ที่กองบังคับการปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผู้บังคับการปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ พ.ต.อ.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ รองผู้บังคับการปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบพ.ต.อ.ธนวัฒน์ หิ้นยกฮิ่น ผู้กำกับการ 1 กองบังคับการปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ พร้อมด้วยพล.ต.อ.อดิศร์ งามจิตสุขศรี ที่ปรึกษาผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นายภูมิวิศาล เกษมศุข เลขาธิการคณะกรรมการ ป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ ร่วมแถลงจับกุมนายวิโรจน์ อิริยะโพธิ์งาม อายุ 59 ปี นายช่างโยธาอาวุโส สำนักงานเขตลาดกระบัง ผู้ต้องหาความผิดฐาน “เป็นเจ้าพนักงาน เรียก รับหรือยอมจะรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ ของกลางเงินสด 5 หมื่นบาท ได้ภายในห้องทำงานฝ่ายโยธา สำนักงานเขตลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร
ก่อนหน้าตำรวจได้รับการประสานงานจากเจ้าหน้าที่ของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐว่า ผู้ต้องหาเรียกรับเงินสินบนจากผู้ขออนุญาตก่อสร้างอาคารขนาด 446 ตารางเมตร ยื่นเรื่องตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2565 แต่ถูกผู้ต้องหาสั่งให้แก้ไขแบบมาหลายครั้งก็ไม่ผ่าน อ้างสาเหตุต่างๆนานาจนในที่สุดก็มีการเรียกรับเงิน จำนวน 5 หมื่นบาทแลกกับการออกใบอนุญาต ผู้เสียหายเห็นว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมจึงเข้าร้องเรียนขอความเป็นธรรมกับหน่วยงานที่รับผิดชอบ
หลังรับเรื่องเจ้าหน้าที่ได้สืบสวนจนพบว่ามีการเรียกรับสินบนจริงเห็นว่าผู้ต้องหานั้นเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ แต่กลับมีการใช้ตำแหน่งอำนาจหน้าที่ในทางมิชอบและทุจริต ทำให้มีการบูรณาการกำลังร่วมวางแผนจับกุม ให้ผู้เสียหายนำเงิน 5 หมื่นบาท ไปส่งมอบให้ผู้ต้องหาที่สำนักงานเขตลาดกระบัง ตามที่ได้นัดหมาย หลังส่งมอบเงินกันเรียบร้อยแล้วเจ้าหน้าที่เข้าจับกุมทันที สอบสวนสารภาพอ้างว่าเพิ่งทำครั้งแรก
ด้าน นายภูมิวิศาล เกษมศุข เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐกล่าวว่า ต้องขอขอบคุณผู้เสียที่เห็นความอยุติธรรมที่เกิดขึ้นจนต้องแจ้งเบาะแสเข้ามาที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ กระทั่งมีการวางแผนจับกุม ขอยืนยันว่าคดีจะไม่หยุดอยู่แค่ผู้ต้องหารายเดียวอย่างแน่นอ จะต้องมีผู้รับผิดชอบมากกว่านี้ ทราบจากกรุงเทพมหานครด้วยว่า ได้สั่งตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง พร้อมทั้งสั่งย้ายผู้ต้องหาให้เข้ามาช่วยราชการแล้ว ส่วนเรื่องการสั่งพักราชการต้องรอผลสอบวินัยร้ายแรงให้เสร็จสิ้นก่อน
