ที่กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติพล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ต.ทินกร รังมาตย์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาลพล.ต.ต.ชนินทร์ โกพัฒน์ตา รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ต.วรวิทย์ ญาณจินดา ผู้บังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิศษ พ.ต.อ.วสันต์ ธวัชชัยวิรุตษ์ ผู้กำกับการสายตรวจ กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ ร่วมแถลงผลการจับกุม นายชัยยศ หรือบัง แจ้งกัน และนายบุญฤทธิ์ หรือโบ๊ท จันทร์ทอง พร้อมของกลางยาบ้า 2 ล้านเม็ด ยาไอซ์ 249 กิโลกรับ รถกระบะตู้ทึบ ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นรีโว่ สีขาว 1 คัน ทะเบียน 1 ฒร 6247 กรุงเทพมหานคร และโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง จับกุมบริเวณกลางซอยบงกช 17 ตำบลคลองสอง อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี
สืบเนื่องจากตำรวจสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษได้ขยายผลสืบสวนเครือข่ายยาเสพติดของนายอาร์ท ต่ำเอี่ยว ที่เคยถูกจับกุมมาตั้งแต่ปี 2564 ครั้งนั้นตรวจยึดยาบ้า 11 ล้านเม็ด จนทราบว่า มีเครือข่ายลักลอบจำหน่ายยาเสพติดของแก๊งต่ำเอี่ยวในพื้นที่ตำบลคลองสอง อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี พฤติกรรมจะใช้รถยนต์กระบะตู้ทึบเป็นที่เก็บซุกซ่อนยาเสพติดอยู่ภายในรถ และจะขับมาจอดทิ้งไว้ในซอยดังกล่าว ก่อนจะนำไปกระจายส่งให้กับลูกค้าในบริเวณพื้นที่บริเวณใกล้เคียง เมื่อเฝ้าสังเกตการณ์ทราบว่ากลุ่มคนร้ายจะขับรถกระบะไปรับยาเสพติดที่จังหวัดสุพรรณบุรี ก่อนนำมาพักไว้ในซอยดังกล่าว เพื่อรอนำไปส่งให้กับลูกค้าก่อนแสดงตัวเข้าจับกุม
สอบสวนให้การรับสารภาพว่าทำมานานกว่า 4 เดือนได้ค่าจ้างคนละ 5 หมื่นบาทต่อคน รับคำสั่งมาจากนายอาร์ท ต่ำเอี่ยว เอเย่นต์รายใหญ่ให้ไปรับยาเสพติด จากการตรวจสอบประวัตินายชัยยศ เคยมีประวัติต้องโทษคดีเกี่ยวกับยาเสพติด เมื่อปี63 ในพื้นที่สถานีตำรวจภูธรคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี อย่างไรก็ตามได้สั่งการให้กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติดขยายผลเครือข่ายดังกล่าว พร้อมนำมาตรการยึดทรัพย์ในคดียาเสพติดมาบังคับใช้ ขณะเดียวกันในกรณีที่ผู้ต้องหาในคดียาเสพติดที่พ้นโทษแล้วกลับมาก่อเหตุอีกก็จะมีมาตรการในการเพิ่มโทษเช่นกัน
