พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาลบอกว่า เราไม่ปักใจเชื่อในคำให้การของผู้ต้องหา รวมไปถึงไม่ได้คล้อยตามน้ำตาจระเข้ของผู้ต้องหา เพราะพยานหลักฐานจากฝั่งผู้เสียหายจำนวนมากนั้นมัดแน่น ที่สุดอันตราย คือ แผนประทุษกรรมการที่คนร้ายเลือกเปิดเผยใบหน้ามาเฟซทูเฟซในการซื้อขาย การตีเนียนกดโทรศัพท์โอนเงินต่อหน้าเหยื่อให้เห็นหน้าแอปพลิเคชันธนาคารและหน้าการโอนเงินล่วงหน้าสำเร็จ บวกกับลูกล่อลูกชนแต่งตัวเป็นพนักงานทำทีเร่งรีบ ล้วนเป็นแผนการของคนร้ายรายนี้ทั้งสิ้น ทำเอาเหยื่อเกือบทุกรายถูกเชือดแบบไม่รู้ตัว และความล้ำลึกของแผนการคนร้ายรายนี้ยังไม่จบสิ้น เพราะเมื่อเหยื่อเดินทางไปแจ้งความ เหยื่อจะมักแจ้งความเพียงว่าถูกฉ้อโกง แท้จริงเป็นพฤติการณ์เข้าข่าย ลักทรัพย์ผู้อื่นโดยใช้กลอุบาย
“ผมไม่ต้องการให้คนร้ายรายนี้เพ่นพ่านในสังคม ขอประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนผู้ที่เคยตกเป็นเหยื่อ หรือที่กำลังจะตกเป็นเหยื่อสามารถแจ้งมาได้ที่กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาลทางโทรศัพท์ หรือช่องทางเฟซบุ๊กเพจ สืบสวนนครบาล IDMB เรามีเจ้าหน้าที่ประสานงานตลอด 24 ชั่วโมง แม้ไม่ใช่คดีอุกฉกรรจ์ แต่หากเป็นความเดือดร้อนของประชาชน เราทำทันที ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล”
