ตม.ชลบุรีกวาดล้างขอทานตามแหล่งท่องเที่ยว พบรายได้วันละ 1 พันบาท ลักลอบเข้าไทยผ่านช่องทางธรรมชาติตะเข็บชายแดน
พ.ต.อ.นภัสพงษ์ โฆษิตสุริยมณี ผู้กำกับการตรวจคนเข้าเมืองชลบุรี พร้อมด้วย พ.ต.อ.นาวิน ธีระวิทย์ ผู้กำกับการสถานีตำรจภูธรเมืองพัทยา สนธิกำลังร่วมกับ นางรัชนี วรรัตน์ ผผู้อำนยการศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดชลบุรี กระทรวงความมั่นคงของมนุษย์ ตรวจสอบคนต่างด้าวเข้ามาเร่ร่อนขอทานในเขตพื้นที่เมืองพัทยา อันเป็นการทำลายภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของเมืองพัทยา
จากการกระจายกำลังลงพื้นที่ตรวจสอบ สามารถจับกุมหญิงสาวชาวกัมพูชาได้จำนวน 7 คน และเด็กอายุ 3 เดือน ถึง 3 ขวบ อีก 4 คน พร้อมยึดของกลางได้หลายรายการ เช่นแก้วน้ำ ขัน เศษเหรียญ ธนบัตรไทย และต่างประเทศจำนวนหลายพันบาท จึงควบคุมตัวมายังด่านตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดชลบุรี นอกจากนี้ตรวจสอบประวัติบุคคลข้อมูลในระบบสารสนเทศ สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองไม่พบข้อมูลการเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรแม้แต่คนเดียว
สอบสวน นางดา อายุ 36 ปี ชาวกัมพูชา หนึ่งในกลุ่มคนขอทาน ให้การว่า เธอได้หอบลูกสาววัย 3 เดือน และลูกชายวัย 2 ขวบ แอบลักลอบเข้ามาตามช่องทางธรรมชาติ จุดผ่านแดน บ้านแหลม จังหวัดจันทบุรี ก่อนจะนั่งรถตู้โดยสารมาลงยังเมืองพัทยา และเลือกที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวพาลูกๆมานั่งขอทานจากนักท่องเที่ยว เพื่อเรียกความสงสาร สาเหตุที่มานั่งขอทาน เพราะว่าเธอตัวได้เลิกกับสามี หางานทำในกัมพูชาบ้านเกิดก็ไม่มีใครรับ เพราะเธอมีลูกสองคนต้องดูแลประกอบลูกสาววัย 3 เดือน ป่วยเป็นโรคหัวใจ และเบ้าตาไม่เท่ากันตั้งแต่เกิด จึงจำเป็นต้องหาเงินรักษาลูกด้วยวิธีนั่งขอทาน เพราะมีรายได้สูงวันละประมาณเกือบ 1,000 บาท ซึ่งจะอาศัยหน้าร้านขายของเป็นที่นอนในยามดึก เป็นเวลาเกือบ 2 อาทิตย์ ก่อนจะถูกจับกุม เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อ “หลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย” และเปรียบเทียบปรับตาม พรบ. ขอทาน ก่อนควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี พร้อมผลักดันออกนอกประเทศสำหรับบุคคลที่หลบหนีมาตัวคนเดียว ส่วนแม่ลูกจำนวน 3 คู่ จะถูกส่งไปยังบ้านพักเด็ก และครอบครัวบางละมุง เพื่อรอผลตรวจดีเอ็นเอว่า เป็นแม่ลูกกันจริงหรือไม่ หากพบว่าไม่ใช่แม่ลูกกันก็ถือว่าเข้าข่ายการค้ามนุษย์
