รวบยกแก๊ง เครือข่าย “อาร์มกำแพงแสน” เพจหลอกรับจำนำรถส่งขายประเทศเพื่อนบ้าน

 

 

ทลายขบวนการหลอกจำนำรถ ตามเพจ สื่อ ออนไลน์ นำรถที่รับจำนำมา ลักลอบส่งขายประเทศเพื่อนบ้านทันที เมื่อเหยื่อจ่ายเงินไถ่รถคืนแล้ว ก็จะปิดเพจตัดการติดต่อแล้วหลบหนีไป จากการสืบสวนแบ่งหน้าที่กันทำอย่างชัดเจน คือ กลุ่มบัญชีม้า

กลุ่มนายทุน มีช่องทางนำรถส่งออกต่างประเทศ หาซื้อรถที่ผิดกฎหมายจำนวนมาก เพื่อไปขายต่อเพื่อหวังผลกำไร

กลุ่มนายหน้า เป็นกลุ่มที่ทำหน้าที่ คอยหลอกลวงให้เหยื่อส่งมอบรถให้ เมื่อได้รถมาแล้วก็จะประกาศเสนอขาย ให้ นายหน้าฯ หรือ นายทุน เพื่อหวังผลกำไร

กลุ่มนักบิน เป็นกลุ่มที่ทำหน้าที่ คอยไปรับ-ส่งรถ ระหว่างผู้ซื้อและผู้ขายตามคำสั่งของนายหน้า หรือ นายทุนในการเคลื่อนย้ายรถที่ผิดกฎหมายเพื่อเป็นการอำพรางอาชญกรรมของนายทุน ได้รับผลตอบแทนเป็นค่าจ้าง

พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง สั่งการ พล.ต.ต.คงกฤช เลิศสิทธิกุล ผู้บังคับการตำรวจทางหลวง  พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น รองผู้บังคับการปราบปราม ช่วยราชการตำรวจทางหลวง พ.ต.อ.ภคพล สุชล ผู้กำกับการ2 กองบังคับการตำรวจทางหลวง พ.ต.ท.กฤตย์ ธีรเวศย์สุวรรณ รองผู้กำกับการ2 กองบังคับการตำรวจทางหลวง พ.ต.ต.กล้า สมบัติพิบูลย์ สารวัตรสถานีตำรวจทางหลวง1 กองกำกับการ2 กองบังคับการตำรวจทางหลวง ปฏิบัติการ Highway Gray Market ทลายขบวนการเปิดเพจหลอกรับจำนำรถส่งขายประเทศเพื่อนบ้าน จนสามารถจับผู้ต้องได้ทั้งหมด 7 ราย ประกอบด้วย

นางสาววิยดา จุลนันท์ ตามหมายจับที่ จ.495/2567 ลงวันที่ 17 ธันวาคม 2567 ของ ศาลจังหวัดปทุมธานี ความผิดฐาน ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และโดยทุจริตหรือหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อัน เป็นเท็จโดยประการที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ประชาชน จับกุมได้เมื่อวันที่ 18 ธ.ค.67

นายประจักษ์ อานามนารถ ตามหมายจับที่ จ.505 /2567 ลงวันที่ 20 ธันวาคม 2567 ของ ศาลจังหวัดปทุมธานี ความผิดฐาน ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และโดยทุจริตหรือหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อัน เป็นเท็จโดยประการที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ประชาชน จับกุมได้เมื่อวันที่ 20 ธ.ค.67

นายเมธี นาคเกตุอุ่น ตามหมายจับของศาลจังหวัดปทุมธานี ที่ 8/2568 วันที่ 9 มกราคม พ.ศ.2568 ความผิดฐาน ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และโดยทุจริตหรือหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อัน เป็นเท็จโดยประการที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ประชาชน จับกุมได้เมื่อวันที่ 10 ม.ค.68

นายสนทยา ชนะหาร ตามหมาจับ ตามหมายจับที่ 9/2568 ของศาลจังหวัดปทุมธานี ลงวันที่ 9 ม.ค.68 ความผิดฐาน ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และโดยทุจริตหรือหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อัน เป็นเท็จโดยประการที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ประชาชนหรือรับของโจร จับกุมได้เมื่อวันที่ 11 ม.ค.68

นายณรงค์ ศรีนาวา ตามหมายจับที่ 10/2568 ของศาลจังหวัดปทุมธานี ลงวันที่ 9 ม.ค.68 ความผิดฐาน ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และโดยทุจริตหรือหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อัน เป็นเท็จโดยประการที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ประชาชนหรือรับของโจร จับกุมได้เมื่อวันที่ 11 ม.ค.68

นายธีรชัย ขวัญชัย ตามหมายจับที่ 11/2568 ของศาลจังหวัดปทุมธานี ลงวันที่ 9 ม.ค.68 ความผิดฐาน ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และโดยทุจริตหรือหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อัน เป็นเท็จโดยประการที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ประชาชนหรือรับของโจร”จับกุมได่้เมื่อวันที่ 11 ม.ค.68

นายอมรเทพ มนัสตรง ทำหน้าที่เป็นนายทุน อายุ 32 ปี ตามหมายจับที่ จ.18/2568 ข้อหา ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน โดยทุจริตหรือหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะขอให้เกิดความเสียหายแก่ประชาชน สามารถจับกุมได้เมื่อวันที่ 14 ม.ต.68

คดีนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 12 พ.ย. 67 ที่ผ่านมา นายอภิสิทธิ์ ผู้เสียหาย พบเห็น เพจFacebook ระบุข้อความรับจำนำจอดรถยนต์ รถจักรยานยนต์ทุกชนิด จึงได้ติดต่อไป พูดคุยตกลงจำนำรถยนต์กระบะยี่ห้อ FORD สีขาวทะเบียน 6กค3394 กทม. ในราคากันที่ 80,000 บาท และหักเป็นค่าดอกเบี้ย 8,000 บาท ค่าจอด 1,000 บาท จะเหลือเงินที่จะได้รับ 71,000 บาท

ต่อมาเมื่อวันที่ 26 พ.ย.67 เวลา 10.40 น. ได้นัดส่งมอบรถยนต์กัน ที่ หน้าร้านสะดวกซื้อ Cj ตำบลบางคูวัด อำเภอเมืองปทุมธานี  คนร้ายจำนวน 2 คนขับขี่รถยนต์กระบะ ยี่ห้อโตโยต้า สีดำ ทะเบียน ฒห 1991 กทม. มายังจุดส่งมอบรถ คนที่ขับขี่สวมเสื้อสีเหลือง คนที่โดยสารมาด้วยสวมเสื้อขาว ต่อมา คนเสื้อสีขาวขึ้นมาบนรถนายอภิสิทธิ์ พร้อมกับให้ทำสัญญาจำนำรถและมอบเงินสด 71,000 บาท ให้นายอภิสิทธิ์ แล้วบุคคลดังกล่าวก็ขับรถ ออกไป ต่อมาเมื่อมาถึงบ้านนายอภิสิทธิ์เล่าให้ภรรยาฟัง ภรรยาเกิดความสงสัยจึงให้ติดต่อขอรถยนต์คืนกลัวจะเป็นมิจฉาชีพ

ในวันวันที่ 26 พ.ย.67 นายอภิสิทธิ์ ติดต่อไปยังคนร้ายขอไถ่รถคืนคนร้ายแจ้งว่า ต้องจ่ายเงิน 80,000 บาท พร้อมกับค่าส่งรถอีก 400 บาท แต่ให้มอบเงินสดเมื่อส่งมอบรถแล้ว แล้วจึงให้ นายอภิสิทธิ์ฯ โอนเงินเข้าบัญชีธนาคารกรุงไทย เลขบัญชี 02850656062 ชื่อบัญชี วิยดา จุลนันท์ จำนวน 80,000 บาท โดยต้องแบ่งโอน จำนวน 4 ครั้ง ครั้งละ 20,000 บาท จึงโอนเงินไปยังบัญชีดังกล่าว หลังจากนั้นคนร้ายแจ้งว่ากำลังนำรถมาส่งคืนแต่ก็มิได้นำรถมาส่งให้แต่อย่างใด อีกทั้ง ปิดเพจและบล็อกไลน์ไม่สามารถติดต่อได้ จึงได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สภ.เมื่องปทุมธานี ให้ดำเนินคดีกับคนร้ายในความผิดฐานยักยอกนั้น

เจ้าหน้าที่จึงเริ่มตรวจสอบเส้นทางการเงินบัญชีม้าที่คนร้ายใช้รับโอนเงิน พบว่าเป็นบัญชีธนาคารของ น.ส.วิยดา จึงเชิญตัวมาสอบปากคำจนทราบว่า เคยตกเป็นเหยื่อถูกหลอกเช่นเดียวกัน เนื่องจาก น.ส.วิยดา นำรถมาจำนำแต่ไม่มีเงินไปไถถอนจึงให้น.ส.วิยดา เปิดบัญชีธนาคารให้ จากนั้นจึงขยายผลแกะรอยจากเส้นทางการเงินของบัญชีม้าดังกล่าวต่อเนื่องจนกระทั่งทราบตัวกลุ่มคนที่ทำหน้าที่เปิดเพจหลอกรับจำนำรถ แนะนำรถไปประกาศขายในกลุ่มซื้อรถเถื่อนหรือรถผิดกฎหมายทั้งในและนอกประเทศ คือ นายประจักษ์ และ นายเมธี เมื่อนายทุนตกลงซื้อขายจึงส่งนักบิน อีก 3 คน ก็คือ นายสนทยา   นายธีรชัย และ นายณรงค์ มารับรถเพื่อนำไปจอดไว้ที่โกดังของนายทุน

ก่อนขยายผลต่อเนื่องไปจนถึงนายทุนใหญ่ พื้นที่จังหวัดนครปฐม และจังหวัดกาญจนบุรี คือ นาย อมรเทพ “อาร์มกำแพงแสน” พร้อมของกลาง รถยนต์ 25 คัน ในจำนวนนี้มีรถหรูอยู่ด้วยจำนวน 5 คัน จากแนวทางสืบสวนยังทราบอีกว่า ตัวการที่คอยประสานงานระหว่างนายทุนฝัง ประเทศเพื่อนบ้าน และนายทุนฝั่งประเทศไทย คือเจ้หวาน ซึ่งเป็นคนไทยที่พูดได้ทั้งสองภาษา อีกทั้งในเขตพญาตองซู ฝั่งประเทศเพื่อนบ้านมีการปรับพื้นที่เปิดเป็นแหล่งพื้นที่พิเศษ แบบคิงส์โรมัน และฝั่งปอยเปตอีกด้วย

RELATED ARTICLES