ที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด พล.ต.อ.ชินภัทร สารสิน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วย พล.ต.ท.สรายุทธ สงวนโภศัย ผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด แถลงผลงานกวาดล้างจับกุมเครือข่ายยาเสพติดรายใหญ่และรายย่อยจำนวน 13 เครือข่าย ในห้วงเดือนสิงหาคม 2566 ได้ผู้ต้องหา 26 คน ยึดยาบ้า 17,200,000 เม็ด ยาไอซ์ 1,320 กิโลกรัม และเคตามีน 90 กิโลกรัม
สำหรับทั้ง 13 เครือข่ายที่จับกุมส่วนใหญ่เป็นยาเสพติดเครือข่ายพื้นที่ภาคเหนือต้นทางลำเลียงมาจากประเทศเพื่อนบ้านตามแนวชายแดน แล้วส่งกระจายไปยังทั่วภูมิภาคของประเทศ และเครือข่ายยาเสพติดที่ลักลอบขนข้ามแม่น้ำโขงแถบพื้นที่ภาคอีสาน นอกจากนี้ยังมีบางคดีที่เป็นเครือข่ายยาเสพติดจากต่างประเทศ อาศัยประเทศไทยเป็นทางผ่านและที่พักยาเสพติดก่อนจะส่งกระจายไปยังประเทศที่ 3
พล.ต.อ.ชินภัทรระบุว่า ตำรวจปราบปรามยาเสพติดและทุกหน่วยงานร่วมกันสกัดกั้นยาเสพติดที่นำเข้าจากต่างประเทศในปริมาณมาก ซุกซ่อนในรูปแบบของสินค้านำเข้าทางการเกษตรหรือสินค้าทั่วไป ขบวนการเหล่านี้เชี่ยวชาญการใช้เส้นทางหลบหลีกและเส้นทางสำรองเพื่อให้รอดพ้นการจับกุม อย่างไรก็ตามก็ไม่สามารถรอดพ้นสายตาเจ้าหน้าที่จากการร่วมมือทางการข่าวของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทำให้การจับกุมกวาดล้างเพิ่มประสิทธิภาพและสกัดยาเสพติดที่หลุดเข้าสู่สังคมได้มากขึ้น
นอกจากนี้ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติยังได้มอบนโยบายให้ตำรวจปราบปรามยาเสพติดและหน่วยงานปราบปรามยาเสพติดที่เกี่ยวข้องช่วยกันตรวจสอบและสกัดกั้นการนำเข้าสารตั้งต้นผลิตยาเสพติดจากต่างประเทศและใช้ประเทศไทยเป็นทางผ่าน ระสานกับกรมศุลกากร ตรวจยึดตู้คอนเทนเนอร์ที่ลักลอบนำเข้าสารตั้งต้นยาเสพติดที่ท่าเรือคาดว่าจะดำเนินการเปิดตู้ได้ภายใน 1-2 วันนี้
สำหรับภาพรวมตลอด พล.ต.อ.ชินภทรบอกว่า สามารถจับกุมยาเสพติดได้มากขึ้น ทั้งคดีใหม่และการขยายผลการจับกุมจากคดีเก่า รวมไปถึงการดำเนินการยึดทรัพย์และการเฝ้าติดตามความเคลื่อนไหวกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดที่ต้องดำเนินการควบคู่กันไป กลุ่มไหนเคยจับกุมแล้วต้องเฝ้าระวังและขยายผลคดี ประชาชนคนใดที่มีเบาะแสสามารถให้ความร่วมมือในการแจ้งเบาะแสแก่ที่ตำรวจได้
ส่วนบริษัทโลจิสติกส์ต่าง ๆ พบว่า ถูกใช้เป็นเครื่องมือในการลักลอบขนย้ายยาเสพติด ตบตาว่าขนส่งสินค้าต่าง ๆ จากการข่าว พล.ต.อ.ชินภัทรพบว่า ลักลอบขนย้ายยาเสพติดในจำนวนหลักแสนถึงหลักล้าน ตอนนี้หลายบริษัทให้ความร่วมมือกับตำรวจเป็นอย่างดี แต่บางบริษัทก็ไม่ให้ความร่วมมือ เรื่องนี้จะแจ้งให้กับรัฐบาลใหม่ ดำเนินการจัดการต่อไป เพื่อเพิ่มความเข้มงวดในการควบคุมบริษัทโลจิสติกส์ ไม่ใช่ปล่อยปละละเลยแบบทุกวันนี้ ผู้ขนส่งหลายรายคิดแต่เพียงว่า รับเงินส่งสินค้าเท่านั้นก็เป็นพอ แต่ไม่รับผิดชอบต่อสังคม และบริษัทก็ไม่ดำเนินการตรวจสอบประวัติคนเหล่านี้ บางรายบัตรประชาชนก็ไม่ตรวจสอบ มองว่าหลังจากนี้ ควรต้องประจานบรรดาบริษัทโลจิสติกส์ที่ไม่ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในการตรวจสอบคนขับขนส่งและการป้องกันการลักลอบขนส่งยาเสพติดผ่านระบบโลจิสติกส์
ขณะที่ประเทศเพื่อนบ้าน พล.ต.อ.ชินภัทรยืนยันให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีในเรื่องสกัดกั้นยาเสพติด แต่ต้องเข้าใจว่าสถานการณ์ภายในบางประเทศ เช่น ประเทศเมียนมาที่ยังอยู่ในสภาวะสงครามกลางเมือง อาจจะดำเนินการปราบปรามยาเสพติดได้ไม่ทั้งหมด บางพื้นที่ที่สู้รบกันและรัฐบาลกลางเมียนมาไม่สามารถเข้าไปจัดการได้ อาจจะเป็นช่องโหว่ที่ทำให้กลุ่มเครือข่ายยาเสพติดอาศัยพื้นที่สู้รบลักลอบผลิตและส่งเข้ามาในประเทศ
รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติระบุเพิ่มเติมด้วยว่า ตำรวจเตรียมขานรับนโยบายปราบปรามยาเสพติดจากรัฐบาลชุดใหม่ เชื่อว่ารัฐบาลใหม่ชุดนี้จะตั้งใจจัดการแก้ปัญหายาเสพติดไม่แตกต่างจากรัฐบาลชุดที่แล้ว เบื้องต้นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ขอข้อมูลเกี่ยวกับสถานการณ์ยาเสพติดในประเทศ ตำรวจได้ส่งข้อมูลดังกล่าวไปเรียนนายกรัฐมนตรีคนใหม่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ขณะนี้ตนเหลือเวลาราชการประมาณ 20 กว่าวัน จะทำหน้าที่ปราบปรามยาเสพติดให้เต็มที่ที่สุด ตราบใดที่ประชาชนยังจ่ายเงินเดือนให้กับตนอยู่
