ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.ธนา ชูวงศ์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และพล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ให้ปราบปรามกลุ่มอาชญากรรมที่กระทำความผิดทุกรูปแบบซึ่งสร้างความเดือนร้อนให้ประชาชน โดยเฉพาะผู้สุจริตหาเช้ากินค่ำ มี พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ สระทองออย รองผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล ควบคุมสั่งการให้ พ.ต.อ.วิชิต ถิรขจรวงศ์ ผู้กำกับการสืบสวน 1 กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล พ.ต.ท.พีรบูรณ์ แก้วดู รองผู้กำกับการสืบสวน 1 กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล พ.ต.ท.เอกศิษฐ์ วรกิตติ์ฐากรณ์ รองผู้กำกับการสืบสวน 4 กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล ปฏิบัติราชการกองกำกับการสืบสวน 1 กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล นำกำลัง พ.ต.ท.พัฒน์พงษ์ กื้อมะโน สารวัตรกองกำกับการวิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล ปฏิบัติราชการ กองกำกับการสืบสวน 1 กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล ร่วมกับสถานีตำรวจนครบาลพญาไทจับกุม
น.ส.มนัสนันท์ หรือจรรยพร ซารียะห์ อายุ 54 ปี ตามหมายจับศาลอาญา ที่ 1633/2560 ลงวันที่ 23 มีนาคม 2560 กระทำความผิดฐาน “ตัวการในข้อหาลักทรัพย์โดยแปลงตัวหรือปลอมตัวเป็นผู้อื่น”
พฤติการณ์ในการจับกุมเกิดขึ้นจากเพจสืบนครบาล IDMB ได้รับเรื่องร้องเรียนมาจากพ่อค้าแม่ค้าขายเสื้อผ้าย่านประตูน้ำ กรุงเทพมหานครว่ามีกลุ่มบุคคลแต่งตัวปกปิดตัวตนเดินตระเวนลักทรัพย์ในบริเวณตลาดประตูน้ำ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบพบหญิงต้องสงสัยแต่งตัวปกปิดตัวตน เมื่อแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจขอตรวจสอบทราบชื่อ น.ส.มนัสนันท์ หรือจรรยพร ซารียะห์ อายุ 54 ปี เป็นบุคคลตามหมายจับศาลอาญา ที่ 1633/2560 ลงวันที่ 23 มีนาคม 2560 และเมื่อปี 2559 เคยก่อเหตุร่วมกับเพื่อนที่ถูกจับไปก่อนหน้านี้กรีดกระเป๋าผู้เสียหาย ขณะซื้อของแถวตลาดสำเพ็งนำบัตรเอทีเอ็มของผู้เสียหายไปกดเงินที่ตู้เอทีเอ็มใกล้จุดเกิดเหตุ 7 ครั้งได้เงินไป 1 แสน 4 หมื่นบาท
สอบสวนรับว่า ไม่มีงานทำเป็นหลักแหล่ง ร่วมก่อเหตุกับนางกิมเฮงตั้งแต่ปี 2559 เรื่อยมา ออกตระเวนก่อเหตุตามตลาดประตูน้ำ โบ๊เบ๊ สำเพ็ง ที่มีคนพลุ่กพล่าน และจะแต่งตัวมิดชิดพรางหน้าพรางตัวแบบมุสลิมป้องกันถูกติดตาม ทำหน้าที่เป็นคนกรีดกระเป๋า ส่วนนางกิมเฮงเป็นคนยืนบังให้ เหยื่อที่เลือกจะเป็นผู้หญิงเท่านั้นที่สะพายกระเป๋าข้าง อาศัยจังหวะที่เหยื่อเผลอ ทำธุระ
พล.ต.ต.ธีรเดช ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาลฝากเตือนภัยประชาชนที่มักชอบไปเดินตลาดที่มีคนจำนวนมาก จะมีกลุ่มมิจฉาชีพแฝงตัวด้วย จึงขอให้เพิ่มความระมัดระวังในการดูแลทรัพย์สิน และไม่ควรใส่เครื่องประดับ และของมีค่าติดตัว หากสะพายกระเป๋าควรสะพายไว้ข้างหน้าไม่ควรสะพายไว้ข้างหลัง เพราะคนร้ายอาจแฝงตัวเข้ามาจากด้านหลังเพื่อกรีดกระเป๋าฉกทรัพย์สิน หรือของมีค่าไป
