กลายเป็นเรื่องราวบานปลาย
กรณี พญ.ธารดาว จันทร์ดำ อายุ 26 ปี แพทย์เวชศาสตร์ปฏิบัติการโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งในจังหวัดภูเก็ต พร้อมแฟนหนุ่มชาวต่างชาติ บิดา และทนายความส่วนตัวนำหลักฐานที่เกี่ยวข้องเข้าพบ พ.ต.ท.อนุกูล หนูเกตุ รองผู้กำกับการ( สอบสวน) สถานีตำรวจภูธรถลาง จังหวัดภูเก็ต
ร้องขอความเป็นธรรมถูกชายชาวสวิตเซอร์แลนด์ทำร้าย เพราะไปนั่งชมจันทร์ที่บันไดวิลล่าริมหาดในภูเก็ต แถมโดนเมียข่มขู่ด้วยว่า ยิงตายก็ไม่ผิด เพราะมีลูกเป็นตำรวจ รู้จักนายตำรวจยศใหญ่
เรื่องนี้ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มอบหมาย พล.ต.ต.สินเลิศ สุขุม ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ตตั้งกรรมการสืบสวนข้อเท็จริงหลังมีสื่อสังคมออนไลน์แฉพฤติกรรมของนายตำรวจในจังหวัดภูเก็ตอาจการรับเงินจากชาวต่างชาติทำตัวเป็นแก๊งมาเฟียต่างชาติ
“หากกระทำความผิดจริง ตำรวจคนไหน ไปรับเงินจริง มีมาเฟียจ่ายเงินดูแล ก็ต้องยอมรับสภาพ” พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ว่า
เจ้าตัวยังสั่งการให้จเรตำรวจจากส่วนกลางลงไปตรวจสอบอีกชั้นหนึ่งเพื่อไม่ให้ถูกข้อครหาตำรวจท้องที่ช่วยเหลือกัน หรือเกิดความไม่โปร่งใสขึ้น เป็นเหตุผลที่ให้จเรตำรวจจากส่วนกลางลงไปตรวจสอบตรวจสอบด้วยอย่างใกล้ชิด
พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ย้ำว่า ตำรวจทั่วประเทศ ทั้งตำรวจท้องที่และตำรวจท่องเที่ยว เคยสั่งการไปแล้วว่าให้เอาจริงกับมาเฟียชาวต่างชาติ ตามแหล่งท่องเที่ยวต่าง ๆ ไม่ใช่แค่จังหวัดภูเก็ต แต่รวมถึง กรุงเทพมหานคร ชลบุรี เชียงใหม่ หรือเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นต้น
“ผืนแผ่นดินไทย มาเฟียต่างชาติจะมามีอิทธิพลไม่ได้ ตำรวจไทยจะต้องจัดการให้หมด” แม่ทัพสีกากีชัดเจน
ยืนยันตำรวจไม่ใช่คู่ขัดแย้งชาวต่างชาติ แต่หากกระทำความผิด ตำรวจมีหน้าที่บังคับใช้กฎหมายต้องทำตามหน้าที่
“แต่ถ้าตำรวจคนใดไปมีผลประโยชน์ก็ว่ากันไปตามรายตัวบุคคลจะดำเนินอย่างยุติธรรม” ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติการันตีไม่มีช่วยเหลือเด็ดขาด
