ผบช.ภ.8 เข้มกวาดล้างต่างชาติที่เข้ามาทำผิดบนเกาะภูเก็ต

 

ด้วยปัจจุบันมีเหตุการณ์กระทำความผิดของชาวต่างชาติเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยะ อีกทั้งการกระทำ ความผิดดังกล่าวยังมีลักษณะอุกอาจ ไม่เคารพต่อกฎหมายไทย ปรากฏตามข่าวและสื่อออนไลน์ต่างๆ ทำให้ภาพลักษณ์ของการท่องเที่ยวในประเทศไทยเสียหาย และเป็นที่กังวลใจของประชาชน นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี กำชับให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติลงไปดูแล และหามาตรการในการดำเนินการ มี พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ สั่งการให้ พล.ต.ท.สุรพงษ์ ถนอมจิตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 และ พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง ผู้บัญชาการประจำสำนักงานผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ/โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เดินทางมาประชุมติดตามสถานการณ์ กำกับดูแลมาตรการในการดูแลป้องกันการกระทำความผิดของชาวต่างชาติที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ร่วมกับ พล.ต.ต.สินเลิศ สุขุม ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจสังกัด และหน่วยร่วมปฏิบัติในสังกัดสำนักงานตำรวจแห่งชาติในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต

ในการประชุม พล.ต.ต.สินเลิศ สุขุม ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ตรายงานว่า ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตมีชาวต่างชาติขออยู่ต่อในราชอาณาจักรจำนวน 32,207 ราย เหตุผลการอยู่ต่อได้ 3 อันดับแรก ได้แก่ ประกอบธุรกิจ ร้อยละ 27.94 ศึกษาในสถานศึกษาเอกชน ร้อยละ 25.04 และใช้ชีวิตบั้นปลาย ร้อยละ 15.19 จากนั้นได้รายงานถึงผลการปฏิบัติในการจับกุมชาวต่างชาติที่ได้กระทำผิดกฎหมายในห้วงตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2566 ถึงปัจจุบัน (ปีงบประมาณ 2567 ) พบว่า กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ตและหน่วยร่วมปฏิบัติในสังกัดสำนักงานตำรวจแห่งชาติในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ได้มีผลการจับกุมชาวต่างชาติกระทำผิดกฎหมายอย่างต่อเนื่อง มีผลการจับกุมจำนวนทั้งสิ้น 614 ราย ประกอบด้วย ข้อหาการประกอบอาชีพโดยไม่ได้รับอนุญาต  หลบหนีเข้าเมือง อยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด เมาแล้วขับ พระราชบัญญัติยาเสพติด ปล้นทรัพย์ ค้าประเวณี ต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงาน ความผิดเกี่ยวกับทรัพย์อื่นๆ และความผิดเกี่ยวกับเพศ

ในทุกคดีที่ผู้ต้องหาเป็นชาวต่างชาติกระทำความผิด พนักงานสอบสวนจะส่งเรื่องไปยังสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองให้ตรวจสอบ หากเข้าหลักเกณฑ์ก็จะดำเนินการเพิกถอนวีซ่า  กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ตเสนอเรื่องไปยังสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง และสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองพิจารณาแล้วพบว่า เข้าหลักเกณฑ์ และเพิกถอนวีซ่าไปแล้ว  98 ราย ก่อนมีการกำหนดมาตรการต่างๆ เพื่อนำไปปฏิบัติ ในการดูแลป้องกันการกระทำความผิดของชาวต่างชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งมาตรการในการปราบปรามกลุ่มชาวต่างชาติที่แฝงตัวเข้ามาเพื่อจงใจกระทำผิดกฎหมายในประเทศไทยกำหนดให้มีการระดมกวาดล้างการกระทำความผิดในรูปแบบต่างๆ เพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์การท่องเที่ยวให้มีความรู้สึกปลอดภัยยิ่งขึ้น

ขณะเดียวกัน พล.ต.ท.สุรพงษ์ ถนอมจิตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 ได้เปิดปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้นบริษัทให้เช่ารถในอำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ตน่าเชื่อได้ว่าเป็นบริษัทที่ดำเนินกิจการโดยชาวต่างชาติ มีคนไทยเข้าร่วมถือหุ้นเป็นนอมินีเพื่อหลบเลี่ยงกฎหมาย และเป็นความผิดตาม พระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พุทธศักราช  2542  ตรวจยึดรถยนต์และรถจักรยานยนต์กว่า 100 คัน และเอกสารอีกหลายรายการนำไปตรวจสอบขยายผลเพิ่มเติม

พล.ต.ท.สุรพงษ์ยืนยันว่า กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 มีความพร้อมในการดูแลรักษาความปลอดภัย ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติที่จะได้เดินทางมาท่องเที่ยว และกำหนดมาตรการในการดูแลป้องกันการกระทำความผิดของชาวต่างชาติไว้อย่างเป็นรูปธรรม พร้อมทั้งจะบังคับใช้กฎหมายอย่างเด็ดขาดกับผู้ที่แฝงตัวเข้ามาเพื่อจงใจกระทำผิดกฎหมาย เพื่อสร้างความเชื่อมั่นแก่ประชาชนและนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่จะเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวต่อไป

RELATED ARTICLES