สืบนครบาลตามตะครุบโจรตระเวนลักสายไฟทั่วกรุง

 

ตามนโยบายสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกองบัญชาการตำรวจนครบาล กำหนดให้มีการจับกุมเครือข่ายผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับการลักทรัพย์ที่สร้างความเสียหายแก่ประชาชนและสาธารณประโยชน์ รวมถึงความผิดเกี่ยวกับอาวุธปืนและเครื่องกระสุน พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล มอบหมาย  พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ สระทองออย รองผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล พ.ต.อ.อิสเรศ ปาลาพงศ์ รองผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล พ.ต.อ. นิวัตน์ พึ่งอุทัยศรี ร รองผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล สั่งการ พ.ต.อ.อรรชวศิษฎ์ ศรีบุญยมานนท์ ผู้กำกับการสืบสวน 3 กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล  พ.ต.ท.วิโรฒ จนุบุษย์ รองผู้กำกับการสืบสวน 3 กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล พ.ต.ท.นิธิ ปิยะพันธุ์ รองผู้กำกับการสืบสวน 3 กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล นำกำลัง พ.ต.ต.วรุตม์ คำหล้า สารวัตรกองกำกับการสืบสวน 3 กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล ร.ต.อ.พิชชากร กองสวัสดิ์ สารวัตรกองกำกับการสืบสวน 3 กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล ร.ต.อ.พงศธร อารีย์ สารวัตรกองกำกับการสืบสวน 3 กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล  นายวรวุฒิ พรมชาติ อายุ 29 ปี ที่อยู่ 89 หมู่ 10 ตำบลกฤษณา อำเภอขุขันธ์ จังหวัดศรีสะเกษ ผู้ต้องหาตามหมายจับร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยมีอาวุธจำนวน 3 หมายจับ ของกลางปืนพก  ดัดแปลง สีดำ จำนวน 1 กระบอก ซองบรรจุกระสุนปืนพกสั้น จำนวน 1 ซอง เครื่องกระสุนปืน ขนาด .380 ออโต้ จำนวน 4 นัด

พฤติการณ์ในการก่อเหตุ ผู้ต้องหาจะตระเวนลักสายเคเบิลและสายไฟตามจุดที่ไม่ค่อยมีผู้คนอาศัย พื้นที่กรุงเทพมหานคร ลักษณะการก่อเหตุจะตัดสายเคเบิลตามระยะที่ต้องการและเมื่อตัดเสร็จแล้วจะนำสายเคเบิลไปผูกกับท้ายรถกระบะ ของตัวเองแล้วขับลากไปให้สายเคเบิลนั้นหลุดออกมา สาเหตุที่กระทำแบบนี้เพราะเพื่อนผู้ร่วมกระทำความผิดเมื่อก่อนโดนจับกุมหมดแล้วเหลือแต่เพียงตนที่ยังไม่ถูกจับ ต้องใช้รถกระบะเป็นเครื่องทุ่นแรง เมื่อนำสายเคเบิลมาได้แล้วตนจะนำสายเคเบิลไปเผาไฟเอาทองแดงไปขาย แต่เนื่องจากสายเคเบิลที่ลักมีจำนวนมาก  ต้องนำไปเผาบริเวณใต้สะพานข้ามแม่น้ำในกรุงเทพมหานครจำนวนหลายจุดในแต่ละจุดจะไม่ซ้ำกัน ก่อนนำทองแดงทยอยขายให้ ซาเล้งรถรับซื้อของเก่า แต่จะไม่นำทองแดงทั้งหมดไปขายให้กับร้านรับซื้อของเก่า เพราะว่าจะทำให้ เกิดเป็นที่สงสัย รายได้จากการก่อเหตุละครั้ง ประมาณ 30,000 – 40,000 บไปใช้จ่ายในครอบครัว

ผู้ต้องหาให้การว่า 3 หมายจับที่ตามจับไม่ได้ เพราะว่าเมื่อตอนผู้ต้องหาอยู่มัธยมปีที่ 2 เคยเป็นนักกีฬาวิ่ง 4×100 ตัวโรงเรียน เมื่อเจอเจ้าหน้าที่ตำรวจ ผู้ต้องหาจะสวมวิญญาณนักวิ่งลมกรด อดีตตัวแทนโรงเรียนหลายสมัย วิ่งหนีการจับกุมตามหมายจับของเจ้าหน้าที่ตำรวจได้หลายครั้ง ทำให้รอดพ้นจากการจับกุมมาได้ทุกครั้ง อย่างไรก็ตามจากการขยายผลพบก่อเหตุลักษณะเดียวกันหลายท้องที่และมีข้อหาเสพยาเสพติดยาวเป็นหางว่าว

พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาลกล่าวว่ าคนร้ายรายนี้ลักสายไฟฟ้าเป็นการสร้างความเสียหาย และความเดือดร้อนให้กับประชาชนมาก จากการจับกุมมีการพกอาวุธปืนในรถยนต์ ขอประชาสัมพันธ์เตือนภัย ถ้าท่านพบเหตุใดๆ ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจโดยเร็ว อย่าเข้าดำเนินการด้วยตนเองเด็ดขาด

RELATED ARTICLES