“หมวดปุ๊กปิ๊ก” ร.ต.ท.หญิง วิชญาพร เที่ยงธรรม รองสารวัตร(สอบสวน)กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค สาวเมืองช้างแห่งอีสานใต้จากอำเภอเมืองสุรินทร์ ลูกสาว ร.ต.ท.ปราโมทย์ เที่ยงธรรม รองสารวัตรสืบสวนกองกำกับการสืบสวนภูธรจังหวัดสุรินทร์
เป็นลูกคนโตในบรรดาพี่น้องสองสาว เข้าเรียนชั้นอนุบาลโรงเรียนเทศบาล 1 วัดศรีเมือง จังหวัดนครนายก เพราะครอบครัวต้องย้ายตามพ่อไปรับราชการที่นั่น กระทั่งจบชั้นประถม 6 เป็นจังหวะผู้พ่อย้ายกลับถิ่นเกิดเลยเข้าต่อมัธยมโรงเรียนสิรินธร กระทั่งสำเร็จมัธยมปลายสอบเข้าเป็นนักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่น 67 ตามโครงการนักเรียนนายร้อยตำรวจหญิงรุ่นที่ 2
บรรจุตำแหน่งรองสารวัตรสอบสวนโรงพักบางรัก เคยไปช่วยราชการศูนย์ป้องกันปราบปรามการโจรกรรมรถ กองบัญชาการตำรวจนครบาล ทำงานอีกหน้าที่ แถมเพิ่งสำเร็จการศึกษาปริญญาโทคณะรัฐศาสตร์ สาขาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นใบเบิกทางในอนาคต
เธอเล่าว่า การที่ได้มาเป็นตำรวจก็เพราะมีพ่อเป็นตำรวจ มีส่วนซึบซับมาตั้งแต่เด็ก คิดว่าโตขึ้นต้องสวมเครื่องแบบเหมือนพ่อ ครอบครัวก็สนับสนุนด้วย นับเป็นความภาคภูมใจที่ตัวเองสามารถทำได้
“เห็นคุณพ่อแต่งเครื่องแบบตำรวจมาตั้งแต่จำความได้ ทุกเช้าก่อนไปทำงาน คุณพ่อจะส่งไปโรงเรียนพูดคุยกันตลอดว่า ไปจับคดีอะไรมาบ้าง”
หมวดสาวพนักงานสอบสวนว่า พอจบมัธยมปลายถึงไม่ลังเลจะสอบเข้าโรงเรียนนายร้อยตำรวจตามที่พ่ออยากให้เป็นนายตำรวจ ตั้งใจมุมานะอ่านหนังสือจนสอบติด พ่อจะย้ำเสมอว่า การเป็นตำรวจต้องตั้งมั่นในอุดมการณ์ และเตือนว่า ให้ระวังอย่าไปเรียกรับเงินจากใคร ตรงนี้มีส่วนให้เราจดคำพ่อมาใช้ในชีวิตตำรวจถึงปัจจุบันนี้
“คุณพ่อแน่วแน่มาก ชอบเป็นตำรวจสืบสวน ไม่อยากเป็นตำรวจจราจร เพราะไม่อยากให้ชาวบ้านด่า ไม่อยากมีความรู้สึกว่า ต้องเอาเงินค่าปรับมาเลี้ยงลูกเลี้ยงเมีย คุณพ่อถึงรักความเป็นสายสืบ สายตรวจ พร่ำสอนให้ทำความดี แม้ไม่ปรากฏผลตอนนี้ ก็ต้องดีในวันข้างหน้า ส่วนการรับสินบนจะไม่ดีต่อตัวเองและคนอื่น ทำให้เรารู้สึกภูมิใจในตัวพ่อ”
ร.ต.อ.หญิง วิชญาพร หัวเราะว่า เห็นพ่อเป็นตำรวจที่ทำงานหนักมาก หนักชนิดที่ไม่มีเวลาให้ครอบครัวจนแม่น้อยใจ ต้องทำหน้าที่ดูแลลูกแทน แต่เราก็ยังอยากเป็นตำรวจเหมือนพ่อ อาชีพตำรวจเหมือนปิดทองหลังพระ ทำดีเสมอตัว แต่เชื่อว่าสักวัน ถ้าเราทำดี ความดีก็จะปรากฏ
“มันไม่มีอะไร เกินความพยายาม” เจ้าตัวคิดแบบนั้น