พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล สั่งการให้ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง รองผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผู้กำกับการวิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษกองบังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล พ.ต.ท.พิทักษ์ ศรีกะแจะ สารวัตรกองกำกับการวิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษกองบังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล นำกำลังจับกุม นายชาญชัย พรมรุ่งโรจน์ หรือเฟรม อายุ 24 ปีชาว จังหวัดสระบุรี ตามหมายจับศาลจังหวัดสมุทรปราการ ที่ 2/2567 ลงวันที่ 4 มกราคม 2567 ข้อหา “กระทำชำเราเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปีซึ่งมิใช่ภรรยาหรือสามีของตน โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตามพาเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปีไปเพื่อการอนาจารแม้ผู้นั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตามพรากเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปีไปเสียจากบิดามารดาผู้ปกครองหรือผู้ดูแลเพื่อการอนาจาร” และ “มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พาอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะ โดยไม่ได้รับใบอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว” พร้อมของกลาง อาวุธปืนไทยประดิษฐ์ ขนาดยาว 18 เซนติเมตรจำนวน 1 กระบอก, เครื่องกระสุนปืน ขนาด .38 จำนวน 4 นัด, ปลอกกระสุนปืน ขนาด .38 จำนวน 2 ปลอก จับกุมได้ที่ บริเวณภายในสถานที่ก่อสร้างโรงพยาบาล ฝั่งขวาเลียบมอเตอร์เวย์ ถนนฉลองกรุง แขวงลำปลาทิว เขตลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร
พฤติการณ์ นายชาญชัย หรือเฟรม ผู้ต้องหารายนี้ได้ทำทีตีสนิทเด็กสาววัย 14 ปี ก่อนล่อลวงไปร่วมหลับนอน เมื่อผู้เป็นแม่เห็นความผิดปกติของลูกสาว จึงสอบถามจนทราบความจริงว่า ลูกสาวและผู้ต้องหา ได้ร่วมหลับนอนกัน จึงรีบเข้าแจ้งความร้องทุกข์ ต่อมาผู้ปกครองเดินทางไปส่งบุตรสาวที่โรงเรียนตามปกติ แต่ทราบภายหลังว่า ผู้ต้องหาได้นำพาลูกสาวหลบหนีไปไม่มีวี่แววใดๆเป็นเวลากว่า 5 เดือน จึงขอความช่วยเหลือมาที่ สืบสวนนครบาล โดยใช้เวลากว่า 45 วัน สืบสวนติดตามจนกระทั่งสืบทราบว่า ผู้ต้องหารายนี้มาเป็นคนงานก่อสร้าง ในพื้นที่ ฉลองกรุง เขตลาดกระบัง กรุงเทพ จึงนำกำลังลงพื้นที่เมื่อไปถึง นายชาญชัย ผู้ต้องหาเกิดไหวตัวทันใส่เกียร์หมาวิ่ง 4×100 เมตร แต่ไม่พ้นมือ พ.ต.ท.พิทักษ์ ศรีกะแจะ วัย 59 ปี พิสูจน์ว่าอายุเป็นเพียงตัวเลข อย่าประมาทนักสืบวัยใกล้เกษียณ วิ่งไล่จับตัวได้ดังกล่าว
“ด้วยผู้ต้องหามีพฤติการณ์ในการหลบหนี-วิ่งหนีซึ่งหน้า จึงเข้าตรวจค้นห้องเช่าไม่มีเลขที่ โดยผู้ต้องหาให้การยินยอมให้เจ้าหน้าที่ตรวจค้นพบ ปืนปากกา 1 กระบอก พร้อมกระสุนปืนขนาด .38 จำนวน 4 นัด พร้อมช่วยเหลือเด็กสาววัย 14 ปีที่พ่อแม่กำลังตามหา จึงได้พาน้องไปที่โรงพักและติดต่อให้ผู้ปกครองมารับตัวน้องกลับไป”
สอบสวน ผู้ต้องหาให้การว่า เมื่อช่วงเดือนมีนาคม 2566 ตนได้ทำงานที่บริษัทแห่งหนึ่ง ย่านบางบ่อ จากนั้นได้พบเจอกับเด็กสาว และแอบคบหาโดยที่ไม่ให้ผู้ปกครองของเด็กสาวทราบ ระหว่างคบหาแบบหลบๆซ่อนๆ ส่วนเด็กสาวเรียนหนังสือ ที่โรงเรียนอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่2. (ม.2) และไปมาหาสู่รับส่งระหว่างโรงเรียน มาห้องเช่าของตนเองจริง ต่อมาพ่อแม่ของเด็กสาวเริ่มจับได้ถึงความสัมพันธ์ จึงได้พาเด็กสาวหลบหนีไปอยู่ที่อื่นและหางานทำสร้างตัวด้วยกัน อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่จึงนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจนครบาลฉลองกรุง เพื่อดำเนินคดี
ด้าน พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ กล่าวว่า ขอประชาสัมพันธ์ไปยังผู้ปกครองทั้งหลาย โปรดเพิ่มความใส่ใจในตัวบุตรหลานของท่าน พยายามทำความเข้าใจกับตัวเด็ก และขอเตือนชายหัวงูนิยมหลอกเด็ก มีความผิด และโทษทางกฏหมาย และยังผิดศีลธรรมอีกด้วยหากผู้ใดมีเบาะแสการกระทำความผิด โปรดแจ้งข้อมูลมาที่เพจ “สืบนครบาล IDMB” เรามีเจ้าหน้าที่พร้อมตลอด 24 ชั่วโมง เพราะแม้ไม่ใช่คดีอุกฉกรรจ์ แต่หากเป็นเรื่องความเดือดร้อนของประชาชน เราทำทันที ตามนโยบายของพล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รักษาการ ผบ.ตร. พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร.
